กรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ตรวจน้ำเสีย “คลองกระทุ่มแบน” พร้อมหาแนวทางแก้ไข

รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นำทีมลุยตรวจคุณภาพน้ำและดินเลนคลองกระทุ่มแบน หาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำเสีย ตามคำสั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (31 พ.ค.) เวลา 09.00 น. นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้รับมอบหมายจากนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ให้นำคณะเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) กับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจคุณภาพน้ำในคลองกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามคำสั่งการของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ไปร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาน้ำเสียในคลองกระทุ่มแบน แล้วส่งผลไปยังปัญหาน้ำเสียในคลองภาษีเจริญ ซึ่งเป็นผลมาจากการลักลอบปล่อยน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อมและเคมี รวมถึงการทำเกษตรกรรมในพื้นที่ ที่ไม่มีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ลำคลอง

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้จัดแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ชุด คือ ชุดตรวจโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าข่ายการสร้างมลพิษต่อคลองกระทุ่มแบน และชุดตรวจเก็บคุณภาพน้ำในคลองกระทุ่มแบน ซึ่งก็มีทั้งการเก็บตัวอย่างน้ำและดินเลนตามจุดต่าง ๆ ตลอดสายคลอง เพื่อนำไปตรวจหาคุณภาพน้ำกับคุณภาพของดินเลน และสารปนเปื้อนที่พบอยู่ในน้ำกับในดินเลน อันจะนำไปสู่การวิเคราะห์และสรุปต้นตอของปัญหาน้ำเสียในคลองกระทุ่มแบนว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการแก้ไขทั้งทางด้านการร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ และการบังคับใช้กฎหมาย

นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบคุณภาพน้ำตามคำสั่งการของ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทั้ง 2 ชุด ได้เข้าตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่เป้าหมาย หรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าข่ายแล้ว  ก็จะนำไปตรวจสอบโดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็จะทราบผลที่ชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางกรมควบคุมมลพิษได้สั่งการให้ทางโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ตรวจพบจุดบกพร่องบางส่วนในโรงงานให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ก่อน ส่วนผลจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่จะออกมาภายหลังนั้น เมื่อทราบผลแล้วก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับต้องมีการประชุมหารือร่วมภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อการวางแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด และนำกฎหมายเข้ามาบังคับใช้อย่างจริงจังต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *