
การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (ปฐมนิเทศโครงการ) โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้มช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย วันที่ 20 พ.ย. ที่กรุงเทพฯ และ 21 พ.ย. ที่โรงแรมเซ็นทรัลเพลส จ.สมุทรสาคร ถือเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ หลังตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กินมานานกว่า 20 ปี
ก่อนหน้านี้หากยังจำกันได้ สมัยที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2567 มีมติปรับเปลี่ยนโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง จากเดิมจากหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่-มหาชัย เป็น วงเวียนใหญ่–มหาชัย
โดยเว้นวรรคช่วง หัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ไปก่อน เนื่องจากติดปัญหาพื้นที่มีชุมชนหนาแน่น และจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง การใช้ประโยชน์ที่ดินปรับเปลี่ยน ส่งผลให้โครงการมีมูลค่าสูงเนื่องจากต้องการเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จำนวนมาก รวมถึงสะพานสำหรับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่ผ่านการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
ขณะที่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท. ได้จ้างที่ปรึกษา เพื่อทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคาโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย ประกาศประกวดราคามาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2567
กระทั่ง ร.ฟ.ท. ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาผู้ได้รับการคัดเลือก เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2568 ได้แก่ กิจการค้าร่วม (Consortium) ในนามกลุ่มบริษัท เทสโก้ จำกัด โดยเสนอราคาเป็นเงินทั้งสิ้น 135,622,500 บาท

รายงานข่าวเพิ่่มเติมระบุว่า ที่ผ่านมาทีมงานบริษัทที่ปรึกษาของ ร.ฟ.ท. เข้ามาเก็บข้อมูลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่าแนวเส้นทางถึงสถานีปลายทางมหาชัย มีหลายตัวเลือกด้วยกัน เช่น มาตามทางรถไฟเดิม หรือมาตามถนนเอกชัย โดยจุดสิ้นสุดปลายทางมีตัวเลือก ทั้งอยู่บริเวณก่อนถึงคลองครุ หรือบริเวณถนนเอกชัย สี่แยกโรงพัก ฯลฯ
ส่วนตัวเลือกเส้นทางของจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอเอกสารปฐมนิเทศโครงการ ซึ่งจะเผยแพร่ในการประชุมช่วงดังกล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2568 นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พรรคประชาชน กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทวงถามโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย กับ ร.ฟ.ท. และกระทรวงคมนาคม ว่าสุดท้ายจะอย่างไรกันแน่
เพราะมีการศึกษาแล้วศึกษาอีก ไม่ใช่มีการศึกษาไปศึกษามา แต่ไม่มีการแก้ไขปัญหาสักที ประชาชนรอกันมานาน ตนเข้าใจดีว่าศึกษามีความจำเป็น แต่ก็รออยู่ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ เพราะโครงสร้างพื้นฐานนี้จะนำไปสู่เดินทางระหว่างเมืองที่สะดวกมากขึ้น
-กิตตินันท์ นาคทอง-

