เด็กแว้นพุทธสาคร

ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558

ถนนสาย ง ผังเมืองรวมกระทุ่มแบน หรือ ถนนพุทธสาคร เชื่อมต่อระหว่างถนนเพชรเกษม และถนนเศรษฐกิจ 1 อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก่อสร้างขยายถนนจาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร แล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนเมษายน 2558 กลายเป็นพื้นที่ประลองความเร็วของบรรดานักแข่งรถจักรยานยนต์ หรือที่เรียกกันว่า เด็กแว้น ในยามค่ำคืน

หลังเวลา 22.00 น. ผู้ที่สัญจรไปมาบนถนนพุทธสาคร จะได้เห็นบรรดาเด็กแว้น ซึ่งมาจากตามชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน และใกล้เคียง รวมตัวกันแล้วอาศัยจังหวะที่สภาพถนนการจราจรคล่องตัว แข่งรถจักรยานยนต์ซิ่งไปตามผิวจราจรที่กว้างขวางถึงฝั่งละ 4 ช่องจราจร สร้างความแตกตื่นแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

ที่ผ่านมา สภ.กระทุ่มแบน ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องนี้ เพราะมีมาตรการต่างๆ ในการควบคุมไม่ให้เกิดเด็กแว้นเข้ามาประลองความเร็วในพื้นที่ เนื่องจากถนนพุทธสาครเป็นเส้นทางสายหลักที่สำคัญ เชื่อมต่อระหว่างถนนพระราม 2 และตัวเมืองสมุทรสาคร กับถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนี หากปล่อยให้มีเด็กแว้นมาใช้พื้นที่อาจเกิดอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมา

ไม่ว่าจะเป็น การตั้งด่านตรวจ โดยส่วนมากมักจะตั้งบริเวณปั้มน้ำมันคาลเท็กซ์ หรือการส่งรถสายตรวจตระเวนตลอดเส้นทาง แต่เนื่องจากกำลังพลมีน้อย ประกอบกับพื้นที่ถนนพุทธสาครกว้างขวาง จึงเป็นการยากที่จะใช้มาตรการจับกุมอย่างจริงจัง เหมือนเช่นที่เคยใช้ยุทธการปิดล้อมถนนราชพฤกษ์ในกรุงเทพฯ ที่สามารถสกัดจับได้บนสะพานต่างระดับ

โดยส่วนมากหากเด็กแว้นพบรถสายตรวจติดไซเรน ก็มักที่จะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตั้งหลักด้วยความเร็วสูงเพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ยิ่งเป็นที่หวาดเสียวแก่ผู้สัญจรไปมา โดยพวกเขารอเวลาที่จะออกมาประลองความเร็วกันต่อในยามที่ลับสายตาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว

ปัจจุบัน ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีถนนสายหลักที่ถูกใช้ประลองความเร็วของบรรดาเด็กแว้นในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นถนนพระราม 2 ถนนเศรษฐกิจ 1 ถนนพุทธสาคร หรือแม้กระทั่งถนนสายรองในหมู่บ้านต่างๆ โดยถนนที่เด็กแว้นนิยมใช้ต้องเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กหรือถนนลาดยาง มีความกว้างและเรียบเพียงพอที่จะใช้แข่งขันกันได้

หากเป็นถนนสายรองในหมู่บ้านจะก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้านที่ช่วงเวลาดังกล่าวต้องพักผ่อนนอนหลับ กลับต้องเจอเสียงรบกวนกับการประลองความเร็วด้วยเสียงดังจากเครื่องยนต์ รวมทั้งควันจากท่อไอเสียรถยนต์ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินหากเกิดอุบัติเหตุ หรือก่ออาชญากรรม เช่น ปล้นทรัพย์ ข่มขืนกระทำชำเรา ฯลฯ

ที่ผ่านมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 โดยระบุว่า พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยับยั้ง พฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สนับสนุนหรือปล่อยปละละเลยให้เยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หากมีการกระทำผิดให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย

นอกจากนี้ยังให้แจ้งการกระทำของเด็กในปกครองให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อป้องกันตักเตือน หรืออาจให้วางประกันตามสมควรแต่ไม่เกิน 2 ปี และหากมีการกระทำผิดซ้ำอีก ให้ผู้ปกครองต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็ก

แม้จะมีการใช้กฎหมายพิเศษเพิ่มโทษการแข่งขันรถจักรยานยนต์บนทางสาธารณะ ไปถึงผู้ปกครอง แต่ดูเหมือนว่าถนนพุทธสาครยังคงมีการมั่วสุมแข่งรถในยามค่ำคืนเช่นเดิม แม้จะน้อยลงกว่าแต่ก่อนก็ตาม สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะหาทางแก้ปัญหาที่ต้นตอให้ได้ เพื่อให้ปัญหาเด็กแว้นในพื้นที่หมดไป.



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง