ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559

ผ่านมาถึงขวบที่ 15 แล้ว สำหรับเทศกาลอาหารทะเลสมุทรสาคร งานออกร้านอาหารทะเลจากร้านอาหารต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับจัดการแสดงดนตรี ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนมีนาคม

สำหรับปี 2559 สถานที่จัดงานยังคงเป็นที่ดินเปล่าติดกับร้านอาหารเพลินทะเล ถนนท่าปรง เนื่องจากริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เพิ่งจะก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแล้วเสร็จ แต่ในปีหน้าเห็นว่าจะกลับมาจัดที่ริมเขื่อนเช่นเดิม

ผู้เขียนได้มีโอกาสพาเพื่อนจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวงานเทศกาลอาหารทะเลในปีนี้ เพราะเห็นออกข่าวเยอะแล้วอยากไป

แต่ปฏิกิริยาจากเพื่อน … ดูไม่ค่อยแฮปปี้กับงานนี้เท่าที่ควร!

เขาบอกว่า อาหารแพงเกินไป อีกทั้งบรรยากาศภายในงานไม่ค่อยมีจุดเด่น หรือมีเอกลักษณ์ท้องถิ่น เมื่อเทียบกับไปกินอาหารทะเลที่อัมพวา นั่งริมน้ำริมตลิ่งบนถนนเลียบนที (อ่านว่า เลียบ นะ ที) ยังได้บรรยากาศกว่า

โดยส่วนตัวในช่วงที่ผ่านมา ไปเที่ยวเทศกาลอาหารทะเลจัดที่ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ยังได้บรรยากาศริมน้ำ แต่พอย้ายมาจัดที่ถนนท่าปรง ก็คิดว่าเสน่ห์ของงานนี้ ขาดหายไปพอสมควร

ในปีหน้าหากกลับมาจัดที่ริมเขื่อน น่าจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เพราะคนเรานอกจากต้องการอาหารอร่อยแล้ว บรรยากาศดีๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับเรื่องการจัดงาน โดยส่วนตัวมองว่ายังคงมีจุดขายเดิมทุกปี แต่สิ่งที่ทำได้ดีในปีนี้ คือ ในพิธีเปิดงานวันแรก มีการเชิญ เชฟบุญเชิด หรือ บุญเชิด ศรสุวรรณ อุปนายกสมาคมเชฟประเทศไทย และเชฟเหรียญทองอาหารไทย 2 ปีซ้อน สาธิตการทำสปาเก็ตตี้ดำผัดซีฟู้ดซอส กับ สปาเก็ตตี้ซีฟู้ดครีมซอส

น่าจะมีแบบนี้ในวันอื่นๆ และต่อยอดไปสู่การออกร้านที่จำหน่ายเฉพาะในงานนี้โดยฝีมือเชฟที่มีชื่อเสียง หรือถ้ามีศักยภาพมากกว่านี้อาจะเชิญเชฟระดับ เชฟกระทะเหล็ก ที่มีชื่อเสียงในรายการทีวีเข้ามามีส่วนร่วมในงานนี้บ้างก็ได้

โดยส่วนตัวคิดว่าบางปีน่าจะลองมีธีม (Theme) ในการจัดงาน เพื่อสร้างความแตกต่างให้คนที่รับรู้ได้รู้สึกว่า มันแตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา โดยอาจจะเพิ่มกิจกรรมที่อาจไม่เคยมีมาก่อน หรืออาจจะสร้างสีสันอะไรบางอย่างให้เป็นที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม มีทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อที่แตกต่างกัน

อย่างจังหวัดเพื่อนบ้านที่สมุทรสงคราม เทศกาลปลาทูและของดีเมืองแม่กลอง แต่ละครั้งมักจะมีธีมการจัดงานไม่เหมือนกัน อย่างปีที่แล้ว 2558 จะเป็นตอนที่มีชื่อว่า ราชินีความอร่อย ก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง หรือการประกวดแม่กลอง มิวสิคอวอร์ด สำหรับวัยรุ่นในย่านนี้ เพื่อให้กลายเป็นงานที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย

อีกประการหนึ่งที่ควรระวังก็คือ เสียงวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหาร แม้การตั้งราคาจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและชื่อเสียง เช่น ภัตตาคารชื่อดังในมหาชัย ข้าวผัดปูกล่องละ 50 บาท ออส่วนกล่องละ 70 บาท อันนี้พอยอมรับได้

แต่ถ้าสมมติมีร้านธรรมดาๆ ตั้งราคาอาหารสูงเกินจริง โซเชียลมีเดียยุคนี้รู้ถึงกัน รู้ว่าร้านไหนแพง รสชาติอาหารไม่อร่อย มีอะไรก็โพสต์ได้หมด ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ร้านไหนไม่ดีก็เงียบเข้าไว้ ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของงานเสียหาย

คำโบราณว่า แม้เสียงจิ้งจกร้องทัก ยังต้องหยุดฟัง ในยุคนี้แม้คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียเล็กๆ น้อยๆ ยิ่งต้องฟังและปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำซาก ถึงขั้นกลายเป็น งานดราม่า บนโซเชียลมีเดีย

เพราะผลที่ได้รับ ไม่ได้กระทบแค่งานนี้งานเดียว แต่ยังเหมารวมไปถึงชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร ที่พยายามจะเป็นครัวของโลก นครแห่งอาหารทะเล ศูนย์กลางอาหารทะเลระดับประเทศ มาโดยตลอดอีกด้วย.