ชง ครม. ตั้ง “ศูนย์เก็บข้อมูลแรงงานพม่า” ชั่วคราวที่ตลาดทะเลไทย 1 ปี

คณะกรรมการนโยบายจัดการแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ฯ เห็นชอบจัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานพม่าชั่วคราวของทางการพม่า ที่ตลาดทะเลไทย สมุทรสาคร 1 ปี พร้อมอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวที่ประเทศต้นทางทำเอ็มโอยูกับไทย เข้ามาทำงานกรรมกรได้ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน การประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ครั้งที่ 2/2561 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน และนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน มีมติเห็นชอบการจัดตั้งศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานพม่าชั่วคราวของทางการพม่า ที่ตลาดทะเลไทย ถนนพระราม 2 ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

ศูนย์ดังกล่าว ทำหน้าที่เก็บข้อมูลของแรงงานพม่าที่ขอหนังสือเดินทาง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Function A แรงงานพม่าที่ต้องการเปลี่ยนเอกสารประจำตัวเป็นหนังสือเดินทา ผ่านการพิสูจน์สัญชาติหรือจัดทำทะเบียนประวัติในประเทศไทย ที่ถือหนังสือเดินทาง หนังสือเดินทางชั่วคราว และเอกสารรับรองบุคคล, กลุ่ม Function B แรงงานพม่าตามเอ็มโอยู ที่ต้องการจัดทำเป็นหนังสือเดินทางฉบับใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนให้กับแรงงานพม่าที่ประสงค์จะกลับเข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู เมื่อวาระการจ้างงานครบ 4 ปี แล้ว

โดยทั้งสองกลุ่ม จะต้องยื่นเอกสารตามที่ทางการพม่ากำหนด เมื่อผ่านการตรวจสอบแล้ว จึงจะสามารถขอรับหนังสือเดินทางได้ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่าประจำประเทศไทย หรือศูนย์ออกหนังสือเดินทางบริเวณชายแดนแม่สาย จ.เชียงราย-ท่าขี้เหล็ก, แม่สอด จ.ตาก-เมียวดี และ จ.ระนอง-เกาะสอง ศูนย์ดังกล่าวจะเปิดดำเนินการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี เปิดทำงานวันจันทร์-วันเสาร์ เว้นวันอาทิตย์และวันหยุดราชการไทย ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. หรือจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดทั้งสิ้น โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเข้ามาทำงานกรรมกรในประเทศไทย ต้องเป็นคนต่างด้าวที่มีสัญชาติของประเทศคู่ภาคี ที่รัฐบาลไทยได้ทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) หากปรากฏว่ามีกำลังแรงงานของคนต่างด้าวของประเทศคู่ภาคีไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว เห็นควรให้มีการพิจารณาจัดทำเอ็มโอยูกับประเทศที่เหมาะสมเพิ่มเติม ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรีไปพร้อมกันด้วย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *