จัดระเบียบรถตู้ สมุทรสาครแค่หางเลข

ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559

ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป คณะทำงานจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะจัดระเบียบรถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และย่านเกาะรัตนโกสินทร์ ไปยังสถานีขนส่ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต 2, สถานีขนส่งสายใต้ ปิ่นเกล้า และสถานีขนส่งเอกมัย

การจัดระเบียบรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเที่ยวนี้ จังหวัดสมุทรสาครได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เพราะเป็นรถตู้ ขสมก. ร่วมบริการ ซึ่งรถตู้สาย ต. 127 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สมุทรสาคร ย้ายจากใต้ทางด่วนศรีรัช ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยขอคืนพื้นที่ ไปอยู่ที่เกาะพหลโยธิน บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแทน

แต่รถตู้สาย 996 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – บ้านแพ้ว นั้นเป็นรถตู้ บขส. ร่วมบริการ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่จะต้องย้ายไปให้บริการที่อื่น รถตู้บ้านแพ้วจึงย้ายไปให้บริการที่สถานีขนส่งสายใต้ ปิ่นเกล้า เช่นเดียวกับรถตู้สายสมุทรสงคราม ดำเนินสะดวก ราชบุรี เพชรบุรี ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ที่จำเป็นที่จะต้องย้ายไปให้บริการที่นั่นเช่นเดียวกัน

ไปกันที่หมอชิตใหม่ เมื่อไม่นานมานี้ รถตู้สายหมอชิตใหม่ – สมุทรสาคร เพิ่งย้ายจากใต้ทางด่วนหมอชิต 2 ไปยังด้านในชานชาลาที่ 2 ช่องที่ 20 ด้านข้างห้องน้ำ โดยพื้นที่ใต้ทางด่วนปัจจุบันกำหนดให้เป็นที่พักรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้ามาจอดพักที่นี่ โดยห้ามรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณนี้เด็ดขาด ให้ไปใช้บริการด้านในหมอชิตใหม่เท่านั้น

ความโชคดีของการจัดระเบียบรถตู้เที่ยวนี้ คงต้องยกให้เป็นรถตู้สายอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สมุทรสาคร เพราะนอกจากจะได้ทำเลใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยมากกว่าเดิมแล้ว ประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงอย่างเช่นสมุทรสงคราม เริ่มที่จะให้ความสนใจในการปรับเปลี่ยนการเดินทาง โดยหันมาต่อรถที่ตัวเมืองสมุทรสาครเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าที่อนุสาวรีย์ชัยแทน

สาเหตุสำคัญก็คือ สถานีขนส่งทั้ง 3 แห่งที่ย้ายออกไปนั้น มีเพียงสถานีขนส่งเอกมัยเท่านั้นที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส แต่สำหรับสถานีขนส่งหมอชิตนั้น ก็ต้องต่อรถจักรยานยนต์รับจ้าง เสียค่าใช้จ่ายราว 60-80 บาทต่อเที่ยว ถ้าเป็นสถานีขนส่งสายใต้ ปิ่นเกล้า ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต้องฝ่าดงการจราจรติดขัดทั้งสะพานกรุงธน สะพานพระราม 8 และสะพานพระปิ่นเกล้า

ข้อดีของจุดต่อรถเกาะพหลโยธินอีกประการหนึ่งก็คือ นอกจากจะมีทางเชื่อมไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว ตรงจุดนั้นมีรถประจำทางเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือรถประจำทางสาย A1 จากท่าอากาศยานดอนเมือง เรียกได้ว่าลงจากเครื่องบินแล้ว ต่อรถเมล์ปุ๊บ ถึงอนุสาวรีย์ชัยปั๊บเดินขึ้นรถตู้ได้ทันที ด้วยระยะทางที่ใกล้กว่าเดิม

ปัญหาที่สำคัญก็คือ ปัจจุบันรถตู้สายอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – มหาชัย เป็นรถตู้ที่คนสมุทรสาครเลือกใช้บริการเป็นอันดับต้น ๆ ผู้โดยสารเต็มแล้วออกเรื่อย ๆ ถึงขนาดมีคนยืนรอต่อคิวยาวเหยียดในช่วงเช้า หากมีพี่น้องจากบ้านแพ้ว และสมุทรสงครามตามมาขึ้นรถที่นี่อีก ลองคิดดูว่าผู้คนจะเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน ยิ่งจุดจอดมีสภาพคับแคบก็คงดูไม่จืด

ที่น่าสังเกตก็คือ อาจมีผู้ประกอบการรถตู้ต่างจังหวัดบางราย หันมาใช้กลยุทธ์ในการรับ-ส่งผู้โดยสารให้ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด อาทิ รถตู้สายกรุงเทพฯ – กาญจนบุรี ใช้วิธีวนไปรับ-ส่งที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บางหว้า โดยใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ อาจเป็นวิธีแก้ขัดเพื่อให้คนต่อรถไฟฟ้าเข้าเมืองได้ ในยามที่รถตู้อนุสาวรีย์ชัยปิดฉากลง

ต้องดูกันต่อไปว่าการจัดระเบียบรถตู้เที่ยวนี้จะเกิดความลำบากตามมาหรือไม่ แม้วัตถุประสงค์ในการย้ายเพื่อแก้ปัยหาจราจร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่หากจัดระเบียบแล้วปัญหาจราจรยังเหมือนเดิม หรือเลวร้ายลง เพราะผู้คนหันมาใช้รถส่วนตัวมากขึ้น อันนี้ก็สมควรที่คณะทำงานจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ คสช. จะต้องทบทวนแผนจัดระเบียบของตนเอง



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง