ผวจ.สมุทรสาคร ยืนยันในจังหวัดยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” ดูแลบุคคลจาก ปท.กลุ่มเสี่ยง

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เผยมีผู้เฝ้าระวังสะสมตั้งแต่ ม.ค. อยู่ที่ 41 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เล็งหาสถานที่ตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” นอกจากพุทธมณฑลสมุทรสาคร ดูแลบุคคลจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 14 วัน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ห้องประชุมเอกชัย (201) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายเอกพร จุ้ยสำราญ ปลัดจังหวัด ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั้ง 3 อำเภอใน จ.สมุทรสาคร และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สำหรับ จ.สมุทรสาคร มีผู้เฝ้าระวังที่สะสมตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. ทั้งหมด 41 ราย มีเลิกเฝ้าระวังแล้ว 35 ราย และมีที่กำลังจะครบกำหนดเฝ้าระวัง 2 ราย และอีก 4 รายยังต้องเฝ้าระวังอยู่ ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เพราะตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดไว้ ถ้าพบผู้ติดเชื้อสามารถนำส่งไปรักษาที่ส่วนกลางได้เลย

ส่วนในเรื่องปัญหาของการหาสถานที่เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 4 ประเทศ คือ เกาหลีใต้, จีน (รวมถึงมาเก๊าและฮ่องกง), อิตาลี และอิหร่าน ตนขอเรียนว่าการเดินทางกลับมาของบุคคลที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้ที่ไปใช้แรงงานในประเทศเกาหลีใต้มีเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่มีสถานที่พักพิงชั่วคราวจะเป็นภาระให้กับทางโรงพยาบาลอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลทั้ง 3 อำเภอ รับคนไข้เต็มอัตรา ถ้านำตรงนี้ไปสมทบด้วยก็จะเกินกำลัง

และคนเหล่านี้ที่กำลังเดินทางมาไม่ได้เป็นผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ เป็นแต่เพียงผู้ต้องสงสัยที่ต้องนำไปดูแลไว้ก่อน 14 วัน ถ้าปล่อยไปให้ดูแลตัวเองเหมือนกับมาตรการที่เคยใช้มาก็น่าเป็นห่วง เพราะอาจจะไม่ได้มาแค่ 1-2 รายเหมือนเมื่อก่อน แต่อาจจะเป็น 20-30 รายขึ้นมา ถ้าไม่มีศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เรียกว่า “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” จะให้คนเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหน

ตอนนี้ก็เริ่มเกิดข้อขัดข้องขึ้นมา ทำอย่างไรจะช่วยชี้แจงว่าศูนย์แห่งนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อคนสมุทรสาคร และจังหวัดอื่น ๆ อีก 75 จังหวัดก็ดำเนินการเหมือนกันในการตั้งศูนย์ในทุกอำเภอทุกจังหวัด เพราะฉะนั้นก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการพักพิง ดูแล หรือตรวจโรคในช่วงระยะเวลา 14 วัน ได้มีที่พักพิงซึ่งอยู่ในสายตาเรา ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี และโปรแกรมการดำเนินการกักตัวในแต่ละวันก็เป็นไปอย่างรอบคอบ และพยายามทำให้ผู้ที่อยู่ในศูนย์ฯ อยู่อย่างสบายใจ มีกิจกรรมให้ทำ มีอารมณ์แจ่มใส ไม่เครียดเกินไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมทางจังหวัดเคยพิจารณาเห็นว่า พื้นที่พุทธมณฑลสมุทรสาครมีความเหมาะสม เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด มีบรรยากาศดี มีห้องพักอาศัยเหมาะสม และสามารถควบคุมดูแลให้ทุกคนอยู่ในพื้นที่กักตัวได้เป็นเวลา 14 วันตามมาตรการของรัฐบาล แต่เมื่อมีเสียงคัดค้านจากประชาชนชาว ต.อำแพง ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร จะได้นำมาประชุมพิจารณาหารือกันนอกรอบใหม่อีกครั้งว่า นอกจากพุทธมณฑลแล้วยังมีพื้นที่ใดอีกบ้างที่มีความเหมาะสม

ทางด้าน นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวว่า ทางจังหวัดสมุทรสาครได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้งทางด้านบุคลากรและเครื่องมือ ในการดูแลผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้และพื้นที่เสี่ยง ซึ่งต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของรัฐบาล สำหรับพี่น้องประชาชนทั่วไปที่ไม่เข้าข่ายต้องสงสัย ก็ขอให้ไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ขอให้ตระหนักในการเฝ้าระวังและดูแลตนเองด้วยวิธีการที่แพทย์แนะนำก็จะไม่ติดเชื้อ โควิด-19

ทั้งนี้ ทางศูนย์ห่วงใยคนสาคร ได้เปิดเฟซบุ๊ก “สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร” เพื่อชี้แจงข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ในปัจจุบันให้ทุกคนสามารถจะเข้าไปดูได้ และเบอร์โทรศัพท์ 034-871276 ต่อ 114 กรณีแจ้งเหตุหรือสงสัยบุคคลที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและยังไม่ได้ควบคุม ก็จะมีทีมงานเข้าไปช่วยเหลือ

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *