เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติม จุดขึ้น-ลง กม.37+300 ทางยกระดับเชื่อมสมุทรสาคร-สมุทรปราการ เพิ่มตัวเลือก กม.36+200 ชาวบางกระเจ้าออกโรงค้าน หวั่นผลกระทบเวนคืน-สิ่งแวดล้อม ขณะที่ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท เผยโครงการอยู่ในแผนแม่บทพัฒนาประเทศ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. 2561 ที่ห้องโชติกา โรงแรมเซ็นทรัลเพลส ต.มหาชัย อ.เมือง ฯ จ.สมุทรสาคร กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม และบริษัทที่ปรึกษา จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่ตำบลบางกระเจ้า (เพิ่มเติม) โครงการออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงข่ายทางสนับสนุนการเชื่อมต่อระบบขนส่งหลักของประเทศช่วง จ.สมุทรสาคร-จ.สมุทรปราการ (สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และถนนเชื่อมต่อ)
โดยมีคณะที่ปรึกษาโครงการ ประกอบด้วย นายวินิจ เจียรสถาวงศ์ ผู้จัดการโครงการ พร้อมด้วย นายศิริพงศ์ มีแก้ว วิศวกรโครงการ นายกฤษดารักษ์ แพรัตกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ร่วมเข้าชี้แจงรายละเอียดโครงการ และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นประชาชนชาว ต.บางกระเจ้า ทั้งจากหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่ รวมทั้งโรงงาน บริษัทห้างร้าน และเกษตรกรนาเกลือที่อยู่ในบริเวณแนวเส้นทาง ร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการศึกษาแนวเส้นทางเพิ่มเติม เนื่องจากจุดเริ่มต้นโครงการ บริเวณหน้าหมู่บ้านเดอะพาร์ค ประมาณ กม.37+300 บน ถ.พระราม 2 และมีจุดขึ้น-ลง ถ.พระราม 2 อยู่ในบริเวณดังกล่าว มีผู้ไม่เห็นด้วยต่อแนวเส้นทางและจุดขึ้น-ลงในบริเวณนั้น กรมทางหลวงชนบทจึงได้ดำเนินการศึกษาหาแนวทางเลือกเพิ่มเติม พร้อมทั้งนำแนวเส้นทางเลือกดังกล่าวมาจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่
ซึ่งแนวเส้นทางเลือกเพิ่มเติม จะมีจุดเริ่มต้นประมาณ กม.36+200 บน ถ.พระราม 2 และมีทางแยกต่างระดับตรงถนนทางเข้าวัดปากบ่อและโรงงานเหล็กโชคสถาพร จากจุดเริ่มต้นแนวเส้นทางจะมุ่งไปทางทิศใต้ ข้ามคลองสุนัขหอน ผ่านทางด้านทิศตะวันตกของวัดสุทธาราม เป็นระยะทางประมาณ 500 ม.
และข้ามทางรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง แล้วจึงเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกไปบรรจบกับแนวเส้นทางเดิมบริเวณใกล้ ๆ กับถนน สค.2041 (ถนนไปวัดศรีวนาราม) รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น 3.3 กม. ซึ่งลักษณะของถนนโครงการตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดบรรจบกับแนวเดิม จะมีลักษณะเป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร และมีถนนบริการระดับพื้นดิน ทั้ง 2 ฝั่งทิศจราจร แต่ถนนบริการจะมีตั้งแต่จุดเริ่มต้นโครงการไปจนถึงทางรถไฟ
ในส่วนของข้อคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับทางขึ้น-ลงบน ถ.พระราม 2 ทั้ง กม.37+300 แนวเส้นทางเดิม และ กม.36+200 แนวเส้นทางเพิ่มเติม เนื่องจากต้องมีการเวนคืนที่ดินซึ่งมีทั้งบริษัทห้างร้านและโรงงานเป็นเจ้าของ ทำให้เกิดความเดือดร้อนในการประกอบกิจการ
ขณะที่หมู่บ้านและชุมชนในบริเวณดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากเสียง ฝุ่นละออง การสั่นสะเทือน และการกระจุกตัวของรถยนต์บน ถ.พระราม 2 บริเวณหน้าหมู่บ้าน อีกทั้งผู้เข้าร่วมประชุมบางรายมองว่าแนวเส้นทางทั้งสองแห่งมีความแออัดมาก จึงไม่เห็นด้วยกับโครงการและขอให้ยุติโครงการนี้ไปเลย
ส่วนทางฝ่ายที่เห็นด้วยกับโครงการ เสนอว่าอยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น โดยพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งข้อดีของโครงการดังกล่าว คือ ไม่เก็บค่าผ่านทาง สะดวก รวมทั้งเป็นการเปิดพื้นที่ใหม่ในการเดินทาง หากมีการพัฒนาโครงการโดยเร็วจะทำให้เกิดการพัฒนาในจังหวัด
นายจิรานุวัฒน์ จันทร์จร ผู้อำนวยการกลุ่มออกแบบทางในชนบท กรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า โครงการนี้อยู่ในแผนแม่บทพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ อ.พระสมุทรเจดีย์ ได้กำหนดในแผนของกระทรวงคมนาคม และได้มีการศึกษาความเหมาะสมในปี 2555 ซึ่งผลการศึกษาในเบื้องต้นได้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรีได้รับทราบ เพราะฉะนั้นกระบวนการใด ๆ ที่จะปรับเปลี่ยนแนวเส้นทาง ก็อยู่ในส่วนของบริษัทที่ปรึกษา ที่กรมทางหลวงชนบทได้ว่าจ้างให้ไปรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะนำเสนอ
โดยแต่ละบริษัทที่ปรึกษามีคณะทำงานเป็นร้อยคน ซึ่งเป็นคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ มีกระบวนการคัดเลือกและต้องเป็นผู้ที่เหมาะสม เพื่อให้การศึกษาเป็นที่ยอมรับ และรายงานจะต้องนำเสนอผ่านหลายขั้นตอน จะรายงานเป็นเท็จไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในกระบวนการ ทุกอย่างดำเนินตามกฎหมาย
นายจิรานุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมทางหลวงชนบท เป็นกรมที่สนองนโยบายของรัฐ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจ ในการเข้ามาทุกครั้งพยายามพูดคุยมีเหตุผลด้วยกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปเป็นทางออกเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และถ้าโครงการนี้รัฐบาลจะต้องทำ ก็จะพิจารณาจากแนวเส้นทางที่ส่งผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งจะต้องมีหลักเกณฑ์และสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ว่าเหมาะสมหรือไม่
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง