ไฟไหม้รถยนต์กลางลานจอดรถห้างบิ๊กซี มหาชัย เหตุจากชายวัย 60 ปี คนขับแท็กซี่ น้อยใจภรรยามาตามให้กลับบ้าน ตะโกน “มึงจะไปตายกับกูเหรอ” ก่อนขับรถวนภายในลานจอดรถ แล้วจุดไฟเผาตัวเองอาการปางตาย คาดประชดชีวิตจากปัญหาสุขภาพ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 2562 ร.ต.ท. หญิง รสริน พัฒน์พงษ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุรถยนต์แท็กซี่เกิดเพลิงไหม้ บริเวณลานจอดรถแท็กซี่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขามหาชัย ถ.เศรษฐกิจ 1 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร หน่วยกู้ภัยศรีสมุทร มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร และรถดับเพลิงจาก อบต.ท่าทราย เข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีเหลือง ซึ่งดัดแปลงมาจากรถแท็กซี่เก่า หมายเลขทะเบียน 7 กก 1605 กรุงเทพมหานคร มีเพลิงลุกไหม้ท่วมคัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันใช้ทั้งถังดับเพลิงและน้ำเข้าฉีดสกัด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงดับไฟลงได้ หลังจากเพลิงสงบแล้ว ก็พบร่างผู้บาดเจ็บหนีลงมานอนกองกับพื้นข้างรถยนต์ที่เกิดเหตุ ในสภาพไฟลวกทั้งตัว อาการสาหัสปางตาย แต่ยังพอรู้สึกตัว ทราบชื่อต่อมาคือนายสมชาย บรรลุดี อายุ 60 ปี ชาว ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้รีบนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาครอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามคนขับรถแท็กซี่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองเห็นรถของนายสมชาย ขับรถวนไปวนมาหลายรอบ พอรอบสุดท้ายตรงหัวโค้งก่อนที่จะมาถึงจุดที่แท็กซี่จอดอยู่ประมาณ 100 เมตรนั้น ก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากภายในรถ แล้วเสียหลักมาชนรถแท็กซี่คันหนึ่ง ก่อนที่จะไหลไปชนรถแท็กซี่อีกหนึ่งคันและรถยนต์ส่วนบุคคลอีกหนึ่งคันได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนสาเหตุนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากอะไร
ขณะที่จากการเข้าตรวจสอบรถของนายสมชาย เมื่อเปิดประตูรถก็ได้กลิ่นน้ำมันคละคลุ้งไปทั่ว จึงต้องให้เจ้าหน้าที่วิทยาการฯ เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้รถยนต์จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของทางห้างบิ๊กซี มหาชัย พบว่าก่อนเกิดเหตุ นายสมชาย ได้มาจอดรถคุยกับคนขับแท็กซี่รายหนึ่งในบริเวณดังกล่าว ใช้เวลาคุยกันนานเกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงขึ้นรถแท็กซี่ขับวนไปวนมา ก่อนที่จะเกิดเพลิงลุกไหม้รถ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ตามไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ก็ได้พบกับนางศุภสร สิงห์เฮง ภรรยาของผู้บาดเจ็บ ที่พอทราบเหตุการณ์ก็ตามมาดูอาการที่โรงพยาบาล ซึ่งก็ได้บอกเพียงแค่ว่า ก่อนที่สามีจะออกจากบ้านมานั้น บอกเพียงแค่ว่าจะมาหาเพื่อนแท็กซี่เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เคยทะเลาะกัน แล้วก็ขับรถมาที่ห้างบิ๊กซีมหาชัย ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเกิดการทะเลาะอะไรกันขึ้นอีก จนนำไปสู่เหตุการณ์สลดใจนี้
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับคนขับแท็กซี่ตรงที่เกิดเหตุ ซึ่งรู้จักและเป็นเพื่อนที่เคยขับแท็กซี่กับนายสมชาย โดยเพื่อนแท็กซี่คนหนึ่งก็เล่าให้ฟังว่า นายสมชายเคยมาขับแท็กซี่ที่คิวนี้ แต่ระยะหลังด้วยสุขภาพไม่ค่อยดี มีโรคประจำตัว ประกอบกับเป็นคนที่ค่อนข้างคิดมาก ขี้น้อยใจ จึงมาขับบ้างไม่มาบ้าง ถ้าวันไหนลุงมาขับแท็กซี่ก็จะมาแต่เช้า พอสาย ๆ ก็จะกลับไปพักผ่อน และเมื่อมาถึงคิวก็จะไม่ค่อยคุยกับใคร จะชอบอยู่เงียบ ๆ นั่งเล่นโทรศัพท์คนเดียว จะมีไม่กี่คนที่ลุงเค้าจะคุยและพูดเล่นด้วย
โดยในระยะหลัง นายสมชายมักจะบ่นเรื่องปัญหาสุขภาพและโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ทำให้ขาไม่ค่อยมีแรงทำงาน บางครั้งก็เคยบ่นว่าอยากตาย และไม่กลัวตายเพราะเคยเป็นทหารพราน ผ่านความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ส่วนปัญหากับคนในคิวรถแท็กซี่ด้วยกัน ก็ไม่เห็นมีใครที่จะมีปัญหากับนายสมชาย เพราะด้วยเป็นคนที่ไม่ค่อยคุยกับใคร จึงไม่ค่อยมีใครพูดคุยด้วย จึงไม่รู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายสมชายเกิดความน้อยใจด้วยหรือไม่ แต่ทุกคนในคิวก็รักและเคารพกันเสมอ โดยตอนเช้า ๆ เมื่อใครมาถึงคิวแล้ว คนที่อายุน้อยกว่าก็จะยกมือไหว้สวัสดีคนที่อายุมากกว่าทุกคนทุกวัน รวมถึงนายสมชายด้วย ส่วนเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือการเงิน ก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาที่ทำให้น้อยใจจนคิดสั้นประชดชีวิตในลักษณะดังกล่าว เพราะไม่เคยได้ยินนายสมชายพูดถึงเลย
เพื่อนคนขับแท็กซี่ เล่าเพิ่มเติมว่า นายสมชายไม่ได้นำรถยนต์ที่แปลงเป็นรถส่วนบุคคลหรือคันที่เกิดเหตุ มาขับรับส่งผู้โดยสาร 2 วันแล้ว กระทั่งเมื่อเช้านายสมชายก็มาจอดที่คิว พอตนเองเข้าไปพูดด้วยนายสมชายก็ไม่พูด แล้วตอนกลางวันตนมาเห็นอีกทีก็ช่วงที่นายสมชายมาจอดรถ แล้วภรรยาที่ตามมาจากบ้าน ก็มาบอกให้นายสมชายกลับ แต่นายสมชายไม่กลับ โดยบอกภรรยาว่าถ้าอยากกลับก็ให้ไปขึ้นรถแท็กซี่คันอื่น ไม่ต้องมากับตน
ครั้นเมื่อภรรยาเดินจะไปขึ้นรถ ปรากฎว่า นายสมชายล็อคประตูไม่ให้ขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกไประยะหนึ่ง แล้วก็ไขกระจกลง โยนกระเป๋าสะพายที่มีเงินลงพื้นให้ภรรยาเก็บไว้ พร้อมกับตะโกนบอกว่า “มึงจะไปตายกับกูเหรอ” แค่นั้นเอง แล้วนายสมชายก็ขับรถออกไป พอขับรถวนกลับมาก็ปรากฏว่าเกิดไฟลุกไหม้จากด้านในรถ ซึ่งทุกคนก็ตกใจและไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่นำมาซึ่งเหตุดังกล่าว โดยทาง พ.ต.อ.จิระวุฒิ บอกในเบื้องต้นว่า หลังเกิดเหตุก็ได้รับการรายงานเหตุในเบื้องต้นจากทางรองสารวัตรสอบสวนฯ ที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า การบาดเจ็บสาหัส มาจากการจุดไฟเผาในรถ ส่วนประเด็นปัญหาที่ทำให้นายสมชายก่อเหตุสะเทือนใจนั้น ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ที่ใกล้ชิดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นไม่ได้มาจากความขัดแย้งภายในครอบครัว
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ