ครม.ไฟเขียวตั้ง “ศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว” ที่ตลาดทะเลไทย สมุทรสาคร

แฟ้มภาพ : ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ จัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวของทางการเมียนมา ที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่แรงงานเมียนมาตาม MOU กว่า 1 แสนคน จะครบกำหนด 4 ปีภายในปีนี้

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบจัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวของทางการเมียนมา ณ จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ทางการเมียนมาขอความร่วมมือ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการจัดทำหนังสือเดินทางให้กับแรงงานชาวเมียนมา โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ

เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยมีกฎหมายระบุว่า หลังแรงงานเหล่านี้อยู่ในประเทศไทยครบ 4 ปี ต้องเดินทางออกนอกประเทศไทยเป็นเวลา 30 วัน จึงสามารถเดินทางกลับมาได้ ขณะเดียวกันต้องผ่านกระบวนการของประเทศเมียนมา เพื่อสามารถกลับมาทำงานใหม่ได้ ซึ่งปัญหาที่พบคือ ทางการเมียนมา ไม่สามารถดำเนินการเรื่องให้เสร็จภายใน 30 วัน ทำให้ประเทศไทยขาดแรงงานเมียนมาเป็นช่วงๆ

การตั้งศูนย์ดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวกกับทางการเมียนมา และแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยศูนย์ดังกล่าวจะให้บริการกับแรงงานเมียนมา 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนเอกสารประจำตัวให้เป็นหนังสือเดินทาง ซึ่งกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว จะมีการจัดทำประวัติแรงงานในไทย อีกกลุ่มคือ กลุ่มที่เข้ามาทำงานตามวาระการจ้างงาน ที่ใกล้จะครบกำหนด 4 ปี และต้องมีการทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า การจัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวของทางการเมียนมา ณ จังหวัดสมุทรสาคร จะใช้สถานที่บริเวณตลาดทะเลไทย ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยดำเนินการเฉพาะกลุ่มแรงงานเมียนมาเท่านั้น ไม่รวมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์อื่นๆ โดยจะใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา 13 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ 1 คน จากกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ 12 คน จากกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมือง และประชากร และไม่มีการขอเอกสารสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต

โดยให้บริการแรงงานใน 2 กลุ่ม คือ 1. แรงงานเมียนมาที่ต้องการเปลี่ยนเอกสารประจำตัวเป็นหนังสือเดินทาง [แรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติหรือจัดทำทะเบียนประวัติในประเทศไทยที่ถือหนังสือเดินทาง (PP) หนังสือเดินทางชั่วคราว (TP) หรือเอกสารรับรองบุคคล (CI)] โดยทางการเมียนมาใช้คำว่า กลุ่มคน Function A และ 2. แรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานตาม MOU ที่วาระการจ้างงานใกล้ครบกำหนด 4 ปี ที่ต้องการจัดทำเป็นหนังสือเดินทางฉบับใหม่ และมีความประสงค์จะกลับเข้ามาทำงานตาม MOU เมื่อวาระการจ้างงานครบ 4 ปี แล้ว โดยทางการเมียนมาใช้คำว่า กลุ่มคน Function B

โดยเปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ (เว้นวันอาทิตย์และวันหยุดราชการไทย) ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ยกเว้นเมื่อไปรับหนังสือเดินทาง ณ จุดที่กำหนดต้องเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 1,050 บาท โดยสามารถชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส การพิจารณาออกหนังสือเดินทางจะดำเนินการโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบของทางการเมียนมา ซึ่งไม่ใช่ศูนย์ฯ และเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว แรงงานเมียนมาสามารถไปรับหนังสือเดินทางได้ที่สถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ หรือศูนย์ออกหนังสือเดินทางบริเวณชายแดนฝั่งท่าขี้เหล็ก (ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย) ฝั่งเมียวดี (ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก) และฝั่งเกาะสอง (ตรงข้าม จ.ระนอง)

กระทรวงแรงงานพิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวฯ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนายจ้าง และสถานประกอบการ และภาพลักษณ์ของประเทศ เนื่องจากวาระการจ้างงานตาม MOU จะครบกำหนด 4 ปี ในปี 2562 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 140,256 คน เป็นการอำนวยความสะดวกและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้แก่นายจ้าง และสถานประกอบการ และจะส่งผลให้นายจ้างสามารถจ้างงานแรงงานต่างด้าวโดยถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการบริหารราชการของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว

นอกจากนี้ แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและมีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการการคุ้มครองตามสิทธิที่พึงได้รับ รวมทั้งระบบเศรษฐกิจโดยรวมมีความเข้มแข็งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านแรงงานของประเทศไทยในระดับสากล และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีด้านแรงงานระหว่างไทย – เมียนมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2561 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบก่อนนำเสนอ ครม.พิจารณา

สาครออนไลน์ โดย กิตตินันท์ นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *