อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยคุณภาพน้ำในแม่น้ำท่าจีนอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ตั้งแต่สามพรานไปถึงบางเลน สั่งแก้ปัญหาคุณภาพน้ำ 11 คลองสาขาในนครปฐม ด้านรัฐบาลเตรียมปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ 12 ทุ่ง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมเลื่อนเพาะปลูกเร็วขึ้น รองรับฤดูน้ำหลากช่วงกันยายน
นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า กรมควบคุมมลพิษได้ติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำแม่น้ำท่าจีน ในปี 2560 พบว่า แม่น้ำท่าจีนตอนบนมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ เทียบได้กับแหล่งน้ำประเภทที่ 3 เหมาะสำหรับใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร ขณะที่แม่น้ำท่าจีนตอนกลางและตอนล่างมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม เทียบได้กับแหล่งน้ำประเภทที่ 4 เหมาะสำหรับใช้ประโยชน์เพื่อการอุตสาหกรรม
โดยช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ช่วงอำเภอบางเลน ถึงอำเภอสามพราน มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม ซึ่งเสื่อมโทรมลงกว่า ปี 2559 ที่แม่น้ำท่าจีนตอนบนมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ดี เทียบได้กับแหล่งน้ำประเภทที่ 2 เหมาะสำหรับใช้ประโยชน์เพื่อการอนุรักษ์สัตว์น้ำ การประมง การว่ายน้ำ และกีฬาทางน้ำ และแม่น้ำท่าจีนตอนกลางอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ส่วนตอนล่างมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมเหมือนกัน
ทั้งนี้ ปัญหาคุณภาพน้ำส่วนใหญ่เกิดจากการระบายมลพิษจากแหล่งกำเนิดประเภทต่างๆ ได้แก่ ภาคชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรม โดยมีคลองหลักและคลองย่อยอีกจำนวนมาก เป็นแหล่งรองรับน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดประเภทต่างๆ รวมทั้งปัญหาการแพร่กระจายของวัชพืชน้ำ และมีการปิดประตูระบายน้ำในบางช่วงเวลา ทำให้การไหลเวียนของน้ำช้าลง ส่งผลให้คุณภาพน้ำในคลองรวมถึงแม่น้ำท่าจีนอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรม
จากปัญหาดังกล่าว พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ปัญหาคุณภาพน้ำในคลองสาขาลุ่มน้ำท่าจีน พื้นที่ จ.นครปฐม รวม 11 คลอง ซึ่งกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ เช่น การปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ และเพิ่มการไหลเวียนของน้ำ การปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลอง
อนึ่ง ในวันที่ 10 พ.ค. กรมควบคุมมลพิษ กำหนดจัดอบรม เรื่อง สถานประกอบการรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์ท่าจีน ที่โรงแรม ไมด้า แกรนด์ ทวารวดี จังหวัดนครปฐม เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำแก่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษให้ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม และดูแลปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ความรู้ด้านเทคนิควิชาการในการจัดการน้ำเสียแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 รัฐบาลจะเริ่มส่งน้ำเข้าพื้นที่ 12 ทุ่ง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ครอบคลุม 10 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้แก่ จ.นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี รวมพื้นที่ 1.15 ล้านไร่ เพื่อให้เกษตรกรได้เตรียมการเพาะปลูกข้าวเร็วขึ้น 1 เดือน
สำหรับมาตรการครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 2 โดยเลื่อนปฎิทินการเพาะปลูก และใช้พื้นที่ 12 ทุ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติชั่วคราวสำหรับพักชะลอน้ำรองรับน้ำหลากหลังเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จช่วงเดือนกันยายน โดยปีที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถรองรับน้ำไว้ได้มากถึง 1.5 พันล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนตามแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตเศรษฐกิจตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบปัญหาผลผลิตทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นประจำ จึงได้ออกมาตรการเลื่อนเวลาการปลูกข้าวจากเดือนมิถุนายน เป็นเดือนพฤษภาคม ซึ่งช่วยลดความเสียหายได้มาก พร้อมทั้งกำชับให้ขยายผลไปยังพื้นที่ลุ่มน้ำอื่นทั้งในภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย โดยเรียกร้องให้เกษตรกรร่วมกันเพาะปลูกหรือทำการเกษตรพร้อมกันเมื่อถึงเวลาเปิดปิดน้ำ เพื่อลดผลกระทบ
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ