“วิระชัย” ลุยตรวจโรงงานต้นตอนำเข้าขยะพิษ

พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบโรงงานย่าน ต.กาหลง จ.สมุทรสาคร หาหลักฐานเอาผิด ขยายผลกรณีนำเข้าขยะพิษสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติก เข้ามาในเมืองไทยโดยผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 2561 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้น บริษัท ลองลัค พลาสติก แอนด์ เมทัล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 77/7 ม.2 ต.กาหลง อ.เมือง ฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานต้นตอของการนำเข้าขยะพิษ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ตรวจพบบริเวณท่าเทียบเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติก

โดยบริษัทแห่งนี้มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ ด้านหน้าโรงงานไม่มีเลขที่ และไม่มีชื่อบริษัท จากการตรวจสอบหลักฐานการขออนุญาตประกอบกิจการ ก็พบว่าได้ทำการขออนุญาตต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2561 เพื่อเป็นสถานประกอบกิจการประเภทคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่ไม่เป็นของเสียอันตราย เช่น เศษพลาสติก เศษกระดาษ และเศษโลหะ และทำพลาสติกเป็นเม็ด หรือรูปทรงต่างๆ ทำผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น กระถางต้นไม้ ถุงบรรจุขยะ ถังพลาสติก กำลังเครื่องจักร 674.10 แรงม้า มีคนงาน 25 คน

แต่จากการเข้าตรวจค้นกลับพบว่า ภายในโรงงานไม่มีคนงานมาทำงานเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่เป็นวันทำงานปกติ มีเพียงแม่บ้านและคนเฝ้าโรงงานสัญชาติเมียนมา 2 คนที่อยู่ภายในโรงงาน นอกนั้นมีแต่เครื่องจักรกับกองพลาสติก วัสดุที่ใช้ในกระบวนการผลิต และ ของเสียที่เหลือจากกระบวนการผลิตเพื่อรอไปทำลายเท่านั้น ซึ่งทางด้านของรอง ผบ.ตร. ได้เข้าตรวจค้นทุกพื้นที่ภายในโรงงาน แต่ไม่พบขยะพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งพบว่า บ่อบำบัดน้ำเสียมีลักษณะที่ไม่ได้มาตรฐาน คล้ายกับการสูบน้ำทิ้งออกไปนอกโรงงานโดยไม่ผ่านการบำบัด

รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปยังนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพ ฯ เพื่อตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ ที่ลักลอบนำเข้าขยะพลาสติกมาแปรรูป โดยวิธีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติก ซึ่งเป็นการขยายผลต่อเนื่องมาจากการตรวจค้นตู้สินค้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมศุลกากร ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จากการตรวจสอบในครั้งนั้นพบเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 4 ตู้ ของบริษัทดังกล่าว มีการนำเข้าเศษพลาสติกดังกล่าวจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นขยะถุงพลาสติกอัดเป็นแท่งขนาดใหญ่ จากการตรวจสอบทำให้เชื่อได้ว่าบริษัทดังกล่าวมีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติกจริง ดังนั้นจึงได้ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบโรงงานต้นตอที่อ้างว่าเป็นสถานที่รองรับขยะพลาสติกจากทั้ง 4 ตู้ มาเข้าสู่กระบวนการผลิตในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

แต่เมื่อมาตรวจสอบแล้วกลับไม่พบขยะที่มีลักษณะเดียวกับที่พบในตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 4 ตู้เลย และยังไม่พบเครื่องจักรที่จะใช้เพื่อการตัดพลาสติกให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้มีขนาดไม่เกิน 2 ซม. ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าทางผู้ประกอบการมีการสำแดงเท็จว่าเป็นเศษพลาสติกจริง ซึ่งทางผู้บริหารหรือคณะกรรมการบริษัทฯ จะต้องมีความผิดทางกฎหมายทั้งในส่วนของบุคคลและนิติบุคคลมีโทษทั้งจำและปรับ อีกทั้งยังจะต้องมีการตรวจสอบด้วยว่า ขยะในตู้คอนเทนเนอร์ทั้ง 4 ตู้นั้น กำลังจะถูกนำส่งไปที่ไหน และก่อนหน้านี้มีการนำเข้าขยะแบบนี้แล้วจำนวนเท่าไหร่ นำเข้ามาแล้วถูกส่งไปยังที่ใดแล้วบ้าง ซึ่งก็จะต้องสืบหาปลายทางที่รับขยะเหล่านี้ไป เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะขยะในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นขยะพิษ ขยะอันตรายที่สร้างมลภาวะเป็นพิษให้กับประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก หากผู้ใดที่ขออนุญาตนำเข้ามาแล้ว ก็จะต้องส่งไปยังสถานที่ที่ระบุในเอกสารเท่านั้น จะไม่สามารถส่งไปยังที่อื่นได้เลย

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนการเข้าตรวจภายในโรงงานครั้งนี้ ยังไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีเพียงแค่เรื่องของการบำบัดน้ำเสีย และฝุ่นละอองที่อาจจะก่อให้เกิดมลพิษต่อพื้นที่โดยรอบได้ ซึ่งก็ต้องให้กรมควบคุมมลพิษ และ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ทำการตรวจสอบต่อไป ส่วนของเสียที่เหลือจากอุตสาหกรรม หรือกากอุตสาหกรรมนั้น หากยังเก็บไว้ในพื้นที่โรงงานก็ยังไม่มีความผิด แต่ถ้านำออกไปจากโรงงานแล้วไม่ส่งไปทำลายยังสถานที่ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ทำลายกากอุตสาหกรรม ก็จะต้องมีโทษความผิดตามกฎหมายด้วย ซึ่งก็จะต้องมีการตรวจสอบถึงแหล่งทำลายของเสียจากอุตสาหกรรมที่พบในโรงงานแห่งนี้เพิ่มเติมอีกด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *