ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก เชิญส่วนราชการ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯ เทศบาลนครสมุทรสาคร ภาคประชาชน หารือเรื่องการดูแล “ลานวัฒนธรรม-ศูนย์การเรียนรู้ ฯ” ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดรับไปบริหารจัดการ รวมทั้งปัญหาที่จอดรถ “ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร” เตรียมตั้งคณะกรรมการย่อย บริหารจัดการให้เกิดความเรียบร้อย
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 เม.ย. 2561 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร จัดการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก ครั้งที่ 1/2561 โดยมีนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุม ร่วมด้วย นายปราโมทย์ ชาวเมืองโขง วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ เทศบาลนครสมุทรสาคร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และภาคประชาชนเข้าร่วม
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีเรื่องของการแต่งตั้ง “คณะกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก” โดยเป็นการนำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ฯ ครั้งที่ผ่านมา 3 ฉบับ มารวมเป็นคำสั่งเดียว มีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธานกรรมการ เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานของเขตโบราณสถานป้อมวิเชียรโชฎก ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกล่าวในที่ประชุมว่า จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดย่อยเพิ่มเติม ร่วมกันบริหารจัดการในเชิงพื้นที่เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า เรื่องการบูรณะซ่อมแซมอาคารสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรสาคร (หลังเก่า) เพื่อปรับปรุงเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาครและปรับปรุงลานวัฒนธรรมบริเวณศูนย์การเรียนรู้ ฯ โดยดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2555-2559 ใช้งบประมาณจำนวน 26,845,700 บาท
หลังจากบูรณะซ่อมแซมและทำพิธีเปิดไปแล้วนั้น เมื่อ 16 ต.ค. 2560 เกิดเหตุการณ์วาตภัย ต้นไทรที่อยู่ด้านหลังอาคารล้มทับหลังคาจนเกิดความเสียหายบางส่วน ซึ่งเทศบาลนครสมุทรสาครได้เข้ามาดำเนินการแก้ไข และสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี ประเมินความเสียหายและประมาณการค่าใช้จ่ายซ่อมแซม ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมศิลปากรแล้ว และที่ผ่านมามีประชาชนส่วนหนึ่ง นำรถยนต์เข้ามาจอดภายในลานวัฒนธรรม ทำให้เกิดความเสียหาย เช่น ท่อระบายน้ำ หลอดไฟ ซึ่งทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประสานไปยังเทศบาลนครสมุทรสาคร และคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร นำแท่งแบริเออร์มากั้นไว้ชั่วคราว
ผู้แทนสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ไม่สามารถระบุได้ว่าหน่วยงานใดเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเข้าชมโบราณสถาน โดยเฉพาะการเก็บค่าเข้าชมและค่าบริการอื่น ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้อธิบดีกรมศิลปากรทราบก่อนวันเปิดให้เข้าชม ซึ่งทางกรมศิลปากรไม่ได้เป็นเจ้าของโบราณสถาน มีหน้าที่ทำนุบำรุงรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม และการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเป็นการคุ้มครองตามกฎหมาย การดำเนินการภายในเขตขึ้นทะเบียนจะต้องได้รับอนุญาตกับทางกรม ฯ ก่อน ซึ่งการซ่อมแซมโบราณสถานนั้น ประชาชนหรือหน่วยงานในท้องถิ่นสามารถทำได้ แต่ต้องมีแนวทาง แบบรูปรายการนำเสนอมาที่กรม ฯ เพื่อดูความเหมาะสม
เรื่องของแนวทางในการขับเคลื่อนกิจกรรมลานวัฒนธรรมของจังหวัดสมุทรสาคร ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในวันที่ 25-28 เม.ย. 2561 จะมีการจัดงานย้อนรอยวิถีชีวิตสมุทรสาคร และการจัดตลาดประชารัฐวัฒนธรรม โดยมีผู้ประกอบการ 14 ราย ที่ได้ขึ้นทะเบียนนำสินค้ามาร่วมจัดจำหน่าย ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดมีนโยบายให้กิจกรรมดังกล่าวเกิดความยั่งยืน ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร จะจัดแสดงมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือน
ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ในที่ประชุมได้กล่าวถึงผู้รับผิดชอบลานวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเจ้าภาพหลักที่ชัดเจน ปัญหาเรื่องพ่อค้า-แม่ค้าในตลาด และผู้มาไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯ เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วไม่มีที่จอดรถ การที่ศูนย์การเรียนรู้ ฯ เปิดได้เพียงวันเดียวแล้วปิด ข้อเสนอในการตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือกรมศิลป์ จังหวัด และฝ่ายประชาชน บริหารจัดการพื้นที่ในลักษณะบริษัทประชารัฐ ข้อเสนอในการเปิดพื้นที่ให้รถเข้า-ออก ประตูฝั่งตะวันออกของลานวัฒนธรรม โดยกั้นพื้นที่ลานวัฒนธรรมส่วนหนึ่งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหาย และให้ใช้พื้นที่ริมเขื่อนให้เป็นที่จอดรถในวันหยุด
ซึ่งทางประธานคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ชี้แจงในที่ประชุมว่า การนำรถขึ้นไปจอดบนเขื่อนไม่เหมาะสม เนื่องจากขณะนี้แท่นองค์เจ้าพ่อหลักเมืองสูงกว่าพื้นเขื่อนเพียงแค่ 10 ซม. โดยทางคณะกรรมการ ฯ มีมติที่จะบูรณะยกองค์เจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นอีก 1.30 ม. แต่ด้วยความเชื่อของทางศาล ฯ จึงต้องขอเวลา รวมทั้งได้ปรึกษากับทางเทศบาล ในการล้อมต้นไม้ในสวนไปไว้ตรงลานวัฒนธรรม ทำพื้นที่จอดรถบริเวณทางด้านข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร โดยทางศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯ จะออกเงินค่าเทคอนกรีตให้ และให้ทางเทศบาลเป็นผู้จัดการดูแล ซึ่งต้องรอนายกเทศมนตรีตัวจริงเข้ามาบริหาร และจะต้องทำประชาพิจารณ์ก่อน
ส่วนทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ชี้แจงว่า ขณะนี้มีแผนที่จะศึกษาออกแบบโครงการอาคารจอดรถในระยะยาว โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบให้ สำหรับโครงสร้างเบื้องต้นเทศบาลได้ตั้งงบประมาณผูกพันไว้ปีละ 5 ล้านบาท ซึ่งรอแบบจากกรมศิลปากรว่าจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งจะกั้นเขตบริเวณป้อมวิเชียรโชฎก เพื่อให้การดำเนินการจัดการง่ายขึ้น โดยออกแบบเบื้องต้นเสร็จแล้ว มีระบบรั้วและไฟส่องสว่าง ปิด-เปิดเป็นเวลา ในส่วนของพื้นที่สถานีตำรวจน้ำ ทางเทศบาลมีแนวคิดที่จะการจ้าง รปภ. ทำบัตรเข้า-ออก ซึ่งต้องหารือว่าจะให้เข้า-ออกทางเดียวจากทางท่าเรือเทศบาล หรือแบบวัน-เวย์ เข้าทางท่าเรือเทศบาลแล้วออกทางฝั่งสรรพกร
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง