เนื่องในโอกาส “วันรัฐธรรมนูญ” วันที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2475
“สาครออนไลน์” ขอหยิบยกเรื่องราวของ “วงเวียนน้ำพุ” ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่กึ่งกลางระหว่างถนนนรสิงห์กับถนนสุคนธวิท ใจกลางเมืองมหาชัย ซึ่งชาวสมุทรสาครหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี แต่ประวัติไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
วันหนึ่ง ผู้เขียนได้มีโอกาสทราบข้อมูลจาก ผศ.ศรัญญู เทพสงเคราะห์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ผู้แต่งหนังสือ “ราษฎรธิปไตย : การเมือง อำนาจ และทรงจำของ(คณะ)ราษฎร” โดยสำนักพิมพ์มติชน
ผศ.ศรัญญู เผยว่า จากการค้นคว้าผ่านหนังสือ “หลัก 6 ประการ สารัตถ์สำคัญในรัฐธรรมนูญ สามปีในระบอบรัฐธรรมนูญ และเตือนใจเพื่อน” เขียนโดย “ขุนสุคนธวิทศึกษากร” ผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร พิมพ์แจกในงานฉลองรัฐธรรมนูญและงานฉลองอนุสรณ์รัฐธรรมนูญ สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2478
เป็นข้อมูลได้ว่า “อนุสรณ์รัฐธรรมนูญ สมุทรสาคร” สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2478 ที่สำคัญถือเป็น อนุสาวรีย์ที่มีสัญลักษณ์รัฐธรรมนูญ แห่งที่ 2 ของประเทศสยาม
อีกทั้งยังสร้างขึ้นก่อนหน้า “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2482 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2483 ในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่งอนุสาวรีย์ที่มีสัญลักษณ์รัฐธรรมนูญแห่งแรกของสยาม คือ “อนุสาวรีย์เทอดรัฐธรรมนูญ จังหวัดมหาสารคาม” ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายน 2477 ปัจจุบันตั้งอยู่บริเวณหน้าเทศบาลเมืองมหาสารคาม
นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์ที่มีสัญลักษณ์รัฐธรรมนูญ สร้างขึ้นอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคอีสาน เช่น สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ขอนแก่น และบุรีรัมย์ เป็นต้น
สำหรับ อนุสรณ์รัฐธรรมนูญ สมุทรสาคร สมัยก่อนมีลักษณะเป็นรัฐธรรมนูญบนพานแว่นฟ้า ตั้งอยู่ในศาลาหลังเล็ก ล้อมรอบด้วยเสา 6 ต้น อันหมายถึงหลัก 6 ประการของคณะราษฎร คือ หลักเอกราช หลักความปลอดภัย หลักเศรษฐกิจ หลักเสมอภาค หลักเสรีภาพ และหลักการศึกษา รวมถึงปืนใหญ่ 4 กระบอก
กระทั่งในภายหลัง ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบน้ำพุ แต่ยังคงความหมายหลัก 6 ประการเอาไว้ ด้วยฐานน้ำพุ 6 แฉก และปืนใหญ่ได้ถูกนำออกไป
มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2504 โดยจอมพลประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี มีนายดำริ น้อยมณี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายสุรินทร์ เทพกาญจนา เป็นนายกเทศมนตรีสมุทรสาคร
ซึ่งสมัยก่อนพื้นที่รอบ ๆ วงเวียนน้ำพุ เป็นเหมือนสวนสาธารณะไว้พักผ่อนหย่อนใจ เป็นพื้นที่โล่ง มีต้นไม้โดยรอบ มีเก้าอี้ไว้นั่ง รถยนต์ไม่ค่อยมีวิ่งผ่าน
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป มีอาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้า และรถยนต์สัญจรไปมามากมายในชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาและย่านการค้า ทำให้ วงเวียนน้ำพุ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสมุทรสาครไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น งานทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ เป็นพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และเป็นเส้นทางผ่านสำคัญของขบวนแห่เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดที่จัดขึ้นทุกปี
จาก “อนุสรณ์รัฐธรรมนูญฯ” จึงเปลี่ยนมาเป็น “วงเวียนน้ำพุ” ในความทรงจำของผู้คนสมุทรสาคร มาจนถึงทุกวันนี้
– กิตติกร นาคทอง –
ขอขอบคุณ ผศ.ศรัญญู เทพสงเคราะห์ และคุณชนินทร์ อินทร์พิทักษ์ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลประกอบบทความนี้
รู้ประวัติชัดเจนแล้ว ถ้าจังหวัดนำมาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสมุทรสาครได้ ทำเป็น land mark และสร้างความตระหนักรักประชาธิปไตยได้จะดีมากๆๆ ค่ะ