เซ็นทรัลพัฒนาเข้มเปิดศูนย์ฯ ตรวจ ATK พนักงานทุกคน ชูพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน

บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+” พร้อมเปิดศูนย์ 1 ก.ย. สร้างมาตรฐานใหม่ หวังเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน เผยพนักงานทุกคนต้องตรวจ ATK วันแรก และสุ่มตรวจคัดกรองทุกสัปดาห์ จำกัดที่นั่งร้านอาหารตามมาตรการรัฐ พร้อมบิ๊กคลีนนิ่งทุกวัน หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สถานการณ์คลี่คลาย พร้อมฟื้นตัวช่วงปลายปี

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระบุว่า บริษัทฯ ประกาศใช้มาตรการยกระดับเข้มข้นสูงสุด “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+” ยืนยันความพร้อมเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัล 21 สาขาในพื้นที่เข้มงวดสูงสุด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ที่ผ่านมาได้ริเริ่มแผนแม่บทมาตรการความสะอาดมาตั้งแต่เริ่มต้นการระบาด สร้างมาตรฐานใหม่ และไม่เคยหยุดยั้งในการยกระดับมาตรการ ปรับปรุงตามสถานการณ์ เพื่อให้ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน เป็นต้นแบบมาตรการยกระดับเข้มข้นสูงสุดของวงการศูนย์การค้าไทย อีกทั้งยังช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งคู่ค้าผู้เช่า และอาชีพต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการเปิดศูนย์การค้าภายใต้นโยบายที่ภาครัฐควบคุมดูแล จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศให้เดินหน้า และหวังว่าสถานการณ์ในประเทศจะค่อยๆ คลี่คลาย พร้อมฟื้นตัวช่วงปลายปี

“ทั้งนี้จากการประกาศของศบค.เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่อนุญาตให้ธุรกิจในศูนย์การค้าเปิดให้บริการได้เพิ่มเติมได้นั้น เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเปิดให้บริการ และพร้อมปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด ในฐานะผู้นำแผนแม่บทเซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ ใน 5 แกนหลัก 75 มาตรการ เรามุ่งมั่นและต้องการรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันสร้างสังคมที่สะอาด ปลอดภัยด้วยกัน จึงเป็นที่มาของการพัฒนามาตรการ เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+ ที่เข้มข้นขึ้น โดยเน้นที่การดูแลสถานที่และพนักงานให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่ของศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ปลอดภัย COVID-FREE เป็นต้นแบบของการบริหารจัดการมาตรการของศูนย์การค้าไทยต่อไป” ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าว

โดยมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+” สอดคล้องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำเป็นพิเศษในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล รวมไปถึงให้พนักงานให้บริการมีการฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองวันแรก 100% และต่อเนื่องทุกสัปดาห์ กักตัวอย่างเป็นระบบ เว้นระยะห่าง สะอาดปลอดภัยตลอดเวลาทุกวัน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งผู้เช่าร้านค้า และพนักงานภายในศูนย์การค้า ที่พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเต็มที่ รวมถึงการประเมินร้านค้าผ่าน Thai Stop Covid Plus, พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Safe Thai ทุกวัน ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้มาใช้บริการอีกด้วย

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 21 สาขาในพื้นที่เข้มงวดสูงสุด ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เฟสติวัล อิสต์วิลล์, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, ปิ่นเกล้า, พระราม 2, พระราม 3, แกรนด์ พระราม 9, รามอินทรา, บางนา, แจ้งวัฒนะ, เวสต์เกต, รัตนาธิเบศร์, ศาลายา, มหาชัย, เซ็นทรัลวิลเลจ, เซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี, เซ็นทรัล มารีนา, เฟสติวัล พัทยา บีช, เซ็นทรัลพลาซา ระยอง, นครราชสีมา และเฟสติวัล หาดใหญ่ จะเปิดให้บริการธุรกิจตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 11.00–20.00 น. (ซูเปอร์มาร์เก็ต เปิดให้บริการ 08.00 – 20.00 น. ทุกวัน) ยกเว้นบางธุรกิจที่เปิดแบบมีเงื่อนไข ได้แก่ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม Food Court ที่มีเครื่องปรับอากาศให้นั่งรับประทานได้ 50% สำหรับร้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ นั่งรับประทานได้ 75% และงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านอาหาร, ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัด สระ ซอย แต่งผม โดยผ่านการนัดหมาย ให้บริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน, ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดฝ่าเท้า โดยผ่านการนัดหมาย และคลินิกเวชกรรม คลินิกเสริมความงาม (ต้องนัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น)

สำหรับมาตรการที่นำมาใช้ พนักงานร้านค้า และศูนย์การค้าต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม พร้อมแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน พนักงานที่เคยติดโควิดและรักษาหายแล้ว ต้องมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 เดือน ส่วนพนักงานที่ยังรอรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะต้องตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ในครั้งแรกทุกคน และตรวจเป็นระยะต่อเนื่อง ทุกสัปดาห์ โดยวันแรกที่เปิดให้บริการ (1 ก.ย.) พนักงานต้องตรวจ ATK ทุกคน 100% และสุ่มตรวจคัดกรองด้วย ATK หมุนเวียนทุกสัปดาห์ หากมีอาการ พนักงานต้องหยุดทำงาน และไปตรวจ ATK ทันที โดยผลการตรวจ ATK ของพนักงาน ต้องได้รับการรับรองจากบริษัทต้นสังกัด โดยใบรับรองจะมีผลใช้ได้ 3 วัน นับจากวันที่ตรวจ และอุปกรณ์การตรวจ ATK ต้องเป็นแบรนด์ที่ได้รับเครื่องหมาย อย. เท่านั้น นอกจากนี้ ศูนย์การค้า และร้านค้า ต้องลงทะเบียนเพื่อทำการประเมินผ่าน Thai Stop Covid Plus และพนักงานศูนย์ฯ และร้านค้าทุกคน ต้องประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai ทุกวัน พนักงานทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หรือ ใส่หน้ากากอนามัย 1 ชั้น และ Face Shield พนักงานต้องทานข้าวคนเดียวเท่านั้น ห้ามเดินทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ระหว่างอยู่ในศูนย์การค้า

สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการในศูนย์การค้า ทุกคนต้องสแกน “ไทยชนะ” ก่อนเข้าพื้นที่ศูนย์การค้า และร้านค้าทุกครั้ง เน้นย้ำการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งจำกัดจำนวนคนในพื้นที่ 1 ต่อ 5 ตร.ม. ร้านอาหารนั่งได้ 50% ของพื้นที่เพื่อลดความแออัดและ 75% หากไม่มีแอร์ สำหรับศูนย์อาหาร จัดให้มีระบบ Customer counting ในการควบคุมจำนวนลูกค้า 50% ของพื้นที่ ส่งเสริมการจองคิวล่วงหน้า และการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ กำหนดระยะห่างระหว่างบุคคลเมื่อใช้บันไดเลื่อน ไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หรือ 4 ขั้นบันไดเลื่อน ส่วนการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศในศูนย์การค้าตลอดเวลาด้วยแสง UV-C, ควบคุมระบบอากาศหมุนเวียนภายใน 5-6 ACH และล้างไส้กรองแอร์ทุก 2 เดือน ทำความสะอาดทุกจุดสัมผัสทุก 30 นาที ทำความสะอาด Big Cleaning หลังศูนย์ฯ ปิดทุกวัน และ ตรวจสอบคุณภาพน้ำตลอดเวลา โดยควบคุมระดับคลอรีนฆ่าเชื้อในน้ำไม่ต่ำกว่า 0.5 ppm

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *