เตือนแล้วนะ! ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เน้นย้ำนายจ้างให้นำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติมาขึ้นทะเบียน ก่อน 30 มิ.ย. 2561 หลังจากนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งจับ ปรับ ส่งกลับประเทศต้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ฝากถึงผู้ประกอบการทุกกิจการทุกประเภทใน จ.สมุทรสาคร ให้นำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ ลาว กัมพูชา และเมียนมา มาดำเนินการทำทะเบียนประวัติและขออนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใน 30 มิ.ย. 2561 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย หลังจากนั้นจะมีมาตรการสุ่มตรวจตามสถานประกอบการต่าง ๆ ที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานจำนวนมาก หากพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งจับ ปรับ และส่งกลับประเทศ
จากการตรวจสอบในช่วงของการเปิดทะเบียนแรงงานต่างด้าว พบว่าสถานประกอบการใน จ.สมุทรสาคร เกือบทุกแห่ง ได้นำแรงงานต่างด้าวมาจดทะเบียนครบทั้งหมด แต่ประเด็นที่ห่วงใยคือแรงงานต่างด้าวที่ไม่ทราบเรื่องการจดทะเบียน ที่ยังหลงเหลืออยู่ตามสถานประกอบการ ห้างร้าน และบ้านเรือน โดยข้อเท็จจริงมีแรงงานต่างด้าวที่จดทะเบียน จ.สมุทรสาครแต่ไปทำงานที่อื่นบ้าง และไม่มีตัวตนแล้ว
สำหรับ จ.สมุทรสาคร มีแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติ ทั้งหมด 275,909 คน แบ่งเป็นสัญชาติลาว 9,015 คน กัมพูชา 11,621 คน และเมียนมา 246,313 คน ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีได้มีการขยายเวลาให้นำแรงงานต่างด้าวมาดำเนินให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในวันที่ 31 มิ.ย. 2561 เพื่อให้แรงงานต่างด้าวได้รับสิทธิประโยชน์และการคุ้มครองตามกฎหมายตามมาตรฐานสากล หลังจากนี้หากพบแรงงานต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับ 5,000 – 50,000 บาท และเมื่อชำระค่าปรับแล้ว คนต่างด้าวจะถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และห้ามขออนุญาตทำงานภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับโทษ
ขณะเดียวกันนายจ้างก็จะมีโทษปรับ 10,000 – 100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หากแรงงานต่างด้าวที่ประสงค์จะทำงาน ในประเทศไทยจะต้องเข้ามาในรูปแบบการนำเข้าตามระบบ MOU เท่านั้น
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง