“บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” เปิดตัว Sea Snack น้องใหม่ “โมโนริ” แก้มกุ้งทอดอบกรอบ ตั้งเป้ายอดขายในประเทศปีแรก 50 ล้านบาท เล็งส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศช่วงต้นปีหน้า
นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “โมโนริ” (MONORI) แก้มกุ้งทอดอบกรอบสไตล์ญี่ปุ่น 2 รสชาติ
โดยในปี 2560 ทางบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายในประเทศไทยอยู่ที่ 40-50 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท ภายในระยะ 3 ปี และภายในระยะ 5 ปี คาดว่าจะมียอดขายจากในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ อยู่ที่ 500 ล้านบาท
ซึ่งทางบริษัท ได้ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตใหม่ใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 ซองต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ซึ่งการผลิตแก้มกุ้งทอดอบกรอบ โมโนริ ต้องใช้กุ้ง 80 ตันต่อวัน จึงจะได้แก้มกุ้ง 1 ตันในการผลิต ส่วนจากกุ้ง 50,000 ตันต่อปี มาจากการรับซื้อจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ตั้งงบประมาณ 30 ล้านบาท ในการทำตลาดเชิงรุกทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยจะเป็นการทำโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และประชาสัมพันธ์ผ่าน เฟซบุ๊ก, ไลน์, อินสตาแกรม ตลอดจนการจัดกิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ เช่น การจัดบูธแสดงสินค้า เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์ โมโนริ เปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ “เคี้ยว มันส์ ฟัน อร่อยเต็มแก้ม” แตกไลน์กลุ่ม Sea Snack ครั้งแรกในตลาดขนมทานเล่น ชูจุดขายด้วยวัตถุดิบหลักจากอาหารทะเล มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินัล และรสสไปซี่ ขนาด 25 กรัม ราคา 35 บาท โดยบริษัทได้แต่งตั้งกลุ่มเครือสหพัฒน์ เป็นผู้ดูแลในการจัดจำหน่าย
เริ่มวางจำหน่ายแล้วในโมเดิร์นเทรดของเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป, สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทสโก้ โลตัส และซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัล อีกทั้งกำลังเตรียมจัดจำหน่ายในฟู้ดแลนด์, ลอว์สัน ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ภายในปีนี้
นอกจากนี้ ภายในระยะ 3 เดือน คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ โมโนริ ออกมาเพิ่ม โดยบริษัทตั้งเป้าออกโปรดักต์ใหม่ปีละ 2 ผลิตภัณฑ์ และจะมีรูปแบบของสินค้าหลากหลายมากขึ้น เช่น แบบคัพ แบบซิปล็อค และแบบแพ็ค ซึ่งในอนาคตผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมโนริ จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่ม Sea Snack
นายฤทธิรงค์ กล่าวอีกว่า ในปี 2561 บริษัทมีแผนที่จะส่งออกโมโนริไปยังต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 50% และจำหน่ายภายในประเทศอีก 50% ซึ่งในช่วงต้นปี 2561 จะส่งออก โมโนริ ไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียก่อน เนื่องจากการบริโภคของคนในเอเชียมีลักษณะคล้ายกัน โดยเฉพาะเกาหลีใต้ และจีน ประกอบกับผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ในทุกกลุ่มไปจนถึงระดับกลาง อีกทั้งมั่นใจว่าสินค้าจะเติบโตได้ดี และคาดว่าจะขยายได้ทั้งในตลาดยุโรป และอเมริกา
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ