ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. หอบหลักฐานร้องกองปราบฯ เอาผิดขบวนการรถต่างถิ่นลักลอบทิ้งขยะที่หนองแขม ระบุมาจาก “สวนหลวง-ท่าไม้” เบื้องต้นเอาผิดได้แค่คนขับ 9 คน เตรียมสอบ จนท.ต่อ ด้าน “นิรันดร์ ป้อมน้อย” ขึ้นโรงพักกระทุ่มแบนลงบันทึกประจำวัน โต้คนขับซัดทอดไม่จริง อ้างไม่ใช่คนของสวนหลวง รถไม่ใช่ของเทศบาล ยันไปทิ้งที่บ่อขยะสมนึก นาดี
จากกรณีที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู จับกุมรถบรรทุกขยะจากจังหวัดสมุทรสาคร 9 คัน เมื่อเย็นวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังพบว่าลักลอบขนขยะจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ มาทิ้งภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ถนนพุทธมณฑล สาย 3 เขตหนองแขม กทม. โดยไม่ผ่านเครื่องตราชั่งน้ำหนัก ทำให้กรุงเทพมหานครต้องสูญเสียงบประมาณ จ่ายค่าขนขยะนอกพื้นที่เหล่านี้วันละ 150 ตัน ความเสียหายกว่า 1 แสนบาทต่อวัน หรือคิดเป็นปีละ 30-40 ล้านบาท ซึ่งคนขับรถบรรทุกขยะให้การซัดทอดว่านายนิรันดร์ ป้อมน้อย นายกเทศมนตรีตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน เป็นคนว่าจ้าง รับช่วงต่อจากเทศบาลตำบลสวนหลวง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : คนขับรถขยะซัดทอด “นิรันดร์” นายกเล็กสวนหลวง สั่งลักลอบขนมาที่หนองแขม
รถขยะสมุทรสาคร ลอบทิ้งที่หนองแขม “อัศวิน” สั่งดำเนินคดี พบเจ้าของอดีตดับเพลิงสวนหลวง
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดในขบวนการการลักลอบขนขยะมาทิ้งที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม จากนั้นได้เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากผู้ว่าฯ กทม. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมกระบวนการทุจริตทิ้งขยะที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม สามารถยึดรถที่ลักลอบขนขยะจากเทศบาลตำบลสวนหลวง, องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้ และแห่งอื่นในจังหวัดสมุทรสาคร ได้จำนวน 9 คัน เป็นการกระทำทุจริต ทำให้ กทม. เกิดความเสียหาย ผู้ว่าฯ กทม. จึงมอบอำนาจให้ตนเข้าร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีแก่ผู้กระทำความผิดดังกล่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
เบื้องต้นพบผู้กระทำความผิดเพียง 9 คน ซึ่งเป็นคนที่ขับรถนำขยะลักลอบเข้าไปทิ้ง ส่วนที่คนขับรถบรรทุกขยะอ้างว่า รับจ้างนำขยะไปทิ้งมานานกว่า 4-5 ปี เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่นำไปตรวจสอบเปรียบเทียบ เนื่องจากการคำนวณความเสียหาย ต้องนำหลายปัจจัยมาพิจารณา ทั้งขยะที่รับเข้ามาและส่งออก ขยะรีไซเคิล น้ำหนักที่เกิดจากปริมาณน้ำหรือน้ำฝน หากดูแค่ตัวเลขย้อนหลังในช่วงที่ผู้กระทำผิดอ้าง จะไม่พบตัวเลขความเสียหาย เพราะมีการรายงานใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งยังต้องรอการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณา ทั้งเรื่องของความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของ กทม. ว่ามีใครเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีบ้าง เชื่อว่าทางจังหวัดสมุทรสาครต้องมีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเช่นกัน ส่วนที่ร้องทุกข์กับกองปราบฯ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่เกี่ยวพันหลายจังหวัด และกองปราบฯ มีอำนาจในการสืบสวนข้อเท็จจริงได้
อีกด้านหนึ่ง ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายนิรันดร์ ป้อมน้อย นายกเทศมนตรีตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมนำหลักฐานแผ่นซีดีบันทึกวีดีโอคลิปที่เป็นข่าวมามอบให้เป็นหลักฐาน จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า จากที่ดูคลิปดังกล่าวแล้ว ผู้ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อไม่ใช่พนักงานของเทศบาลตำบลสวนหลวง รถบรรทุกที่ขนขยะก็ไม่ใช่ของเทศบาล ที่กล่าวหาถึงตนเป็นผู้ว่าจ้างนั้นไม่เป็นความจริง ตนจึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากข่าวนี้ทำให้เทศบาลตำบลสวนหลวงและผมได้รับความเสียหาย ส่วนรถที่อยู่ในคลิปก็ไม่ใช่รถของเทศบาล ขยะจำนวนมหาศาลก็ไม่ใช่ของ ต.สวนหลวง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการว่าส่วนไหนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร แต่สิ่งสำคัญคือชื่อและตำแหน่งนายกเทศมนตรีที่สื่อออกไปนั้นไม่ใช่ความจริง การทำงานของส่วนราชการมีขั้นตอนอยู่ว่ากันด้วยระเบียบและกฎหมาย
ส่วนการบริหารจัดการขยะของเทศบาลตำบลสวนหลวงนั้น นายนิรันดร์ชี้แจงว่า เทศบาลตำบลสวนหลวงได้ดำเนินการเปิดประมูลทิ้งขยะที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด สมนึกธุรกิจ (ของนายสมนึก เผือกเล็ก อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนาดี) ซึ่งรถขยะของเทศบาลก็จะเป็นรถสีเขียว มีตราสัญลักษณ์ จะเข้าไปทิ้งขยะที่บ่อขยะสมนึก หมู่ 5 ต.นาดี อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยทางเทศบาลจะเป็นผู้จัดเก็บขยะเอง เมื่อถามว่า บุคคลที่กล่าวอ้างในคลิปทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงเทศบาลตำบลสวนหลวงหรือไม่ นายนิรันดร์ยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก และที่อ้างชื่อบริษัททรัพย์อิ่มอำไพนั้นไม่เคยได้ยิน สุดท้าย ผู้ที่ให้สัมภาษณ์สื่อไม่เคยเป็นพนักงาน และไม่เคยรู้จักกับตนมาก่อน
เมื่อถามว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้างว่ามาจากเทศบาลตำบลสวนหลวง นายนิรันดร์ กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจเพราะชื่อของตนอาจจะคุ้นเคยกับคนหลายคนทั่วไปหรือไม่ ตนได้ยินมาจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนเอาชื่อไปแอบอ้างว่าเป็นของนายกฯ นิรันดร์ ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้เลย เพราะเรื่องเหล่านี้เราไม่สนับสนุนการกระทำความผิดอยู่แล้ว เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการกลับอย่างไรบ้าง นายนิรันดร์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ถือโอกาสเดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะให้ความเห็นอย่างไร เพราะส่วนตัวตนเป็นผู้เสียหาย ส่วนเทศบาล หน่วยงานราชการจะมีฝ่ายนิติกรเข้ามาดำเนินการอีกรอบหนึ่ง
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ