“ในหลวง” พระราชทานโล่เกียรติคุณ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน แก่เกษตรกรสมุทรสาคร

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโล่เกียรติคุณ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย แก่นายกฤตกร แซ่เอี๊ยบ เกษตรกรประมงพื้นบ้านบางกระเจ้า จ.สมุทรสาคร เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และวันเกษตรกร ประจำปี 2561

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2561 เวลา 08.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2561 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จด้วย โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต เฝ้ารับเสด็จ และร่วมพระราชพิธี สำหรับผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนาในปีนี้ คือ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ในโอกาสวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ รวมทั้งเป็นวันเกษตรกร ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2561 เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 16 สาขาอาชีพ สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 11 กลุ่ม สหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 7 สหกรณ์ และปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน จำนวน 3 สาขา ได้แก่ นายสุธรรม จันทร์อ่อน เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง นายเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรดีเด่น นายกฤตกร แซ่เอี๊ยบ เป็นปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย

สำหรับ นายกฤตกร แซ่เอี๊ยบ วัย 63 ปี หนึ่งในผู้ได้รับรางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี พ.ศ. 2561 สาขาปราชญ์เกษตรผู้นำชุมชนและเครือข่าย ในพื้นที่ ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีพื้นฐานครอบครัวประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน หลังจากเกณฑ์ทหารได้ทำงานบนประมงขนาดใหญ่ ไต่เต้าจนสามารถซื้อเรือประมงเป็นของตนเองได้ ต่อมาทำนากุ้งกุลาดำควบคู่กันไป แต่ประสบภาวะขาดทุนและมีหนี้สินจำนวนมากจากต้นทุนค่าเช่าที่และโรคระบาดในกุ้ง ในที่สุดต้องขายเรือประมงและกลับมาทำประมงแบบพื้นบ้าน

โดยเริ่มจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตประจำวัน มีความพอเพียง ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ดำเนินการผลิตและพัฒนาอย่างสมดุล ไม่เร่งรีบไม่ลงทุนจนเกินตัว ไม่ก่อหนี้สินและไม่ทำตามกระแสของการเปลี่ยนแปลงจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อคนในชุมชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซื่อสัตย์สุจริต ใฝ่หาความรู้และนำมาใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน

รวมทั้งผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ผลิตกะปิในชุมชนบ้านกระซ้าขาว ก่อตั้งเป็นสหกรณ์ผู้ผลิตกะปิสมุทรสาคร จนเป็นกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง รณรงค์และดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำระหว่างสมาชิกชุมชนและกลุ่มเครือข่าย โดยจัดตั้งธนาคารปู คอกหอย และบ้านปลา เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เพิ่มปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำ สร้างสรรค์กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การทำป่าเทียมและไม้ไผ่ชะลอคลื่นเพื่อป้องกันการไหลของดินเลน การปลูกต้นโกงกาง ต้นแสมเพื่ออนุบาลสัตว์อ่อน

ซึ่งผลงานของนายกฤตกร สามารถนำไปแก้ไขปัญหาในหลากหลายพื้นที่และเกิดประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ ก่อให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง เป็นชุมชนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ สามารถสร้างรายได้จากการประกอบอาชีพประมง สร้างงานให้กับคนในชุมชน จนได้รับเชิญให้ร่วมเป็นคณะกรรมการประมงแห่งชาติ คณะกรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย ประธานอนุกรรมการชุมนุมสหกรณ์ประมงแห่งประเทศไทย ฯลฯ รวมถึงได้รับเชิญเป็นวิทยากรเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับส่วนราชการ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาด้วย

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *