เปิดประชุมคณะอนุกรรมการ ฯ ป้อมวิเชียรโชฎก วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เผยมีรถยนต์เข้าไปจอดในลานวัฒนธรรม สร้างความเสียหายเกือบ 2 แสนบาท ขณะที่เทศบาลนครสมุทรสาคร ชี้ถ้าจะส่งมอบพื้นที่ให้ดูแลต้องเป็นไปตามแบบที่ตรวจรับ มติที่ประชุมให้ทางวัฒนธรรมจังหวัด ฯ พูดคุยกับทางผู้รับจ้างก่อสร้าง เนื่องจากยังอยู่ในระยะประกันสัญญา
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2561 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก โดยมีนายปราโมทย์ ชาวเมืองโขง วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, นายวรงค์ เอี่ยมสะอาด นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร, นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร, นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ประธานคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ผู้จัดการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมประชุม
โดยวาระการประชุม มีเรื่องของการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2561 เพื่อกำหนดรายละเอียดในการบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก เพื่อเสนอคณะกรรมการดำเนินงาน ฯ และบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถาน ฯ ตามที่คณะกรรมการดำเนินงาน ฯ มอบหมาย
โดยคณะอนุกรรมการ ฯ ชุดดังกล่าว ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานกรรมการ, วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เป็นรองประธานกรรมการ, ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สนง.วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้แทน สนง.วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ พร้อมด้วย นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ประธานคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ผู้แทนภาคประชาชน ผู้จัดการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมเป็นกรรมการ รวมทั้งสิ้น 9 ราย
ส่วนอีกวาระหนึ่ง คือการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่โบราณสถานเขตประวัติศาสตร์ป้อมวิเชียรโชฎก ทั้งเรื่องของการบูรณะซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดจากการจอดรถยนต์ การจัดที่จอดรถยนต์ การเปิดให้ประชาชนเข้าชมศูนย์เรียนรู้ทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร และการบริหารงบประมาณหรือการจัดหารายได้
วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากความเสียหายที่มีผู้นำรถยนต์ไปจอดบริเวณลานวัฒนธรรม ทั้งฝาปิดรางระบายน้ำและระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ทางนายช่างโยธาของสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี และเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้ลงสำรวจพื้นที่และประมาณการราคาซ่อมแซม รวมยอดทั้งหมด 199,000 บาท ซึ่งจะขอนำหารือในที่ประชุมแห่งนี้ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร
ซึ่งประธานในที่ประชุม กล่าวว่า ขณะนี้สัญญาที่ทำไว้กับทางบริษัทผู้รับจ้างก่อสร้างลานวัฒนธรรมยังอยู่ในระยะประกัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 22 ก.ค. 2562 แม้ความเสียหายจะเกิดจากการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ นอกเหนือจากข้อกําหนดของผู้ว่าจ้างในสัญญาฉบับดังกล่าว แต่ถ้าเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมเองอาจจะไปกระทบกับสัญญาที่ทำไว้ จึงต้องให้ทางวัฒนธรรมจังหวัด ฯ ไปพูดคุยกับทางบริษัทผู้รับจ้างก่อน ภายในวันที่ 25 พ.ค. นี้ เพื่อจะได้ทราบว่าการซ่อมแซมจะไปในแนวทางใด
ปลัดเทศบาลนครสมุทรสาคร กล่าวว่า ตนจำได้ว่าก่อนที่จะลงมือดำเนินการ ในการประชุมเพื่อพิจารณาแบบ ตามแบบเดิมมีต้นไม้มีเยอะมาก แต่เมื่อทำจริง ๆ เป็นลานทั้งหมด ไม่รู้ว่ามีการแก้ไขแบบหรือไม่ และในปัจจุบันมีต้นไม้ตายเยอะมาก ทำให้รู้สึกแห้งแล้ง สภาพภูมิทัศน์เสื่อมโทรมมากขึ้น ซึ่งยอดเงินความเสียหายดังกล่าวตนคิดว่าน้อยเกินไปหรือไม่ อยากให้ชี้แจงว่ามีรายการซ่อมอะไรบ้าง สอดคล้องกับที่ตนเห็นหรือไม่ ควรจะซ่อมอะไรเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องการส่งมอบพื้นที่ให้ทางเทศบาลนำไปบริหารจัดการต่อ ขั้นแรกต้องเอาแบบมาดูก่อน เช็ครายการตรวจรับว่าตรงตามสเปกที่ผ่านการตรวจหรือไม่ ปัญหาคือจะหมดอายุสัญญาในเดือน ก.ค. 2562 ถ้ามีอะไรต้องทำก่อนเพื่อให้ตรงกับแบบที่ตรวจรับก็ควรต้องทำเลย เพราะถ้าหมดสิ้นสัญญา ถึงเวลาจะส่งมอบให้เทศบาลก็ไม่รู้ว่าจะเอางบที่ไหนไปทำ อย่างที่สองพอจะให้เทศบาลรับ ก็รับไม่ได้ เพราะไม่ตรงกับแบบที่ดำเนินการก่อสร้าง ก็จะเป็นเรื่องคาราคาซัง เท่ากับหยุดอยู่เฉย ๆ เกิดความเสียหายหนักขึ้นไปอีก
ประเด็นต่อมา ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งฝ่ายภาคประชาชน และทางฝ่ายคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ได้เสนอข้อคิดเห็นให้เปิดช่องทางเข้า-ออก ประตูด้านข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และกั้นแบริเออร์ลานวัฒนธรรมส่วนที่เหลือ เพื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งผ่านไปได้สะดวก และจำกัดความเสียหายของลานวัฒนธรรม
ซึ่งทางปลัดเทศบาลนครสมุทรสาคร แนะนำว่าควรเรียกทางผู้รับจ้างมาทำบันทึกข้อตกลง เพราะเป็นการรุกล้ำพื้นที่การก่อสร้างตามสัญญา ถือเป็นข้อต่อสู้ของฝ่ายผู้รับจ้างจะไม่รับผิดชอบ และถ้าเป็นมติของคณะกรรมการ ฯ ที่ให้ทำแบบนี้ เท่ากับว่ารับสภาพว่าใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์เดิมที่ตั้งไว้ จึงต้องแยกเรื่องนี้ออกเป็น 2 ส่วน ถ้าตกลงกันได้ว่าความเสียหายส่วนที่กั้นไว้ผู้รับจ้างรับผิดชอบ นอกนั้นเป็นของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯ ซึ่งมีงบประมาณ กับทางเทศบาลก็พอรับได้ แต่ในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่รับเงื่อนไข น่าจะเป็นเรื่องของประชาชนเปิดกันเอง ทางคณะกรรมการ ฯ ไม่ได้รับรอง
ส่วนทางวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร แจ้งว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธาน ยืนยันว่าไม่อนุญาตให้เปิดพื้นที่ ที่หารือกันในตอนนี้เป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้นเป็นการชั่วคราว
ขณะที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เรื่องของแนวทางการใช้งานลานวัฒนธรรม ทุกฝ่ายใช้งานร่วมกันได้ แต่ติดขัดด้วยเรื่องข้อกฎหมายซึ่งมีเยอะมาก จะทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนที่เข้ามาใช้งานเกิดความสะดวก เราไม่ได้มีมติเห็นชอบให้ทำอะไร เพียงแต่หาแนวทางให้ประชาชนสัญจรไปมาสะดวก สามารถใช้พื้นที่ด้วยความถูกต้อง ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
ซึ่งประเด็นปัญหาดังกล่าว ตนฝากฝ่ายเลขานุการ ฯ จะต้องไปคุยกับบริษัทผู้รับจ้างว่าจะสรุปกันได้อย่างไร จะรับผิดชอบได้ในส่วนไหน และจะยอมรับกติกาอะไรได้บ้าง แล้วนำมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
ส่วนประเด็นอื่น ๆ ในที่ประชุม ทางศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร แจ้งว่า งานประเพณีแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 20-24 มิ.ย. 2561 จำเป็นต้องใช้ลานวัฒนธรรมเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้ทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่กับทางจังหวัดไปแล้ว
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ