ตามหาผู้ว่าฯ สมุทรสาครตัวจริง

ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2558

ณ วันที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ เป็นช่วงที่กระทรวงมหาดไทยจะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังผู้ว่าราชการจังหวัด 23 จังหวัดจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ และมีตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดว่างลง 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สมุทรสาคร จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.อุบลราชธานี และ จ.นราธิวาส

ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้จัดการสอบวิสัยทัศน์ของผู้ที่มีสิทธิเข้าสอบในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดไปแล้วในช่วงวันที่ 28-29 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด 56 คน รองอธิบดีอีก 9 คน รวม 65 คนเข้าสอบสัมภาษณ์ ก่อนจัดทำบัญชีรายชื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากมีมติเห็นชอบก็จะมีการอบรมผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นระยะเวลา 10 วัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการที่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่พร้อมทำงานทันทีในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ทราบมาว่าก่อนหน้าที่จะมีการสอบสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด มีรายงานข่าวเข้ามาว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงษ์ จะผลักดันรุ่นน้องที่จบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สิงห์ดำ) ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด หนึ่งในนั้นก็คือ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร แต่พอข่าวอย่างนี้ออกไปเข้าใจว่าจะเกิดสภาวะฝุ่นตลบขึ้นในกระทรวง เผลอๆ อาจมีพลิกโผเกิดขึ้นที่หลังก็ได้

เอาล่ะ … ใครจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนต่อไป จะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจากที่อื่นมาก่อน หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลื่อนตำแหน่งขึ้นมา ก็ต้องขอแสดงความยินดีกันล่วงหน้า แต่หากย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งที่ผมคาดหวังมากที่สุดก็คือ จะต้องไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นไม้ใกล้ฝั่งรอวันเกษียณอย่างเดียว อย่างผู้ว่าราชการจังหวัดคนที่แล้ว ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ท่านก็พิสูจน์ฝีมืออย่างดี กระทั่งรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วจะได้เป็นอธิบดีกรมการปกครอง

ย้อนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรสาครอาจเรียกได้ว่าเมืองประมง ดงเกษียณ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีแต่ไม้ใกล้ฝั่ง อยู่เพื่อรอวันเกษียณอายุราชการ ส่งผลทำให้การพัฒนาจังหวัดเชื่องช้าไม่ต่างอะไรกับคนที่หมดสมรรถภาพทางร่างกาย น้อยครั้งนักที่จะเห็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ทำให้การบริหารงานจังหวัด โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่มีความต่อเนื่อง พูดง่ายๆ นั่งอยู่เก้าอี้ดมกลิ่นปลาป่นสักปีสองปีก็ต้องลุกออกจากเก้าอี้ไปเลี้ยงหลานเลี้ยงเหลนที่บ้านกันแล้ว

แม้วันนี้จะยังไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนใหม่ หากแต่ภารกิจแรกของผู้ว่าราชการจังหวัดที่นี่ หนึ่งเดือนแรกคาดว่าคงไม่เป็นอันทำงาน เพราะบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งข้าราชการและนักธุรกิจ จะแห่แหนจัดงานเลี้ยงต้อนรับ เหล้าเบียร์เพียบแทบทุกเย็น ไม่อยากจะนึกสภาพ หากเราได้ผู้ว่าไม้ไกล้ฝั่งรอวันเกษียณ สภาพคงดูไม่จืด เพราะธรรมชาติคนแก่ ยิ่งมีใครเอาใจก็ยิ่งชอบ สุดท้ายก็ไม่เป็นอันทำงานทำการ แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

บทความชิ้นนี้ขอต้อนรับ และรับน้องผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนใหม่ด้วยการเอาแส้ฟาดกันแบบนี้แหละ เพราะที่ผ่านมาคนสมุทรสาครเจ็บช้ำมาพอแล้วกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ไม่มีน้ำยา อยู่เพื่อฆ่าเวลาไปวันๆ จังหวัดเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพ และจีดีพีสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ยังรอการพัฒนาและแก้ไขปัญหาอีกมาก บอกได้เลย ถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ไม่เก่งจริง สมุทรสาครก็คงกลับไปสู่จุดเดิม คือไม่มีการพัฒนา มีแต่สารพันปัญหา อยู่กันแบบตามมีตามเกิด

ถึงเวลาแล้วที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหน้าใหม่จะสานงานต่อ ก่องานใหม่ แก้ไขปัญหาให้คนสมุทรสาครอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนเสียแต่บัดนี้ ก่อนที่จะมานั่งเสียใจที่ไม่ได้ทำ แล้วจากไปด้วยเสียงบ่นเสียงด่ากันลับหลัง ไม่สง่างามเลยสักนิดเดียว.



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง