สมุทรสาคร บุกตรวจค่ายเยาวชนชาติพันธุ์ เปิดสอนโดยไม่ได้รับอนุญาต

รองผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำทีมตรวจค่ายเยาวชนชาติพันธุ์ เปิดสอนเด็กต่างด้าวนับร้อยย่าน ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน สั่งเอาผิดตามกฎหมายฐานกระทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 ต.ค. 2568 ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน นายอาคม ศาณศิลปิน ศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงป้องกันจังหวัดสมุทรสาคร รองนายก อบต.ท่าไม้ ผู้แทนกรมการจัดหางาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ตม.จว.สมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบสถานที่แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ว่าภายในสถานที่ดังกล่าวมีการเปิดเป็นศูนย์รับเด็กต่างชาติจำนวนมากเข้ามาทำการเรียนการสอน

สำหรับสถานที่แห่งนี้ อดีตเคยได้รับอนุญาตให้เปิดเป็นสถานศึกษาของนักเรียนไทย แต่ปัจจุบันได้ปิดการเรียนการสอน และเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้ว จากการเข้าตรวจสอบพบว่าภายในสถานที่ดังกล่าว มีเด็กต่างด้าวจำนวนมาก ราวๆ  800-900 คน กระจายตัวอยู่ตามห้องต่าง ๆ ภายในอาคาร 3 ชั้น และยังพบบุคคลต่างด้าวอีกกว่า 20 คน ทั้งชายและหญิง กำลังทำกิจกรรมสอนหนังสือให้แก่เด็ก ๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอให้บุคคลต่างด้าวทั้งหมดหยุดสอน จากนั้นจึงได้ให้ทั้งหมดมารวมตัวกัน เพื่อทำการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลบุคคลต่างด้าว 

โดยมีคนไทยรายหนึ่ง รับเป็นผู้บริหารจัดการฯ ซึ่งก็ได้ให้การอ้างว่าได้เช่าพื้นที่ดังกล่าวจากเจ้าของที่ดิน เพื่อเปิดเป็นค่ายเยาวชนฯ ให้แก่กลุ่มเยาวชนชาติพันธุ์ โดยก่อนที่จะเปิดรับเด็ก ๆ มาเข้าค่ายนั้น ได้ให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารและยื่นเสนอเพื่อขออนุญาตการใช้อาคารต่อทาง อบต.ท่าไม้แล้ว  จากนั้นจึงรับเด็กต่างด้าวมาเข้าค่ายฯ ไม่ใช่นำมาเพื่อเปิดเป็นการเรียนการสอนในรูปแบบโรงเรียนแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า จากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่าสถานที่แห่งนี้มีการเปิดสอนหนังสือให้แก่ลูกหลานแรงงานข้ามชาตินั้น จึงได้สั่งการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสนธิกำลังกันเข้าตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า สถานที่แห่งนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตจากทางศึกษาธิการจังหวัดให้เปิดสอนหรือรับเด็กแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำการเรียนการสอน หรือจัดกิจกรรมในรูปแบบค่ายฯ แม้อาคารจะผ่านการประเมินความปลอดภัยจากวิศวกรและมีการยื่นขอจากทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎระเบียบแล้ว แต่ก็ต้องยื่นขอใช้อาคารเพื่อเปิดเป็นที่สอนหนังสือหรือเป็นค่ายฯ จากทางศึกษาธิการจังหวัดด้วย ตราบใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตก็จะดำเนินการใด ๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น

ประเด็นต่อมาคือ เรื่องของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและหลักสูตรที่ยังไม่ผ่านการอนุญาต และที่สำคัญคือ บุคลากรผู้สอนหรือผู้ดูแลเด็ก จะต้องได้รับอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องและตรงตามประเภท แต่ทุกคนถือใบอนุญาตทำงานกรรมกร ดังนั้นจึงเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายฐานทำงานไม่ตรงกับประเภทที่ได้รับอนุญาต ส่วนความผิดฐานอื่น ๆ ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร.ต.อ.เขตรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า จังหวัดสมุทรสาครมีนโยบายในการรองรับและส่งเสริมการศึกษาให้แก่ลูกหลานแรงงานข้ามชาติ ภายใต้ระบบการศึกษาภาคบังคับที่เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย โดยเด็กต่างด้าวต้องได้รับการศึกษาในโรงเรียนของรัฐบาลเช่นเดียวกับเด็กไทย ดังนั้นเด็ก ๆ เหล่านี้ ก็จะต้องกลับเข้าสู่สถานศึกษาของรัฐบาลตามที่ได้มีการจัดหาไว้ให้แล้ว โดยหลังจากนี้ในส่วนของเด็กทุกคนจะถูกนำเข้าสู่ระบบการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาล ส่วนทางด้านของผู้ที่ต้องการจะเปิดเป็นโรงเรียนสอนภาษา หรือจะเป็นค่ายอาสาใด ๆ ก็ตาม จะต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน และต้องได้รับใบอนุญาตก่อนเท่านั้นจึงจะดำเนินการได้ ห้ามลักลอบกระทำการโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบก็จะมีความผิดทางกฎหมายทั้งผู้บริหาร เจ้าของสถานที่ ผู้สอน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *