เต้นท์ “บริการประชาชน” พร่ำเพรื่อ
ตีพิมพ์ครั้งแรก หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ฉบับประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2554
ก่อนอื่นต้องขอกล่าวกับคุณผู้อ่านสั้นๆ ว่า สวัสดีปีใหม่ครับ… ขอส่งความปรารถนาดีอำนวยพรให้ผู้อ่าน นสพ.เสียงสาครทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการ
ด้วยความที่มีงานประจำ ไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ กับมหาชัยไม่เว้นวันหยุด วันหยุดปีใหม่ที่ได้รับ 5 วัน จึงไม่มีเวลาเตรียมการที่จะไปเที่ยวที่ไหนไกลแบบยาวๆ ที่สุดแล้วผมมีเวลาไปชาร์จแบตให้ชีวิตที่ต่างจังหวัดเพียงวันเดียว ด้วยการเดินทางไปนับถอยหลังปีใหม่ที่หัวหิน ก่อนจะกลับถึงบ้านในช่วงเช้ามืด
ระหว่างที่ผมเดินทางออกจากมหาชัย พบว่าหน่วยงานต่างๆ มีการตั้งเต้นท์เป็นจุดบริการอยู่ข้างทาง ตั้งแต่เต้นท์ของตำรวจทางหลวง แขวงการทาง เต้นท์ของทางจังหวัด แม้แต่เต้นท์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต.ต่างๆ ซึ่งที่เต้นท์สภาพก็ไม่แตกต่างกัน คือ มีน้ำเย็น มีเครื่องดื่มแบบชง และเจ้าหน้าที่ อปพร.นั่งอยู่ระหว่างที่ผมนั่งรถผ่าน สังเกตเห็นแต่ละเต้นท์ก็ไม่ค่อยจะมีคนมาจอดรถข้างทางสักเท่าไหร่นัก
ในทางตรงกันข้าม ปั้มน้ำมันที่มีทั้งร้านมินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านกาแฟสด บางแห่งยังมีร้านอาหารฟาสฟู้ด และหากเป็นปั้มที่มีชื่อเสียงและมีระดับ ผู้คนก็แห่แหนแวะจอดพักข้างทางกันอย่างหนาแน่น ทั้งแย่งกันเติมน้ำมัน แย่งกันซื้อของ บางครั้งสำหรับคุณสุภาพสตรียังแย่งกันเข้าห้องน้ำก็มี
ความต้องการของนักเดินทาง ไม่ว่าวันหยุดยาวจะผ่านไปกี่ปีก็คือ ต้องการที่พักรถที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีห้องน้ำ มีร้านค้าบริการ ซึ่งจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากปั้มน้ำมัน ส่วนเต้นท์บริการประชาชนริมทางเป็นตัวเลือกอันดับแทบจะรั้งท้าย และอันที่จริงการตั้งเต้นท์เช่นนี้ผิดกฎหมายเหมือนการซื้อของริมทางหลวง
สงสัยเป็นเบื้องต้นว่า การที่หน่วยงานราชการ หรือ อปท. แห่แหนตั้งเต้นท์ โดยให้ชาวบ้าน อปพร.มานั่งเฉยๆ เป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าหรือไม่ มีผลตอบรับแค่ไหน หรือมีน้อยมากแทบจะไม่คุ้มค่าเช่าเต้นท์และค่าไฟ หรือเห็นว่าตำบลอื่นตั้งเต้นท์แล้วก็น่าจะตั้งเต้นท์ตาม ไม่ดูว่าจะมีคนเข้ารับบริการมากน้อยหรือไม่
อันที่จริง ผมสนับสนุนทางจังหวัดที่ตั้งจุดบริการประชาชน บริเวณหน้าปั้ม ปตท. ต.บางกระเจ้าเป็นประจำ รวมทั้งยังมีสถานศึกษาอาชีวะตั้งจุดบริการตรวจสภาพรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ทุกประเภทบริเวณวัดเกตุมวดีศรีวราราม ซึ่งผมเห็นว่าสองหน่วยงานน่าจะบูรณาการให้จุดบริการประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกัน
แต่สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ แต่ละตำบลก็เห็นทุกตำบล สภาพเงียบเหงาไม่แพ้กัน อยากให้พิจารณาโดยประสานความร่วมมือให้จุดบริการประชาชนเป็นจุดเดียวกันจะได้หรือไม่
อีกอย่างหนึ่ง สถิติ 7 วันอันตรายในช่วงปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ถึง 4 มกราคม 2554 สมุทรสาครของเรามีอุบัติเหตุมากถึง 46 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 คน และผู้บาดเจ็บ 48 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3 ครั้ง โดยวันที่มีอุบัติเหตุมากที่สุดคือวันที่ 30 ธันวาคม 2553
ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ คุณจุลภัทร แสงจันทร์ ก็กล่าวเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายหลัก ทางหลวงแผ่นดิน 15 ครั้ง แต่กับถนนสายรอง ถนนตามหมู่บ้านหรือทางหลวงชนบท มากถึง 31 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องอีกอย่างหนึ่งคือ ทางการมัวแต่ให้ความสำคัญกับถนนที่เป็นเส้นทางหลักๆ ซึ่งผู้ขับขี่ที่รู้ว่าช่วงเวลานั้นมีเจ้าหน้าที่กวดขันเป็นพิเศษ รวมทั้งการจราจรหนาแน่น รถทำความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไป
แต่สิ่งหนึ่งที่คุณผู้อ่านมองข้ามไปก็คือ พฤติกรรมเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการฝ่าฝืนกฎจราจร เมาแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ทำให้สถิติก็ยังคงเป็นอยู่แบบนี้
(อ่านคอลัมน์วงเวียนน้ำพุย้อนหลัง และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ www.sakhononline.com คลิกที่ คอลัมนิสต์ออนไลน์ เลือก วงเวียนน้ำพุ)