ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ผู้แทนสมุทรสาคร ทวงสัญญารัฐบาลเพื่อไทยที่ให้ชาวประมงตอนหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะยกเลิก พ.ร.ก.การประมง ปี 58 กางนโยบายรัฐบาลแพทองธาร พบมีคำว่าประมงเพียงคำเดียว ชี้ต้องจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหา
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2567 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวาระคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 พรรคประชาชน ได้อภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา ทวงถามถึงนโยบายประมงของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่ให้ความสำคัญ เพราะคำแถลงนโยบายของรัฐบาลมีคำว่า “ประมง” เพียงแค่คำเดียวเท่านั้น โดยเน้นย้ำถึงความล้มเหลวในการปฏิบัติตามคำสัญญาของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ที่ให้ไว้กับชาวประมงในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่พอเข้ามามีอำนาจสมัยรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กลับทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้
โดยนายณัฐพงษ์ ได้ถามถึงรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำว่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับชาวประมงหมดแล้วหรือยัง โดยย้ำว่าชาวประมงเคยได้รับคำมั่นจากพรรคเพื่อไทยว่าจะยกเลิก พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 ที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร และบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉบับใหม่ที่ร่วมเขียนโดยชาวประมง รวมถึงการเจรจาข้อตกลง IUU ใหม่กับสหภาพยุโรป (EU) และปลดล็อกประมงพื้นบ้านขนาดเล็ก แต่ทำไปทำมารัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับลดเพดานลงเรื่อย ๆ เมื่อเป็นรัฐบาล รวมถึงแสดงความผิดหวังที่รัฐบาลปัจจุบันดูเหมือนจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านประมงเท่าที่ควร เนื่องจากในนโยบายที่รัฐบาลชุดนี้แถลงมีคำว่าประมงปรากฏอยู่เพียงคำเดียวเท่านั้น และตั้งคำถามถึงวิธีการพัฒนาอุตสาหกรรมประมงผ่านเทคโนโลยี ในเมื่อปัญหาที่มีอยู่มากมายยังไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ นายณัฐพงษ์ได้อภิปรายถึงประเด็นอื่น ๆ เช่น การซื้อเรือคืน ความมั่นคงทางอาหาร ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม การแก้ไขกฎหมายประมง การแก้ปัญหาประมงนอกน่านน้ำ โครงการสร้อยไข่มุกอ่าวไทย รวมถึงปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งระบบนิเวศและชาวประมงพื้นบ้าน รวมถึงการติดตามคนผิดมารับโทษ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากแก้ปัญหาปลาหมอคางดำไม่ได้ ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาประมงหรือพัฒนาอาชีพประมงได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาประมงที่ยังค้างคา หากรัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง หรือยังทำในอัตราเร่งเหมือนที่รัฐบาลของอดีตนายกฯ เศรษฐาทำไว้ ที่ทั้งล่าช้าและไม่เข้าเป้า ย่อมจะทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในหลาย ๆ เรื่อง ชาวประมงจะอยู่กันต่อไม่ไหว
นายณัฐพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนอยากเห็นประมงไทยกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง เป็นการทำประมงที่มีการควบคุม แต่ควบคุมอย่างเหมาะสม รวมถึงมีสมดุลระหว่างการประกอบอาชีพและการรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ไขปัญหาประมง และทำให้ประชาชนได้เห็นถึงความจริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหานี้
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ