คืบหน้าสะพานกลับรถพระราม 2 ถล่ม สมุทรสาครประชุมด่วนแก้ปัญหา ญาติผู้ตายทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ

รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน หารือแก้ไขปัญหาจากเหตุแผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน

จากกรณีแผ่นปูนสะพานกลับรถ ถ.พระราม 2 กม. 34 ขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ที่อยู่ระหว่างการซ่อมแซมบำรุงหล่นลงมาทับรถยนต์ 3 คัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ส่งผลให้ต้องปิดการจราจรช่องทางหลักบริเวณดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ห้องประชุมท่าฉลอม (501) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์แผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) กรมทางหลวง แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร ฯลฯ เข้าร่วมประชุม

ซึ่งในที่ประชุมได้ร่วมหารือในเบื้องต้น ให้แก้ไขบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ที่มีปริมาณรถติดสะสม  ประมาณ 6-7 กม. และให้กรมทางหลวงเร่งวิเคราะห์สภาพสะพานโดยเร่งด่วนว่าเสียหายมากน้อยเพียงใด และมีความปลอดภัย สามารถเปิดถนนช่องทางหลักให้รถได้สัญจรได้หรือไม่ หากพบว่าสะพานมีความชำรุดมากและเสี่ยงอันตรายจนไม่สามารถเปิดช่องทางหลักได้ ขอให้เปิดช่องทางพิเศษ (Reverse Lane) โดยด่วนเพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด และขอให้กรมทางหลวงให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรให้ประชาชนทราบเป็นระยะ

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า จากเหตุการณ์แผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ วันนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ และหาแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางให้พี่น้องประชาชน ซึ่ง ถ.พระราม 2 ต้องเรียนว่ามีปริมาณรถค่อนข้างมาก และตอนนี้มีรถติดสะสมพอสมควร เนื่องจากว่าเรามีความจำเป็นต้องปิดถนนช่องทางหลักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปว่าเราจะพยายามหาทางเปิดช่องทางเดินรถเพิ่มขึ้น เพื่อลดการจราจรติดขัดฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ อีกไม่นานคงได้ทราบว่าความแข็งแรงทางวิศวกรรมของสะพานกลับรถจะมีเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นหรือเปล่า เพราะเราคิดถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นลำดับแรก ก็ต้องให้ทางวิศวกรเป็นคนให้คำตอบเรา จึงจะเดินหน้าหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องของการเดินรถต่อไป

สำหรับการซ่อมแซมสะพานกลับรถ เป็นความรับผิดชอบของสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง เนื่องจากว่าสะพานกลับรถแห่งนี้มีความชำรุดมาก และมีความอันตรายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จึงมีความจำเป็นต้องปิดสะพานกลับรถเพื่อเป็นการซ่อมแซม ส่วนที่มีปัญหาอุบัติเหตุคานสะพานถล่มลงมา ตอนนี้ตนตอบไม่ได้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ต้องให้ทางวิศวกรเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลในเรื่องโครงสร้างเพื่อให้ได้คำตอบต่อไป ทั้งนี้ ได้มีข้อสั่งการในเรื่องของการจราจร เพราะตอนนี้ติดขัดสะสมประมาณ 6-7 กม. ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องรอคำตอบจากวิศวกรว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง การเปิดช่องทางเดินรถเพิ่มจะทำได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องทางเทคนิคของการเดินรถจราจรด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ดังนั้นต้องขออภัยพี่น้องประชาชน หากมีรถติดในช่วงนี้ ต้องเรียนว่าเรามีการปิดถนนบริเวณดังกล่าว ถ้าท่านสามารถที่จะเลี่ยงไม่เดินรถบน ถ.พระราม 2 ขอให้เดินรถทาง ถ.เพชรเกษม หรือ ถ.บรมราชชนนี เพื่อที่จะเข้ากรุงเทพฯ น่าจะสะดวกกว่า เพราะปริมาณรถสะสม ถ.พระราม 2 จำนวนมาก และใช้เวลาเดินทางเยอะ อย่างไรก็ดีก็จะพยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้โดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหน้าที่ของกรมทางหลวง ในการพิจารณาเรื่องระเบียบวิธีการในการช่วยเหลือเยียวยาเรื่องของชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งทางอธิบดีกรมทางหลวงได้กำหนดแนวทางไว้แล้ว ส่วนเรื่องรายละเอียดตนยังไม่ได้รับรายงาน

สำหรับเหตุการณ์เหตุแผ่นปูนสะพานกลับรถหล่นทับรถยนต์ ถ.พระราม 2 กม.34 ขาเข้ากรุงเทพฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส 2 ราย คือ น.ส.ลัคขณา จงศิริโรจน์กุล อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์ ถูกนำส่งตัวที่โรงพยาบาลมหาชัย ขณะนี้กลับบ้านได้แล้ว อีกรายคือ นายฉัตรชัย ศิริมาศ อายุ 27 ปี คนงานก่อสร้าง ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำ อาการปลอดภัย แต่แพทย์ให้รอตรวจร่างกายอีกครั้งที่โรงพยบาลสมุทรสาคร หากไม่มีอะไรจะให้กลับบ้านช่วงบ่ายนี้ ส่วนผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส สุวรรณี รักท้วม อายุ 40 ปี  ผู้ตายที่นั่งมาในรถยนต์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี  คนงานก่อสร้างที่ตกลงมาจากสะพาน หมดสติไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ณ ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลสมุทรสาคร

ขณะเดียวกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ ได้มีญาติของนายชาญ ชาวทอง คนงานก่อสร้างที่เสียชีวิต นำข้าวของมาเซ่นไหว้และประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยมีมารดาของนายชาญ ทำพิธีด้วยตัวเองพร้อมญาติอีก 2 คน และจะนำศพของนายชาญไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด โดยมารดาของนายชาญกล่าวสั้น ๆ ว่ายังไม่มีอะไรจะให้คำตอบ เนื่องด้วยว่ายังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องเมื่อคืนนี้ ส่วนเรื่องฟ้องร้องได้ตอบสั้น ๆ ว่ายังไม่ได้คิด ต้องทำพิธีณาปนกิจศพลูกชายให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นญาติของ น.ส.สุวรรณี รักท้วม ก็ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตเช่นกัน ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *