รถตู้ระหว่างจังหวัด เชื่อมโยงการท่องเที่ยว

ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559

เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสใช้บริการรถตู้จากท่ารถตู้มหาชัย จ.สมุทรสาคร ไปยัง จ.กาญจนบุรี เป็นครั้งแรก หลังจากที่แต่ก่อน เวลาจะไปต่างจังหวัด จะต้องนึกถึงหมอชิต สายใต้ใหม่ หรืออนุสาวรีย์ชัย แต่เนื่องจากไม่ได้มีธุระต้องเข้ากรุงเทพฯ ประกอบกับท่ารถตู้มหาชัยมีเส้นทางเดินรถตู้ไปยังจังหวัดภาคตะวันตกอยู่แล้ว เช่น นครปฐม สมุทรสงคราม ราชบุรี แม้กระทั่งกาญจนบุรี จึงถือโอกาสใช้บริการกันเสียที

ขาไปหากเราซื้อตั๋วเสร็จ นายท่าก็จะโทรศัพท์ไปที่ท่ารถตู้แสงจันทร์ ในปั้มน้ำมันบางจาก ติดกับบิ๊กซี พระราม 2 เพื่อล็อกที่นั่งเอาไว้ หากที่นั่งถูกจองเต็มเราก็ต้องรอคันถัดไป จากนั้นเมื่อรถตู้ออกจากท่าพระราม 2 มาถึงท่ามหาชัย ก็จะมารับผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเอาไว้ตามคิว ใช้เส้นทางไปออกถนนเพชรเกษม ก่อนมุ่งหน้าไปยัง จ.กาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ส่วนขากลับขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกาญจนบุรี ก่อนแวะรับผู้โดยสารที่ท่ามะกา แล้วกลับไปยังสมุทรสาคร

สนนราคาค่าโดยสารจากมหาชัย ไปกาญจนบุรี 130 บาท แม้ราคาจะไม่ต่างกับต้นทางกรุงเทพฯ แต่ก็สะดวกตรงที่เราไม่ต้องไปเสียเวลานั่งรถสองต่อ เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 40-50 บาท อีกประการหนึ่งคือ ขากลับใครที่มีบ้านอยู่ทางมหาชัย คลองครุ บางปิ้ง กิโล 12 กระทุ่มแบน รถตู้จะผ่านถนนเศรษฐกิจ 1 เราสามารถขอลงกลางทางเพื่อกลับเข้าบ้านได้ทันที ไม่ต้องลงกลางทางแล้วต่อรถแท็กซี่หรือรอรถเมล์ โดยสรุปคือ ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับคนสมุทรสาครโดยตรง

รถตู้กาญจนบุรี กลุ่มเป้าหมายหลักๆ น่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่ต้องการสัญจรไปมา ซึ่งกาญจนบุรีมีด่านพรมแดนอยู่ 2 แห่งใหญ่ๆ ได้แก่ ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ นั่งรถตู้จากกาญจนบุรีใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง และด่านพุน้ำร้อนที่เพิ่งเปิดตัวไม่กี่ปีมานี้ เพื่อรองรับท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมทวายในอนาคต ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพียง 70 กิโลเมตร และห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 200 กิโลเมตรเท่านั้น

การจัดระเบียบรถตู้มหาชัยให้ไปจอดที่ถนนสรศักดิ์ ข้างวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาครเพียงจุดเดียว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา แม้ในระยะแรกถูกมองว่ายุ่งยากไปบ้าง แต่รถตู้เส้นทางที่เราไม่คาดคิดว่าจะมีก็มีให้บริการ และเป็นรถตู้ที่ผ่านการจัดระเบียบให้ถูกกฎหมาย ทำให้เป็นที่จดจำและมองว่าเราคงไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมานั่งรถตู้ไปจังหวัดต่างๆ ที่ย้อนเส้นทางผ่านบ้านเรา แม้จะน่าเสียดายที่บางเส้นทาง เช่น ชะอำ หัวหิน ไม่มีให้บริการก็ตาม

โดยส่วนตัวมองว่า เส้นทางรถตู้เหล่านี้สามารถเป็นช่องทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดได้ ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพิ่งจะจัดแคมเปญเส้นทางท่องเที่ยว สมุทรสงคราม + นครปฐม โดยจับคู่สองเมืองที่มีความโดดเด่นในวิถีแห่งสายน้ำ แต่เมื่อดูลักษณะแล้วคิดว่า หากสมุทรสาครจะสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับจังหวัดต่างๆ โดยใช้ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถตู้ รถโดยสารประจำทาง ก็จะสามารถเชื่อมต่อนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสจังหวัดใกล้เคียงได้

เช่น เส้นทางจากสมุทรสาคร ไปนครปฐม สามารถเปลี่ยนเส้นทางต่อรถประจำทางไปวัดไร่ขิง ตลาดน้ำดอนหวาย และเมื่อมาถึงตัวเมืองนครปฐมก็มีองค์พระปฐมเจดีย์ พระราชวังสนามจันทร์, เส้นทางไปราชบุรี ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี แล้วต่อรถประจำทางสายราชบุรี – โรงเรียนสินแร่สยามไป อ.สวนผึ้ง หรือเส้นทางไปกาญจนบุรี มีสะพานข้ามแม่น้ำแคว ทางรถไฟสายมรณะ น้ำตกไทรโยคน้อย สังขละบุรี ด่านเจดีย์สามองค์ หรือเส้นทางอื่นๆ ที่มีรถประจำทางผ่าน

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นทางรถตู้ควรทำไปพร้อมกับการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ โดยเฉพาะมาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัย เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจ และผู้ประกอบการยั่งยืนไปพร้อมกันด้วย



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง