3 สส. ก้าวไกล เปิดเวทีสมุทรสาคร ฟังเสียงสะท้อน ชาวประมงพื้นบ้าน-เกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

3 ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล “วรภพ-ณัฐพงษ์-ศิรสิทธิ์” เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.สมุทรสาคร หลัง กมธ.วิสามัญประมงฯ แก้ไขปัญหาใกล้เป็นจริง ด้านชาวประมงฯ ฝากผลักดันเรื่องนโยบายน้ำมันเขียว เยียวยาเรือประมงพื้นบ้านจม และไฟเขียวใช้อวนรุน 3 เดือน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2567 พรรคก้าวไกล เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวประมงพื้นบ้านและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 และนายศิรสิทธิ์ สงนุ้ย สส. สมุทรสาคร เขต 3 ลงพื้นที่ร่วมรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาและความคิดเห็นจากชาวประมงฯ และเกษตรกร ณ บริเวณลานหลังคาโค้ง วัดศรีสุทธาราม (วัดกำพร้า) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร 

นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ เปิดเผยว่า ตนในฐานะรองประธาน คนที่ 1 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ หรือ กมธ.วิสามัญประมงฯ ในโอกาสที่การแก้ไขปัญหาของพี่น้องชาวประมงผ่าน กมธ.วิสามัญประมงฯ ใกล้จะเป็นจริงแล้ว วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการมารับฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน จ.สมุทรสาคร โดยตนยังยืนยันในความตั้งใจที่จะต้องการกระจายอำนาจมายังคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดฯ ให้แต่ละจังหวัดได้ออกกฎระเบียบบังคับใช้กันเองตามบริบทของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งย่อมดีกว่าการที่ออกระเบียบจากกรุงเทพฯ และบังคับใช้เหมือนกันทุกจังหวัด

ส่วนตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า พวกเราอยากเสนอให้แก้ปัญหาจากข้างล่างขึ้นไป ไม่ใช่แก้จากข้างบนลงมา ตอนนี้เหมือนประมงพื้นบ้านไม่มีตัวตน เสนอขึ้นไปก็ถูกเตะสกัด ไม่มีใครเป็นกระบอกเสียงให้กับเรา ตอนนี้เราไม่สนแล้วว่าใครเป็นฝ่ายค้าน ใครเป็นรัฐบาล สนที่ว่าใครแก้ปัญหาให้เราได้ อยากได้คนที่รู้จริงมารับฟังและแก้ปัญหาการประกอบอาชีพของพวกเรา เพราะตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. เหมือนพวกเรานั่งกันอยู่ที่เดิม แล้วอย่างปัญหาน้ำมันแพง เราเรียกร้องกันมาหลายปีแล้ว ต้องการน้ำมันเขียวมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงเรื่องเงินเยียวยาเรือประมงพื้นบ้านที่จมกันเยอะ อยากให้ สส. ช่วยผลักดันให้เยียวยาเรือประมงพื้นบ้านตั้งแต่ 1-10 ตันกรอสส์ ให้พวกเราสักตันกรอสส์ละ 5,000 บาท 

โดยนายวรภพ ตอบกลับในประเด็นดังกล่าวว่า เราตั้งใจปรับสัดส่วนในคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดฯ โดยเพิ่มอำนาจให้กับชาวประมงที่ออกเรือจริง และสัดส่วนท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อบจ. อบต. เทศบาล ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง และตัดสัดส่วนของข้าราชการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำประมงโดยตรงออกไป ซึ่งน่าจะช่วยให้เข้าใจในปัญหาและเสียงสะท้อนของพี่น้องชาวประมงในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตนยินดีรับฟังไปผลักดันเชิงกฎหมาย รวมถึงเรื่องประกันภัยเรือประมงพื้นบ้านที่เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่หากเรือจมแล้วก็สามารถไปเบิกเงินกับประกันภัยได้ ซึ่งเคสแบบนี้คงไม่มีใครอยากเจอ แต่พอเจอแล้วสาหัสจริง ๆ ซึ่งตนก็จะรับไปผลักดันนโยบายดังกล่าวให้

ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านฯ กล่าวต่ออีกว่า ทางการบอกว่าอวนรุนของประมงพื้นบ้านมีกำลังทำลายล้างสูง ถามว่าเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ที่เรือของพวกเราไม่ได้ออกทะเลนั้นเห็นกุ้ง หอย ปู ปลาเยอะขึ้นหรือไม่ ก็ไม่เห็น แต่เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมไม่ดี น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ก็อยากให้ประกาศกฎกระทรวงออกมาให้เรือของพวกเรา 200-300 ลำ ทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย ขอใช้เรืออวนรุนแค่ 3 เดือน ใครใช้มากกว่านี้ให้เจ้าหน้าที่มาจับกุมได้เลย เพราะพวกเรามีศักยภาพกันเท่านี้ ออกเรือกันพ่อแม่ลูก ไม่ต้องเอาให้ร่ำรวย ขอแค่มีโอกาสได้มีอาชีพที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นปู่ พอกินพอใช้ เท่านี้พอแล้ว

นายวรภพ ตอบกลับเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องอวนรุน เราต้องการมาดูและมารับฟัง เพราะถ้าบอกว่าเครื่องมือไม่ได้ผิด แต่กฎหมายบอกว่าเราผิด ก็ต้องไปหาจุดร่วมว่าพื้นที่ไหนทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง และจริง ๆ เรื่องของทรัพยากรสัตว์น้ำนั้นไม่ใช่แค่ปัญหาของพี่น้องชาวประมง แต่เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศที่เราควรมีเซ็นเซอร์คอยวัดระดับน้ำเสีย ซึ่งต้องเรียกทุกฝ่ายมาคุยกัน เพื่อหาข้อตกลงและข้อสรุปเพื่อรับไปปฏิบัติด้วย

ทางด้านนายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 กล่าวในเวทีว่า ขอขอบคุณสำหรับทุกความเห็นจากชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งประเด็นเรื่องเครื่องมือประมง เรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรื่องสัดส่วนคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดฯ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว โดยเรายินดีรับไปผลักดันเต็มที่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งอะไรที่ทำได้เราบอกทำได้ อะไรทำไม่ได้เราบอกทำไม่ได้ เนื่องจากไม่มีอำนาจในฐานะรัฐบาล แต่รับรองว่าตรงไปตรงมาแน่นอน ซึ่งหากชาวประมงพื้นบ้านท่านใดมีปัญหาอะไร พวกเราในนามของ สส. พรรคก้าวไกล ก็ยินดีรับฟังเสมอ และอะไรที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ก็จะนำไปผลักดันให้สำเร็จ ขณะที่ นายศิรสิทธิ์ สงนุ้ย สส. สมุทรสาคร เขต 3 กล่าวว่า วันนี้เรายินดีมารับฟังทุกปัญหา เราไม่ใช่ฝ่ายค้านที่ค้านอย่างเดียว แต่เป็นฝ่ายค้านที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงทุกท่านด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *