ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556

เมื่อวันก่อน การรถไฟแห่งประเทศไทยแจ้งว่า ได้ลดขบวนรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง จากวันละ 4 เที่ยว เหลือเพียงวันละ 3 เที่ยว เนื่องจากทางรถไฟสาย บ้านแหลม – แม่กลอง มีสภาพทางที่ชำรุด ซึ่งกำลังดำเนินการเปลี่ยนและปรับปรุงทาง จึงได้ปรับความเร็วของขบวนรถไฟลง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร ทำให้ขบวนรถไม่สามารถวิ่งตามกำหนดเวลาเดิมได้ รถไฟจะใช้เวลาวิ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมง เป็น 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง

โดยจากสถานีบ้านแหลม ไปแม่กลอง ขบวน 4381 จากเดิม ออก 07.30 น. เปลี่ยนเป็น ออก 08.00 น., ขบวน 4383 จากเดิม ออก 10.10 น. เปลี่ยนเป็น ออก 12.00 น., ขบวน 4385 จากเดิม ออก 13.30 น. จะไม่มีให้บริการ และขบวน 4387 จากเดิม ออก 16.40 น. ยังคงออกตามกำหนดเวลาเดิม

จากสถานีแม่กลอง ขบวน 4380 จากเดิม ออก 06.20 น. ยังคงออกตามกำหนดเวลาเดิม, ขบวน 4382 จากเดิม ออก 10.00 น. เปลี่ยนเป็น ออก 10.20 น., ขบวน 4384 จากเดิม ออก 12.30 น. จะไม่มีให้บริการ และขบวน 4386 จากเดิม ออก 16.30 น. เปลี่ยนเป็น ออก 14.30 น.

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงเวลาเดินรถย่อมส่งผลกระทบต่อนักเรียน ที่เคยนั่งรถไฟไปโรงเรียนก็ไปไม่ได้เพราะปรับเวลาใหม่ ซึ่งเลยเวลาเข้าเรียน ไม่นับรวมการท่องเที่ยวที่ขบวนรถจากสถานีแม่กลองถึงบ้านแหลม ขบวนสุดท้ายจากสถานีแม่กลองมีให้บริการถึงบ่ายสองโมงครึ่งเท่านั้น

ถึงกระนั้นทางรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ยังนับว่าโชคดีเมื่อเทียบกับขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุพรรณบุรี ซึ่งคนสุพรรณบุรีไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาใช้บริการเลย เพราะออกจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) 16.40 น. ถึงสถานีสุพรรณบุรี ซึ่งห่างจากตัวเมืองไกลพอสมควร 20.15 น. เที่ยวไปออกจากสถานีสุพรรณบุรีตอน 04.30 น. ถึงสถานีกรุงเทพฯ 08.05 น.

และพอเอาเข้าจริงรถไฟสายสุพรรณบุรีขบวนนี้ ตกเย็นพอพ้นนครปฐมคนก็เกือบหมดแล้ว นับประสาอะไรกับเที่ยวกลับจากสุพรรณบุรี คนจะเริ่มขึ้นก็ตั้งแต่นครปฐมเพื่อไปทำงานหรือไปธุระที่กรุงเทพฯ ทั้งนั้นแหละ ทุกวันนี้คนสุพรรณบุรีเดินทางด้วยรถตู้สบายกว่ากันเยอะเพราะมีให้บริการหลายจุดในกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอต่างๆ ตลอดทั้งวัน

ทางรถไฟสายแม่กลอง ช่วงสถานีบ้านแหลม ถึงสถานีแม่กลองนั้น เริ่มเปิดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. 2448 โดยมีบริษัท แม่กลอง ทุนจำกัด ได้รับสัมปทานเดินรถเป็นระยะเวลา 40 ปี กระทั่งในปี 2488 ได้ขายกิจการให้กับกรมรถไฟ ภายใต้องค์กรรถไฟสายแม่กลอง ก่อนจะรวมเข้ากับการรถไฟแห่งประเทศไทย

ปัจจุบันทางรถไฟสายนี้มีอายุ 108 ปี ให้บริการขบวนรถดีเซลราง 2 ขบวน มีสถานีรถไฟ 2 แห่ง และที่หยุดรถ 13 แห่ง หลายคนคงบ่นว่าแล้วจะทนวิ่งให้ขาดทุนไปทำไม แต่รถไฟสายนี้ ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว โดยเฉพาะในตำบลที่ห่างไกลจากถนนพระราม 2 และไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่าน

นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ได้รับการบอกเล่าแบบปากต่อปาก ถึงความมหัศจรรย์ของทางรถไฟสายนี้ โดยเฉพาะบริเวณก่อนถึงสถานีแม่กลองที่มีตลาดร่มหุบซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแม่กลอง การลดขบวนรถไฟลงครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ตั้งตารอชมตลาดร่มหุบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผมอยากให้คนสมุทรสาครที่ยังไม่เคยนั่งรถไฟสายนี้ ได้ลองสัมผัสสักครั้งในชีวิต เพราะในอนาคตเมื่อมีทางรถไฟสายใหม่ขึ้นมา หรือหากวันใดที่การรถไฟแห่งประเทศไทยประสบภาวะขาดทุนจนจำเป็นต้องยุบเส้นทาง ซึ่งการเดินรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลองแทบไม่มีรายได้เพราะเป็นรถไฟฟรี ก็มีแนวโน้มที่จะถูกยุบเส้นทางสูง

ถึงตอนนั้นสิ่งที่ยังเหลืออยู่ นอกจากไม้หมอนที่วันใดวันหนึ่งอาจสูญหายหลังจากที่ไม่ได้เดินรถอีกต่อไปแล้ว ก็เหลือเพียงความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเราได้นั่งรถไฟที่เคยรับใช้คนสองสมุทรมานานกว่าร้อยปี ก่อนที่ถนนจะเข้ามาแทนที่.