ความจริงอันเจ็บปวด ‘ทัวร์จีน’ ไม่เข้ามหาชัย

เสียงหวูดรถไฟดังกึกก้องไปทั่วสองข้างทาง บนทางรถไฟสายแม่กลอง ขณะออกจากสถานีบ้านแหลมในเวลาบ่ายโมงครึ่ง ด้วยความเร็วอย่างช้าๆ ผ่านชุมชนท่าฉลอมและวัตสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม

ทางรถไฟสายนี้มีอายุประมาณ 114 ปี นับจากที่ บริษัท แม่กลอง ทุนจำกัด ได้รับสัมปทานเดินรถ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2448 ก่อนที่จะขายกิจการให้กับกรมรถไฟ และอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยในที่สุด

แม้บทบาทของรถไฟในยุคนี้จะแตกต่างจากยุคก่อน หลังถนนพระราม 2 เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2516 มีรถโดยสารประจำทาง และมีถนนเข้าหมู่บ้านต่างๆ ความสำคัญของรถไฟสายนี้ก็ลดน้อยถอยลง

สถานีรถไฟช่องลม บ้านบ่อ กาหลง บ้านนาโคก และลาดใหญ่ ถูกยุบไปหมดแล้ว เมื่อประมาณปี 2520 เหลือเพียงแค่สถานีต้นทางบ้านแหลม และปลายทางแม่กลอง ตลอดระยะทาง 33.855 กิโลเมตร

สองข้างทางรถไฟเมื่อออกจากท่าฉลอมไปแล้ว บางพื้นที่ยังคงมีป่ารกร้างหลงเหลืออยู่ สลับกับชุมชน และนาเกลือ ก่อนจะเข้าสู่จังหวัดสมุทรสงครามที่ป้ายหยุดรถเขตเมือง

สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่ง คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่สถานีบ้านแหลมส่วนใหญ่จะเป็นชาวตะวันตก ที่แบกเป้มาเที่ยว จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาบ้างอยู่ประปรายไม่กี่สิบคน

อาจเรียกได้ว่า ที่สถานีบ้านแหลมในช่วงบ่ายวันหยุด นักท่องเที่ยวมีไม่เยอะมาก แม้จะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ทั่วประเทศก็ตาม

แต่ความจริงอันเจ็บปวด ในฐานะคนสมุทรสาครกำลังรออยู่ตรงหน้า

นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่งยืนรอรถไฟบริเวณ ที่หยุดรถบ้านนาขวาง ต.นาโคก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้ถนนพระราม 2 แต่ต้องลงจากสะพานข้ามทางรถไฟ ไม่ได้อยู่ๆ จะเข้ามาง่ายๆ

หนำซ้ำ เมื่อเข้าเขตจังหวัดสมุทรสงคราม กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากยืนรอที่ ป้ายหยุดรถไฟลาดใหญ่ ซึ่งมีถนนลาดยางจากสี่แยกไฟแดงลาดใหญ่ ไปยังถนนพระราม 2 บริเวณตลาดกลางบางแก้วเพียงไม่กี่กิโลเมตร

นักท่องเที่ยวทั้งสองกลุ่ม ล้วนแล้วแต่ถูกไกด์ชาวไทยเป็นคนพามาขึ้นรถไฟทั้งสิ้น ภาพของนักท่องเที่ยวจีนเบียดเสียดกันขึ้นรถบริเวณป้ายหยุดรถไฟแคบๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศรถไฟเพียงช่วงเวลาสั้นๆ

10 นาทีเศษผ่านไป รถไฟกำลังเข้าสู่สถานีแม่กลองอย่างช้าๆ ผ่านทางโค้งเยื้องโรงเรียนอนุบาลสมุทรสงคราม ตรงนั้นเรียกกันติดปากว่า “ตลาดร่มหุบ” คือช่วงที่ทางรถไฟตัดผ่านตลาดเป็นระยะทางราว 300 เมตรสุดท้าย

ที่เรียกกันว่าตลาดร่มหุบ เพราะปกติผู้ค้ามักจะค้าขายกันบนทางรถไฟ เมื่อรถไฟเข้า-ออกสถานี ทุกคนจะพร้อมใจกันหลบไปอยู่ข้างทาง และหุบร่มกันแดดกันฝน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติอยากจะเห็นสักครั้ง

เสียงชาวต่างชาติต่างกู่ร้องคำว่า “เฮลโหล” เสมือนทักทายแขกบ้านแขกเมืองมาเยือนที่นี่ พร้อมกับถือกล้องถ่ายรูป กล้องจากมือถือ บันทึกภาพเมื่อรถไฟเข้าสู่สถานีแม่กลอง เสมือนมาถึงจุดหมายปลายทาง

ภาพของไกด์นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะทัวร์จีนมาขึ้นรถไฟกลางทาง มุมหนึ่งถือว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะไม่ผิดกฎหมาย แต่อีกมุมหนึ่งถือว่าทำลายการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสาครโดยสิ้นเชิง

เพราะตลาดมหาชัย ท่าเรือเทศบาล ท่าฉลอม และสถานีบ้านแหลม ควรจะเป็นทางผ่านในการท่องเที่ยวบนเส้นทางรถไฟสายแม่กลอง แต่กลับตัดตอนด้วยการให้ไปขึ้นรถไฟกลางทาง เน้นใกล้ตลาดร่มหุบมากที่สุด

คนสมุทรสาครต้องสูญเสียรายได้ไปอีกเท่าไหร่ กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไปแบบนี้

ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาครถูกทำร้ายจากนโยบายท่องเที่ยวเมืองรอง นำโดย นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เพราะดันไปตีขลุมโดยวัดความเป็นเมืองรองจากตัวเลขจีพีพี

ทั้งๆ ที่ตัวเลขจีพีพี (หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในจังหวัด) ของสมุทรสาคร เป็นผลมาจากภาคอุตสาหกรรมทั้งนั้น!

เมื่อจังหวัดสมุทรสาครไม่ได้อยู่ในเมืองรอง ย่อมสูญเสียโอกาสจากการท่องเที่ยวที่ควรจะได้รับอย่างมหาศาล ทั้งสิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากนักท่องเที่ยว หรือนิติบุคคลที่จัดสัมมนาต่างๆ

ยิ่งเห็นภาพสถานีรถไฟบ้านแหลม ผู้คนดูหงอยเหงา ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนไปแออัดอยู่ริมรางรถไฟ ที่ลาดใหญ่เมืองแม่กลอง

ก็ยิ่งตอกย้ำว่า การท่องเที่ยวเมืองมหาชัยถูกทำลายลงไปมากแล้ว

– กิตตินันท์ นาคทอง –

One Reply to “ความจริงอันเจ็บปวด ‘ทัวร์จีน’ ไม่เข้ามหาชัย”

  1. เขาต้องการเพียงแค่มีประสพการณ์ร่มหุบเท่านั้น ปล่อยขึ้นลาดใหญ่ แล้วขับรถไปรับต่อแม่กลองใกล่นิดเดียว มหาชัยก็มีร่มหุบแต่ไม่ติดลมบน คงต้องหามุขใหม่มาดึงคนแล้วละ ไม่ใชเมืองรองเมืองเอกอะไรดอก

Leave a Reply to ธันวา เราเจริญ Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *