“คลังสมุทรสาคร” โหมโรงดึงร้านค้า ร่วมมาตรการ “รูดบัตรเดบิต” ช่วงตรุษจีน-คืนภาษี 5%

แฟ้มภาพ

พบยังไม่มีร้านค้าใดในสมุทรสาคร เข้าร่วมโครงการให้ลูกค้ารูดบัตรเดบิต-ชำระคิวอาร์โค้ด ในช่วงเทศกาลตรุษจีน แล้วรอรับเงินภาษีคืน 5% เตรียมเร่งเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ ส่วนร้านโมเดิร์นเทรดและรายใหญ่สมัครเข้าร่วมกับกรมบัญชีกลางที่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ย้ำประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อนรูดบัตรภายใน 31 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการนำส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยให้ร้านค้าที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีระบบบันทึกการเก็บเงินผ่านระบบ Point of Sale (POS) เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ประชาชนชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเดบิต และพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด PromptPay QR Code) และกระทรวงการคลังจะจ่ายเงินชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% คืนเข้าพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ในเดือน พ.ย. นี้ พบว่ายังไม่มีร้านค้าใดในจังหวัดสมุทรสาครให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการฯ กับสำนักงานคลังจังหวัดสมุทรสาครแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้สำนักงานคลังจังหวัดสมุทรสาคร จะได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมตามมาตรการดังกล่าวต่อไป

ส่วนร้านโมเดิร์นเทรด และห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ พบว่าได้สมัครเข้าร่วมมาตรการฯ กับทางกรมบัญชีกลางที่กรุงเทพฯ โดยตรงเรียบร้อยแล้ว และพร้อมให้ประชาชนใช้สิทธิ์ชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเดบิต หรือพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ดแทนเงินสด เพื่อรับเงินภาษีคืน 5% ผ่านสาขาต่างๆ ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.พ. 2562 โดยในจังหวัดสมุทรสาครประกอบด้วย เซเว่นอีเลฟเว่น 168 สาขา, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์, แม็คโคร, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขามหาชัย, ท็อปส์, เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, แฟมิลี่มาร์ท, ซีเจ เอ็กซ์เพรส, ไทวัสดุ, โฮมโปร, ร้านคอมเซเว่น ฯลฯ

สำหรับประชาชนทั่วไป ที่สนใจใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต หรือพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด เพื่อรับเงินภาษีคืนตามมาตรการฯ ต้องไปลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th ภายในวันที่ 31 ม.ค. 2562 โดยกรอกข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร และเลขหน้าบัตรเดบิต 16 หลักที่จะใช้จ่ายเพื่อรับสิทธิ์ คุณสมบัติต้องมีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (เกิดก่อนวันที่ 1 ก.พ. 2547) มีบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย ที่เข้าร่วมมาตรการฯ ไม่รวมถึงบัตรเครดิต และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และสมัครใช้บริการพร้อมเพย์โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน เพื่อรับเงินชดเชย ซึ่งผูกบัญชีธนาคารใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นบัญชีเดียวกันกับธนาคารที่ลงทะเบียนเพื่อรับเงินชดเชย โดยจะได้รับเงินคืน 5% จากยอดซื้อสินค้าและบริการรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% สูงสุด 1,000 บาทต่อคน

ส่วนสินค้าที่ไม่ร่วมรายการ ได้แก่ สุรา ยาสูบ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมัน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำศัลยกรรมหน้าอก ศัลยกรรมหน้า และสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ ทองคำแท่ง เนื้อหมู ไก่ ปลา หนังสือ นิตยสาร ตำราเรียน รวมทั้ง ซื้อประกันชีวิต ประกันรถยนต์ ซื้อบัตรเพื่อแลกรับบริการ ซื้อบัตรของขวัญของห้างสรรพสินค้า ซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ และค่าตั๋วเครื่องบิน ส่วนการจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหาร หากร้านอาหารนั้นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถได้รับเงินชดเชย ทั้งนี้ ไม่รวมสุรา เบียร์ ไวน์ ส่วน เป็นต้น รายละเอียดรายการสินค้าหรือบริการที่ได้รับสิทธิ์ สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.epayment.go.th

ก่อนหน้านี้ น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการจำนวนน้อยมาก จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ลงทะเบียนสมัครเพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการนี้ โดยขอให้ประชาชนที่สมัครลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแล้วแจ้งผู้ประกอบการร้านค้า ณ จุดการชำระเงิน ด้วยว่าเป็นการซื้อสินค้าและบริการตามมาตรการดังกล่าว ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการให้สอบถามประชาชนก่อนดำเนินการชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

สาครออนไลน์ โดย กิตตินันท์ นาคทอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *