ก.แรงงาน ร่วมมือภาคเอกชน ดูแลการศึกษาลูกหลานแรงงานต่างด้าวทัดเทียมคนไทย

รมว.แรงงาน มอบป้ายส่วนต่อเติมอาคารเรียนชั้นล่างโรงเรียนวัดศิริมงคล โรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนไร้สัญชาติไทย เสริมสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมในสังคม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. 2561 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารเรียน (ส่วนต่อเติม) โรงเรียนวัดศิริมงคล หมู่ 5 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายเทพประสิทธิ์ วงษ์ท่าเรือ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ดร.ณัฐพงษ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม, นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ คณะครู นักเรียน และภาคเอกชน ร่วมพิธี

รมว.แรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ภาคเอกชน ซึ่งเป็นนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าว ให้การดูแลลูกจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย ซึ่งการดูแลลูก ๆ ของแรงงานต่างด้าว โดยให้พวกเขาได้มีโอกาสเข้าเรียนในโรงเรียนของไทยร่วมกับเด็กไทยนั้น ก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แรงงานต่างด้าวและครอบครัว เป็นนโยบายประชารัฐ โดยการมอบป้ายส่วนต่อเติมห้องเรียนในครั้งนี้ เป็นโครงการปันฝันปั้นยิ้ม ซึ่งบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกับเครื่องสำอาง มิสทีน ร่วมให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนในการก่อสร้างส่วนต่อเติมอาคารเรียนชั้นล่าง จำนวน 3 ห้องเรียน ณ โรงเรียนวัดศิริมงคล ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบในการจัดการศึกษาสำหรับนักเรียนไร้สัญชาติไทย

สำหรับโรงเรียนวัดศิริมงคล เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 150 คน เป็นนักเรียนเด็กไทย 15 คน นักเรียนไร้สัญชาติไทย 135 คน เป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่ไม่มีทะเบียนราษฎร์หรือสัญชาติไทยเข้าเรียนร่วมกับเด็กไทย เด็กส่วนใหญ่มีสัญชาติเมียนมา มอญ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ที่ติดตามผู้ปกครองมาใช้แรงงานในภาคเกษตรหรือเรียกว่าเด็กชนเผ่า (เด็กชายขอบ) และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มของลูกแรงงานต่างด้าว ซึ่งกลุ่มนี้มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและใช้ภาษาชาติพันธุ์ในการศึกษา ไม่มีพื้นฐานทางภาษาไทย

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านภาษาไทยให้กับเด็กก่อนที่จะเข้าไปเรียนร่วมกับเด็กไทยในชั้นปกติด้วยหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการเช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นแนวทาง “ประชารัฐ” ที่ภาครัฐได้ร่วมกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในการดูแลครอบครัวแรงงานต่างด้าว ให้ได้รับการคุ้มครอง การปฏิบัติเช่นเดียวกับคนไทย เพื่อพวกเขาจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขตลอดระยะเวลาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย

รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จ.สมุทรสาคร มีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทำงาน จำนวน 277,898 คน แบ่งเป็น กลุ่ม BOI จำนวน 123 คน กลุ่มทั่วไป จำนวน 3,419 คน ชนกลุ่มน้อย จำนวน 5,794 คน กลุ่ม MOU จำนวน 80,855 คน กลุ่ม พิสูจน์สัญชาติ จำนวน 120,553 คน กลุ่มตามมติ ครม. 16 ม.ค. 2561 ที่ได้รับการปรับปรุงทะเบียนประวัติ และตรวจลงตรา (VISA) และขออนุญาตทำงานถึง 31 มี.ค. 2561 ณ ศูนย์ OSS จำนวน 67,154 คน

ส่วนกลุ่มตามมาตรา 83 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 ที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติ ที่กำลังดำเนินการขยายระยะเวลาการทำงานออกไปอีก 2 ปี มีจำนวน 282 ราย ขณะนี้มาดำเนินการแล้ว 175 ราย และต้องขอขอบคุณภาคเอกชนเจ้าของสถานประกอบการที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของลูกจ้างต่างด้าว ซึ่งจะเป็นต้นแบบตัวอย่างที่ดีให้กับภาคเอกชนอื่น ๆ ต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *