ก.คมนาคม เร่งติดตามผลตรวจสอบข้อเท็จจริง “สะพานกลับรถถล่ม” ชี้ปฏิบัติงานผิดพลาด-จนท.ประมาท

รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีคานสะพานกลับรถวิภาราม ถ.พระราม 2 ถล่ม ทางคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯ ของ วสท. เผยโครงสร้างคานสะพาน-ระบบพื้นบนคานสะพานช่วงระหว่างเสา ยังมั่นคงแข็งแรง ขณะที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ของกรมทางหลวง เตรียมรายงานผลให้ รมว.คมนาคม ทราบไม่เกิน 25 ส.ค. นี้ เบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานฯ และความประมาทของเจ้าหน้าที่ เล็งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยลงโทษต่อ

วันนี้ (18 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกิดอุบัติเหตุคานสะพานกลับรถร่วงหล่นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ตอน สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน-นาโคก ที่ กม.34+000 บริเวณใกล้โรงพยาบาลวิภาราม ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวง, รองอธิบดีกรมทางหลวง, ผู้แทนนายกสภาวิศวกร และวิศวกรใหญ่ กรมโยธาธิการและผังเมือง, ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เมื่อ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยผู้ใช้ทางถึงความกังวลและความเชื่อมั่นในความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในการเดินทาง จึงมีข้อสั่งการให้กระทรวงฯ จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตรวจสอบมาตรฐานการก่อสร้าง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุของการถล่มของคานสะพานกลับรถดังกล่าว และรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว ทั้งนี้ กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

โดยการประชุมในครั้งนี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อสืบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ โดยมี นายเอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วสท. เป็นประธานอนุกรรมการ และมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจาก วสท. เป็นอนุกรรมการ ได้รายงานว่ามีการลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม อาทิ การตรวจสอบแบบ Visual Inspection การตรวจสอบความสมบูรณ์แข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ส่วนที่เหลือหลังจากที่ยกคานลงแล้ว ด้วยวิธี 3D Scanner ตรวจสอบขนาดของเสาและปริมาณเหล็กโดย Ferro Scan และ Rebound Hammer โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า โครงสร้างคานสะพานและระบบพื้นบนคานสะพานช่วงระหว่างเสา ยังมีความมั่นคงแข็งแรงและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดการวิบัติหรือเสียเสถียรภาพซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาในขณะนี้ และจะสร้างความมั่นใจในการใช้สะพานกลับรถ ด้วยการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุกของสะพานที่บูรณะแล้วเสร็จต่อไป

ในส่วนความคืบหน้าของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงชุดที่กรมทางหลวงตั้งขึ้น ซึ่งมีนายนรินทร์ ศรีสมพันธุ์ วิศวกรใหญ่ด้านควบคุมการก่อสร้าง เป็นประธานนั้น ได้รับรายงานว่า ได้มีการจัดประชุมและลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยได้เรียกผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการซ่อมแซมปรับปรุงสะพานกลับรถดังกล่าวมาให้ข้อมูล ขั้นตอนการทำงาน การควบคุมงานก่อสร้าง พร้อมรวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อพิจารณาหาข้อสรุปสาเหตุของการเกิดเหตุที่แน่ชัด หลังจากนี้กรมทางหลวงจะได้หารือร่วมกับ วสท. และสภาวิศวกร เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานบูรณะสะพานกลับรถตัวนี้ เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรและเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทาง

นายพิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมทางหลวงได้รายงานผลการเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงการดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ที่ประสบเหตุทั้งหมด และหลังจากได้ข้อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเอกสารหลักฐานทั้งหมดจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงฯ และกรมทางหลวงแล้ว จะรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ทราบโดยเร็ว คาดว่าไม่เกินวันที่ 25 ส.ค. 65 ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าเป็นความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของกรมทางหลวง และเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อลงโทษต่อไป ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซงใด ๆ

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *