ปรับโฉมใหม่แอปฯ K PLUS “กสิกรไทย” ชูไลฟ์สไตล์ แย้มทุ่ม 7 พันล้านดูแลระบบไม่ล่ม

ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวแอปพลิเคชั่น K PLUS ใหม่ แทนของเดิมที่ใช้มา 5 ปี ชูไลฟ์สไตล์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ตอบโจทย์รายคน พร้อมเปิด K PLUS MARKET ช้อปออนไลน์หักจากบัญชี หรือใช้คะแนนบัตรเครดิตแลกได้ เผยปีหน้าลงทุนไอทีเบื้องต้น 7 พันล้าน พัฒนาประสิทธิภาพรองรับ ดูแลไม่ให้ระบบล่ม

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) จำกัด ในเครือธนาคารกสิกรไทย ร่วมกันเปิดตัวแอปพลิเคชั่น K PLUS ใหม่ แทนรูปแบบเดิมที่ใช้งานมาแล้วกว่า 5 ปี โดยเปลี่ยนสัญลักษณ์ใหม่ และหน้าตาและการจัดวางเมนูการใช้งานใหม่ เพื่อให้ทันสมัยเข้ากับยุคดิจิทัล และยังสามารถใช้งานผ่านไว-ไฟได้ทุกเวลา จากเดิมครั้งละ 90 วัน

โดยผู้ใช้สามารถทำธุรกรรม โอนเงิน ที่เพิ่มตั้งโอนล่วงหน้ารายครั้ง รายสัปดาห์ หรือรายเดือน นานสูงสุด 1 ปี, เติมเงิน, จ่ายบิล, ขอรายการเดินบัญชี (Statement), สินเชื่อ, ลงทุน และบริการอื่นๆ ส่วนเมนูใหม่ “ถอนเงิน” สามารถถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร ได้โดยสแกนคิวอาร์โค้ดที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย (K-ATM) กว่า 9,000 จุดทั่วประเทศ ฟรีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบสลิปอิเล็กทรอนิกส์ (e-Slip) ใหม่ เพิ่มคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบได้ว่าจำนวนเงิน และบัญชีปลายทางตรงกันหรือไม่ นานถึง 90 วัน

นอกจากนี้ ยังมี K PLUS TODAY แจ้งเตือนธุรกรรมที่สำคัญและทำบ่อยของลูกค้า แนะนำโปรโมชัน ร้านค้าโปรด โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า, K PLUS MARKET แหล่งรวมร้านค้าออนไลน์ที่คัดสรรพิเศษในราคาพิเศษ ชำระผ่าน K PLUS หักจากบัญชี หรือนำคะแนนสะสม K Reward Point มาแลกสินค้าได้ ทุก 1,000 คะแนนเท่ากับ 100 บาท และเมนู “บัตรสมาชิก” เพื่อใช้สะสมคะแนนแทนบัตรจริง เช่น PTT Blue Card, สมาชิก The 1 กลุ่มเซ็นทรัล และยังมีพันธมิตรอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต

นายพัชร กล่าวว่า นอกจากจะเปลี่ยนหน้าตา K PLUS ใหม่แล้ว ยังดูแลระบบไม่ให้ล่มไปพร้อมกันด้วย โดยได้ตั้งงบด้านไอทีในปี 2562 เบื้องต้น 7 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ความปลอดภัยในการใช้งาน และเพิ่มความสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมได้มากขึ้น ที่ผ่านมา การจะทำให้ระบบเสถียรอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่จำนวนปริมาณธุรกรรมมากขึ้น ธนาคารฯ เห็นปัญหาแล้ว จะพยายามแก้ไขให้เต็มที่ ส่วนจะการันตีได้ว่าระบบจะไม่ล่มเลยหรือไม่นั้นคงไม่ไกลขนาดนั้น ซึ่งฟังก์ชั่นที่มากขึ้น ไม่กระทบกับความสามารถในการให้บริการ

ด้านนายสมคิด กล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนา K PLUS คือทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย ให้ทุกคนเข้าถึงได้ โดยมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้ชื่อว่า KADE เรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน เพื่อเสนอบริการแก่ลูกค้าเป็นรายบุคคลได้ ขณะเดียวกัน ยังออกแบบให้มีความยืดหยุ่น เพื่อให้มีผู้ให้บริการใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคาร และไม่จำเป็นต้องเป็นกสิกรไทย มาร่วมให้บริการได้ สิ่งที่ต้องการเปลี่ยนคือ อยากให้มีคนใช้รูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น เข้าไปช่วยทำให้ชีวิตประจำวันสะดวก เร็วขึ้น สร้างคุณค่าให้กับคนได้มากขึ้น

ปัจจุบันมี​จำนวนผู้ใช้บริการ K PLUS รวม 9.4 ล้านราย จากลูกค้าธนาคารทั้งหมด 15 ล้านราย หรือมากกว่า 61% มีปริมาณธุรกรรม 9 เดือนของปี 2561 อยู่ที่ ​3,634 ล้านรายการต่อปี โดยมีรายการโอน-เติม-จ่าย คิดเป็น 125 ล้านรายการต่อเดือน แต่ฟังก์ชั่นไลฟ์สไตล์มีเพียง 5 แสนรายการต่อเดือน หรือคิดเป็น 1% จึงตั้งเป้าให้มีผู้ใช้งานด้านไลฟ์สไตล์เป็น 5-10% ภายใน 1 ปี พร้อมกับช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นปีละ 2 ล้านบัญชี และเพิ่มฐานลูกค้ารวมของธนาคารให้ได้ 20 ล้านบัญชีภายใน 3 ปี

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแอปพลิเคชัน K PLUS รองรับระบบปฏิบัติการ iOS 9 กับ Android 5.0 ขึ้นไป โดยที่เครื่องต้องไม่ผ่านการดัดแปลง (Jailbreak หรือ Root) เข้าใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ขณะที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย ได้เพิ่มเมนู “ถอนเงินไม่ใช้บัตร” (Cardless Withdrawal) ไปแล้วเมื่อช่วงเย็น สามารถถอนเงินผ่านแอปฯ K PLUS โดยไม่ต้องใช้บัตรได้ทันที นอกจากนี้ แอปพลิเคชั่น K PLUS SHOP สำหรับร้านค้ารับชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด จะเปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. เป็นต้นไป

เมนู “ถอนเงินไม่ใช้บัตร” ที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทย หน้าศูนย์การค้าพอร์โต้ ชิโน่ ถนนพระราม 2 กม. 25 จ.สมุทรสาคร

สาครออนไลน์ โดย กิตตินันท์ นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *