
ผวจ.สมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ คลองสวยน้ำใสฯ ประจำปี 2562 ของเทศบาลตำบลนาดี เพื่อฟื้นฟูคุณภาพน้ำในคลองสี่วาพาสวัสดิ์ รณรงค์ให้ ปชช. ดูแลรักษาแหล่งน้ำลำคลอง
Continue reading “เทศบาลตำบลนาดี จัดโครงการ “คลองสวยน้ำใส” ปี 2562 คลองสี่วาพาสวัสดิ์”

ผวจ.สมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ คลองสวยน้ำใสฯ ประจำปี 2562 ของเทศบาลตำบลนาดี เพื่อฟื้นฟูคุณภาพน้ำในคลองสี่วาพาสวัสดิ์ รณรงค์ให้ ปชช. ดูแลรักษาแหล่งน้ำลำคลอง
Continue reading “เทศบาลตำบลนาดี จัดโครงการ “คลองสวยน้ำใส” ปี 2562 คลองสี่วาพาสวัสดิ์”

ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำทุกภาคส่วนร่วมกันปลูกป่าชายเลน 500 ต้น พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และเก็บขยะริมชายฝั่งทะเล ที่ ต.บางกระเจ้า
Continue reading “สมุทรสาครร่วมใจปลูกป่าชายเลนและรักษาความสะอาดชายฝั่งทะเลบางกระเจ้า”

จังหวัดสมุทรสาคร จัดพิธีทอดผ้าป่ามหากุศลสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน และมอบเงินพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2562
Continue reading “สมุทรสาคร ทอดผ้าป่ามหากุศลสมทบกองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2562”

หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร จัดงาน “เทศกาลกินกุ้งสมุทรสาคร” ครั้งที่ 2 พบเมนูไฮไลท์จากกุ้ง จานละ 59 บาท จำหน่ายกุ้งสดเป็น ๆ จากฟาร์ม และสินค้าจากโรงงานราคาพิเศษ ระหว่าง 30 ส.ค. ถึง 2 ก.ย. 2562 ที่ตลาดทะเลไทย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่ห้องประชุมตลาดทะเลไทย ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายพิริยะ ฉันทดิลก รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม และนายพยุง ภัทรกุลชัย ตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลกินกุ้งสมุทรสาคร” ครั้งที่ 2 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกหอการค้าฯ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าว




ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมาทางจังหวัดสมุทรสาคร และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดงานเทศกาลกินกุ้งสมุทรสาคร เพื่อแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำจนเกินไป ผลตอบรับจากการจัดงานในครั้งนั้นประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง มีกระแสตอบรับที่ดีและเรียกร้องให้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อตอนว่า “อร่อย สุด…สุด @ สมุทรสาคร” ซึ่งภายในงานจะมีเมนูกุ้งหลากหลายรายการ เมนูละ 59 บาท เท่านั้น อาทิ กุ้งเผา น้ำพริกกุ้งสด กุ้งชาววัง เป็นต้น รวมถึงมีการจำหน่ายกุ้งสดเป็น ๆ จากเกษตรกรฟาร์มกุ้งที่ได้มาตรฐาน GAP
นอกจากนี้ ยังจะได้พบกับสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสมาชิกหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ มารวมตัวกันจำหน่ายโดยตรงต่อผู้บริโภค สินค้าธงฟ้าราคาประหยัด สินค้าโอทอป สินค้าเกษตร กิจกรรมการแข่งขันภายในงานพร้อมรับของรางวัลมากมาย จึงขอเชิญชวนผู้สนใจ และชื่นชอบในอาหารทะเล โดยเฉพาะกุ้ง เข้าร่วมงานเทศกาลกินกุ้งสมุทรสาคร ครั้งที่ 2 นี้
งาน “เทศกาลกินกุ้งสมุทรสาคร ครั้งที่ 2 ตอน อร่อย สุด…สุด @ สมุทรสาคร” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ส.ค. ถึง 2 ก.ย. 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ที่ตลาดทะเลไทย ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร







สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

ศูนย์สุขภาพจิตที่ 5 ราชบุรี จัดโครงการส่งเสริมความรอบรู้และพฤติกรรมสุขภาพจิต สำหรับเครือข่ายสื่อมวลชน จำนวน 60 คน จาก 8 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 5 รวมถึงการบรรยายเรื่องกัญชาในทางการแพทย์

เผยผลการศึกษาโครงการมอเตอร์เวย์ วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ รอบที่ 3 ด้านตะวันตก สร้างทางยกระดับยาวถึงพุทธมณฑล สาย 5 พร้อมชูจุดพักรถลอยฟ้า ห้องสุขาและเครื่องขายสินค้า คาดสำรวจ-ออกแบบทำอีไอเอ 2 ปี เวนคืน 2 ปี ก่อสร้างอีก 4 ปี เปิดให้บริการปี 2570
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ส.ค. 2562 ที่หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพุทธมณฑล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม กรมทางหลวง และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา จัดการประชุมสรุปผลการศึกษาของโครงการ (สัมมนา ครั้งที่ 3) การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก
โดยมี นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน และนายกรีธา เดชพิณ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ผู้แทนกรมทางหลวง กล่าวรายงาน มีผู้แทนส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในพื้นที่บริเวณแนวเส้นทาง จาก จ.สมุทรสาคร และนครปฐม เข้าร่วมประชุม บรรยากาศโดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายกรีธา กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 5 จากการประชุมของโครงการทั้งหมด 5 ครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสรุปผลการศึกษาทั้งหมดของโครงการในทุกประเด็น ทั้งทางด้านวิศวกรรม ด้านการจราจรและขนส่ง ด้านการวิเคราะห์โครงการด้านเศรษฐกิจ ด้านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ผ่านมาให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการได้รับทราบ และเพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะที่มีผลต่อการศึกษาของโครงการในทุก ๆ ด้าน




สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3 ด้านตะวันตก พื้นที่ศึกษาของโครงการครอบคลุมใน 41 ตำบล 12 อำเภอ และ 5 จังหวัด ประกอบด้วยสมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา โดยจุดเริ่มต้นของโครงการอยู่บน ถ.พระราม 2 ประมาณ กม.22+500 แนวเส้นทางจะตัดผ่าน ถ.เพชรเกษม ถ.พุทธมณฑลสาย 5 ถ.บรมราชชนนี ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ถ.พนมทวน-กำแพงแสน ถ.บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ถ.สามโคก-เสนา ถ.ปทุมธานี-บางปะหัน และถนนท้องถิ่น ไปบรรจบกับ ถ.สายเอเชีย ที่ประมาณ กม.13+790 ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดโครงการ
ซึ่งทางหลวงพิเศษได้ยกระดับตลอดในช่วง กม. 0+000 จนถึง กม. 26+500 เพื่อลดผลกระทบชุมชนและเชื่อมโครงข่ายถนนท้องถิ่น มีทางแยกต่างระดับ 9 จุด คือ มหาชัย (จุดเริ่มต้นโครงการ), พุทธสาคร, อ้อมน้อย, ศาลายา, คลองโยง, ไทรน้อย, บางไทร, ทุ่งศรีโพธิ์ และบ้านกรด (จุดสิ้นสุดโครงการ) มีสะพานข้ามแม่น้ำ 3 จุด คือ แม่น้ำน้อย และคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสะพานคานยื่นสมดุล (Balanced Cantilever Bridge) และแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสะพานขึง (Cable Stayed Bridge) ซึ่งสะพานแต่ละแห่งไม่มีเสาตอม่อลงลำน้ำ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงที่พักริมทางอีก 4 จุด





ในส่วนพื้นที่ จ.สมุทรสาคร รูปแบบถนนตั้งแต่จุดเริ่มต้นโครงการ กม.0+000 จนถึง กม. 1+000 เป็นทางยกระดับไม่มีทางบริการ ความกว้าง 50 เมตร, ตั้งแต่ กม. 1+000 ถึง กม. 7+860 เป็นทางยกระดับพร้อมทางบริการด้านซ้ายหรือขวาทาง ความกว้าง 50 เมตร แนวเส้นทางผ่าน ต.นาดี อ.เมืองฯ ต.คลองมะเดื่อ และ ต.แคราย, ตั้งแต่ กม. 7+860 ถึง กม. 9+000 เป็นทางยกระดับไม่มีทางบริการ ซึ่งจะเข้าสู่ทางแยกต่างระดับ ถ.พุทธสาคร ในเขต ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน, ตั้งแต่ กม. 9+000 ถึง กม. 13+900 เป็นทางยกระดับพร้อมทางบริการทางด้านขวาทาง ความกว้าง 50 เมตร ก่อนที่จะเข้าสู่ทางยกระดับบน ถ.พุทธมณฑลสาย 5 เริ่มตั้งแต่ กม. 13+900 เรื่อยไปจนถึงเขต อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนจะมุ่งหน้าไปสู่จุดสิ้นสุดโครงการ กม.98+582 ที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา



นอกจากนี้ ยังมีจุดพักรถ (Rest Stop) ที่บริเวณ กม. 11+500 ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน ห่างจากสำนักงานเทศบาลตำบลสวนหลวงประมาณ 700 เมตร ซึ่งเป็นจุดพักรถที่มีรูปแบบตั้งอยู่บนโครงสร้างยกระดับทั้งสองฝั่ง มีอาคารขนาดเล็กตั้งอยู่กึ่งกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและห้องสุขา รองรับผู้ใช้บริการที่ต้องการจอดพักรถระยะสั้น โดยมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ที่จอดรถรองรับรถยนต์ฝั่งละ 22 คัน และรถบรรทุก 8 คัน
ทั้งนี้ จากการประมาณการของที่ปรึกษาโครงการฯ ในกรณีที่ไม่ติดขัดปัญหาในการดำเนินงาน หลังจากงานศึกษาความเหมาะสมฯ แล้ว จะเป็นขั้นตอนงานสำรวจและออกแบบรายละเอียด และเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาเห็นชอบ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและชดเชยทรัพย์สิน ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี จึงจะเข้าสู่การก่อสร้างและควบคุมงานก่อสร้าง ใช้เวลาอีกประมาณ 4 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2570





สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง

กรมประมง จัดพิธีทำลายของกลางซากสัตว์น้ำที่มาจากการกระทำความผิดและตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 จำนวน 10 รายการ มูลค่าประมาณ 5.5 ล้านบาท ที่ จ.สมุทรสาคร
Continue reading “กรมประมง ทำลายซากสัตว์น้ำของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้ว รวมมูลค่ากว่า 5.5 ล้านบาท”

รองผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ตรวจเยี่ยมพร้อมแนะนำข้อปฏิบัติแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจน้ำสมุทรสาคร กำชับตรวจตราเรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย การกระทำความผิดทางน้ำ การบริการประชาชน และให้ตำรวจน้ำทุกนายเข้าร่วมโครงการจิตอาสาพระราชทานฯ
Continue reading ““รอง ผกก. 4 บก.รน.” ตรวจเยี่ยม-มอบนโยบาย “สถานีตำรวจน้ำสมุทรสาคร””

โชเฟอร์แท็กซี่จุดไฟเผาตัวเองในรถกลางห้างดัง ล่าสุดทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต เพื่อนสนิทร่วมคิวแท็กซี่สุดเศร้า เผย 3 เดือนที่แล้วผู้ตายเคยยกเสื้อคิวให้ 3 ตัว เป็นมรดกชิ้นสุดท้าย อีกทั้งบ่นว่าอยากตายก่อนก่อเหตุสลด
Continue reading “ลุงขับแท็กซี่เผาตัวเองเสียชีวิตแล้ว เพื่อนสนิทเผยถ้ามาทันคงไม่เกิดเหตุแบบนี้”

เกิดเหตุอุปกรณ์ในเรือลากจูงระเบิดจนไฟลุกท่วม บริเวณท่าเรือใกล้วัดช่องลม เจ้าหน้าที่รุดดับเพลิงจนใกล้สงบ แต่ท้ายเรือกลับจมลง เรือเชิดหัวขึ้นก่อนดิ่งลงแม่น้ำท่าจีน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ส.ค. 2562 ร.ต.อ.สุพัฒน์ กิตติพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ย่อยท่าฉลอม รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เรือลากจูง ที่จอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรือใกล้วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลท่าจีน และเทศบาลนครสมุทรสาคร รวม 3 คัน อีกทั้งรถหน่วยเคลื่อนที่เร็วของเทศบาลนครสมุทรสาครอีก 2 คัน เข้าระงับเหตุ
โดยไฟได้ลุกไหม้เรือลากจูงของเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเรียงกันอยู่ 3 ลำ โดยลำที่เกิดเหตุเป็นลำที่จอดอยู่ลำแรกด้านนอกสุดชื่อ พรปิยะ 97 สภาพเรือถูกไฟลุกไหม้จากแรงระเบิดของอุปกรณ์ภายใน จนห้องควบคุมเรือด้านบนเสียหายวอดทั้งหมด กระจกด้านหน้าทั้งแผงหลุดลงมาอยู่บนกอผักตบชวา อีกทั้งตัวเรือยังได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ นอกจากนี้ ยังมีเรือพรปิยะฌาน 11 ที่จอดอยู่ตรงกลาง ได้รับความเสียหาย กระจกแตกจากแรงระเบิดของเรือลำแรกเช่นเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการดับเพลิงนานเกือบ 30 นาที จนเหลือแต่กลุ่มควัน ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันฉีดน้ำเพื่อดับกลุ่มควันไฟอยู่นั้น ปรากฎว่าด้านท้ายของเรือพรปิยะ 97 ค่อย ๆ จมลงจนหัวเรือยกสูงขึ้น ก่อนที่จะจมลงไปอยู่ก้นแม่น้ำท่าจีนทั้งลำ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกับคนประจำเรือรีบหนีตายขึ้นมาได้ทัน ส่วนเรือที่อยู่ติดกันก็ไม่ถูกดึงลงไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายศุภโชติ อินทรสม อายุ 49 ปี ชาว ต.ศาลาลอย อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้ควบคุมเรือ พรปิยะ 97 มีบาดแผลคล้ายกับถูกของแข็งเจาะที่หน้าผากจนแตกเลือดไหลอาบหน้า และแผลจากการถูกไฟไหม้ที่หน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

จากการสอบถาม นายไพรัช เจริญสุข อายุ 32 ปี ผู้ควบคุมเรือ พรปิยะฌาน 11 ที่จอดอยู่ติดกัน เล่าว่า เรือทั้ง 3 ลำเป็นเรือของบริษัท พรปิยะฌาน
โลจิสติกส์ จำกัด โดยมีเรือ พรปิยะฌาน 17 พรปิยะฌาน 11 และ พรปิยะ 97 จอดเรียงกันตามลำดับ ซึ่งเป็นเรือลากจูงของเรือบรรทุกสินค้าประเภทถั่วเหลือง โดยตนนั้นได้นำเรือมาจอดที่ท่าเทียบเรือแห่งนี้นานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว แต่เรือลำที่เกิดเหตุเพิ่งจะมาจอดเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อรอเรือแม่หรือเรือบรรทุกสินค้าขึ้นของเสร็จแล้วก็จะลากเรือเปล่ากลับออกไป
ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้น ตนและคนอื่น ๆ ไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอยู่บนฝั่งแล้วก็ได้ยินเสียงคล้ายกับวัตถุบางอย่างเกิดการระเบิดขึ้นจากห้องควบคุมเรือของเรือลำแรก จากนั้นก็มีไฟลุกไหม้ตามมา ทุกคนจึงได้ช่วยกันใช้น้ำและสารเคมีจากถังดับเพลิงฉีดพ่น พร้อมกับแจ้ง 191 เพื่อประสานขอรถน้ำดับเพลิงเข้าช่วย แต่จากแรงที่วัตถุบางอย่างเกิดการระเบิดนั้น ก็ส่งผลทำให้เรือพรปิยะ 97ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และสุดท้ายก็จมลงไปในแม่น้ำท่าจีนต่อหน้าคนนับร้อยที่มาดูเหตุการณ์

ซึ่งเรือลากจูง พรปิยะ 97 ที่จมลงไปอยู่ก้นแม่น้ำท่าจีนนั้น เป็นเรือลากจูงขนาดใหญ่ ของบริษัท พรปิยะฌาน โลจิสติกส์ จำกัด ใช้งานมาเกือบ 10 ปี มีมูลค่าการสร้างเรือราว 10 ล้านบาท และหากจะกู้ขึ้นมาก็จะต้องใช้เงินหลายแสนบาท เพื่อนำเรือกลับไปซ่อมแซม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ คงต้องรอให้ทางบริษัทเจ้าของเรือมาดำเนินการต่อไป ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่าในส่วนที่ลุกไหม้นั้นอยู่ในส่วนห้องเครื่องของเรือ แต่เมื่อไฟไหม้และเรือจมลงไปเลยยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากอุปกรณ์ใด ต้องรอให้กู้เรือขึ้นมาก่อน และจะได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ