
เกิดเหตุไฟไหม้เครื่องจักรที่ใช้ในการพิมพ์สี ภายในโรงงานผลิตเสื่อน้ำมันย่านนาดี จ.สมุทรสาคร ต้องใช้รถฉีดโฟมของเทศบาลเพลิงจึงสงบ โชคดีเพลิงไม่ลุกลามไปทั่วทั้งอาคาร และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 1 มี.ค. เกิดเหตุไฟไหม้ภายใน บริษัท เอช วี พลาส จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเสื่อน้ำมัน ตั้งอยู่เลขที่ 18/23 หมู่ที่ 5 ถนนเศรษฐกิจ 1 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยส่วนที่เกิดเพลิงลุกไหม้เป็นอาคารเครื่องจักรที่ใช้ในการพิมพ์สี ซึ่งไฟได้ลุกท่วมเครื่องพิมพ์สีและโหมรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งจากเทศบาลตำบลนาดี อบต.ท่าทราย เทศบาลเมืองคลองมะเดื่อ เทศบาลนครสมุทรสาคร เทศบาลเมืองกระทุ่มแบน อบต.บางน้ำจืด อบต.บ้านเกาะ อบต.คอกกระบือ เทศบาลตำบลสวนหลวง และรถสนับสนุนรวมเกือบ 30 คัน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ได้สนธิกำลังเข้าระงับเหตุ
แต่เนื่องจากส่วนที่เกิดเพลิงไหม้นั้นมีสารเคมีลุกไหม้ ทั้งน้ำมัน และวัตถุเคมีที่ไวต่อการติดไฟ จึงต้องใช้รถฉีดโฟมของเทศบาลตำบลนาดีเข้าฉีดพ่น จึงจะสามารถทำให้เปลวไฟสงบลงได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้อีกเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดลุกไหม้ขึ้นซ้ำ แต่เพลิงไม่ลุกลามไปทั่วทั้งอาคาร และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผลจากเพลิงไหม้ทำให้เครื่องจักรภายในโรงงานได้รับความเสียหายบางส่วน


นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายสุมิตร แผนทัด นายกเทศมนตรีตำบลนาดี พ.ต.ท.สมรภูมิ สุโพธิ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบจากพนักงานที่กำลังทำงานในช่วงเกิดเหตุ ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดจากเครื่องจักรที่ใช้ในการพิมพ์สีเสื่อน้ำมัน ซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุดเกิดขัดข้อง จึงทำให้มีประกายไฟขึ้นมาถูกสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์สีเสื่อน้ำมันจนมีไฟลุกท่วม
ขณะเกิดเหตุพนักงานที่กำลังทำงานอยู่ได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดแล้วแต่ควบคุมเพลิงไม่ได้ นอกจากไฟจะไม่ดับแล้วยังลุกโชนมากขึ้น จึงแจ้งขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลนาดี และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วย แต่ด้วยลักษณะของเชื้อเพลิงแม้จะใช้น้ำจำนวนมากแล้วก็ยังไม่สามารถดับได้ ทางเทศบาลตำบลนาดีจึงนำรถฉีดโฟมเข้าระงับเหตุทำให้เพลิงสงบลงได้ในที่สุดด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง พร้อมกับเรียกพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ดูแลสถานประกอบการมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป


สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ