ในที่สุด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ก็ได้ฤกษ์วันที่ 25 สิงหาคม 2559 เปิดตัวโครงการล่าสุด “ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย” บนถนนพระราม 2 กม. 25 นับเป็นการลั่นกลองรบธุรกิจค้าปลีกในพื้นที่สมุทรสาครให้คึกคักอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้ซื้อที่ดินจากนักธุรกิจประมง “ละมูล ลือสุขประเสริฐ” ประธานกรรมการเครือรักชัยกรุ๊ป จำนวนหลักพันล้านบาท ก่อนที่จะยื่นขอแบบก่อสร้างจากเทศบาลตำบลนาดี ทำให้เป็นที่จับตามองในแวดวงนักค้าที่ดิน ถึงการที่กลุ่มเซ็นทรัลจะเข้ามาลงทุนในพื้นที่

กระทั่งได้รับใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารเลขที่ อ.124/2558 เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ใบอนุญาตมีอายุ 4 ปี ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าและอาคารจอดรถ 5 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ที่จอดรถ 1,608 คัน รวมพื้นที่ใช้สอย 15,951 ตารางเมตร

การเข้ามาอย่างเงียบๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน แน่นอนว่าสังคมจับตามองว่าจะสร้างหรือไม่ กระทั่งสื่อบางฉบับสอบถาม ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา ก็ยังระบุว่าไม่มีแผนใดๆ

อ้างว่า ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นเรื่องธรรมดาของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการพัฒนาที่ดิน ซึ่งอาจจะซื้อเอาไว้ก่อน หากมีผู้สนใจและขายได้ราคาก็อาจจะขายไป หรืออาจถือที่ดินเอาไว้เพื่อรอความเจริญจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ที่ดินเปล่าบริเวณนั้นเริ่มมีชีวิตชีวาเกิดขึ้น เมื่อมีผู้รับเหมาเข้ามาปรับพื้นที่ มีการกั้นรั้วสีขาวที่บ่งบอกให้เห็นถึงอาณาเขตพื้นที่ก่อสร้าง ทำเอาหลายคนถึงกับต้องลุ้นว่า กลุ่มเซ็นทรัลจะมีอะไรมาเซอร์ไพร์สชาวสมุทรสาครหรือไม่

กระทั่งการแถลงโครงการประจำปีของเซ็นทรัลพัฒนา จึงได้เปิดตัวโครงการ “เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย” พร้อมกับ เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา เปิดให้บริการปลายปี 2560, เซ็นทรัล ภูเก็ต เปิดให้บริการปลายปี 2560 และ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ที่ประเทศมาเลเซีย เปิดให้บริการปลายปี 2561

– “มหานาวา” เรือแห่งความสุขของกรุงเทพฯ ตอนใต้

โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ถูกยกให้เป็น The Brand New Lifestyle Destination of Southwest Bangkok มูลค่าโครงการ 4,750 ล้านบาท บนที่ดินเกือบ 100 ไร่ พื้นที่โครงการ 170,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการไตรมาส 4 ในปี 2560

ตัวอาคารได้รับการออกแบบโดยใช้แนวคิด “เรือมหานาวา” (Mahanava) ภายใต้สโลแกน “The Ship of Happiness” โดยที่ทรงของอาคารเป็นทรงคล้ายเรือมหาสมุทรขนาดใหญ่สีน้ำตาล สร้างประสบการณ์ตื่นเต้นที่จะเปลี่ยนพื้นที่แหล่งช้อปในย่านกรุงเทพฯ ตอนใต้

ร้านค้าหลักชั้นนำ ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, พาวเวอร์ บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท ร้านค้าย่อยกว่า 300 ร้านค้า เจาะกลุ่มพื้นที่อุตสาหกรรม บ้านจัดสรรระดับไฮเอนด์มากกว่า 1,500 หลัง และประชากรในพื้นที่โดยรอบกว่า 1.7 ล้านคน

– ดึง “แหล่งกิน – อาหารทะเล – จุดแวะพัก” เข้าศูนย์ – ตั้งเป้า 3 หมื่นคนต่อวัน

ที่นี่จะเป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารที่ครบครันที่สุด บนพื้นที่ใหญ่ขนาด 1 หมื่นตารางเมตร ตอบรับทั้งไลฟ์สไตล์ แฮงเอ้าท์ กิน ดื่ม ชิลล์ ร้านอาหารแนวครอบครัว คาเฟ่ เบเกอรี่ เทคโฮมฟู้ด รวมทั้ง “ตลาดซีฟู้ดสไตล์คนเมือง” รูปแบบใหม่ ด้วยอาหารทะเลสด พร้อมบริการปรุงเมนูโปรดจากเชฟ

นอกจากนี้ เมื่อทำเลศักยภาพบนถนนพระราม 2 ประตูเชื่อมต่อสู่ภาคใต้ จึงได้กำหนดให้เป็นจุดแวะพักการเดินทางที่ดีที่สุด ประกอบด้วย ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารฟาสฟู้ด ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก และไลฟ์สไตล์มาร์เก็ต โดยด้านหน้าจะมีพื้นที่จอดรถ รองรับรถสาธารณะและรถทัวร์ สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านอีกด้วย

ปรีชา เอกคุณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริการ เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย จะถือเป็นสาขาที่ 32 เบื้องต้นจะพัฒนาพื้นที่ 70% สร้างเป็นศูนย์การค้า ที่เหลือวางแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูส เช่น ที่พักอาศัย

“มหาชัยเป็นเมืองที่มีศักยภาพทั้งด้านทำเลและกำลังซื้อ เป็นประตูเชื่อมภาคใต้ มีมูลค่าการลงทุนของจังหวัดมากกว่า 281,000 ล้านบาท ประชากรมีรายได้ประมาณ 359,000 บาทต่อคนต่อปี สูงเป็นอันดับที่ 6 ของไทย คาดว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการประมาณ 30,000 คนต่อวัน”

– ส่ง “โรบินสัน” ยึดหัวหาดเมืองรอง – เจาะกลุ่มตลาดแมส

การเข้ามาของ “เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย” ในพื้นที่สมุทรสาคร แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะกลุ่มเซ็นทรัลเคยเข้ามาลงทุนตั้งแต่เปิดร้านเพาเวอร์บาย ในชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้าน้ำพุ พลาซ่า รวมทั้งเปิดท็อปส์ ซูเปอร์ 2 สาขา ที่ภายหลังรีแบรนด์ดิ้งเป็น “ท็อปส์ ซูเปอร์คุ้ม”

ตามมาด้วยการเปิดห้างค้าวัสดุก่อสร้าง “ไทวัสดุ” บนพื้นที่ 44 ไร่ ริมถนนพระราม 2 กม. 23 ซึ่งได้เปิด “ซูเปอร์คุ้ม ค้าส่ง” จำหน่ายสินค้าเจาะกลุ่มร้านโชวห่วย และธุรกิจขนาดเล็ก รวมทั้งร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท และการตั้งศูนย์กระจายอาหารสดของท็อปส์ ใน ต.บางน้ำจืด

แม่เหล็กหลักที่เซ็นทรัลพัฒนาส่งมาแข่งขันในสมรภูมิค้าปลีก คือ “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน” แผนกดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ที่มีกลยุทธ์เข้าสู่ต่างจังหวัดเป็นหัวเมืองรอง เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับ B+ ลงมา ที่มีสินค้าระดับแมสมากกว่าเซ็นทรัล

เหตุที่ส่งโรบินสันเข้ามา แทนที่จะเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เป็นที่เข้าใจได้ว่า เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งลูกค้าระหว่างเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และเซ็นทรัล พลาซา ศาลายา  ที่มีเซ็นทรัลเป็นแผนกดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

อีกทั้งสาขาของโรบินสันในย่านฝั่งธนบุรีมีเพียงแค่ “โรบินสัน บางแค” เพียงแห่งเดียว หลังการยุบโรบินสัน ลาดหญ้าเมื่อปีก่อน ซึ่งการเปิดสาขามหาชัยของโรบินสันยังสามารถดึงลูกค้าจาก “เดอะมอลล์ บางแค” ที่มีกลุ่มเป้าหมายระดับเดียวกันได้ด้วย

ที่ผ่านมาโรบินสันวางทำเลในพื้นที่ชานเมือง และจังหวัดติดกับกรุงเทพมหานครรอบทิศมากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ สมุทรปราการ และ ฉะเชิงเทรา ในปี 2557 และศรีสมาน จ.นนทบุรี ในปี 2558 ยกเว้น จ.นครปฐม มีห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลให้บริการที่ศาลายา

ส่วนภาคตะวันตก นอกจากห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เมธาวลัย ราชบุรี ที่เปิดให้บริการมานานถึง 20 ปีแล้ว ก็ได้ตั้งโรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ สุพรรณบุรี ในปี 2555 และกาญจนบุรี ในปี 2539 นอกจากนี้ กำลังก่อสร้าง โรบินสัน ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ เพชรบุรี เปิดให้บริการในปี 2560 อีกด้วย

– “ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์” อาวุธลับสู้ “เทสโก้ โลตัส-บิ๊กซี” ห้างยักษ์ค้าปลีก

แม่เหล็กหลักอีกอย่างหนึ่งที่เซ็นทรัลส่งมาประกบติดๆ ก็คือ “ท็อปส์” ซึ่งการมามหาชัยเที่ยวนี้ใช้โมเดล “ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์” ซึ่งใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2557 กับเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา จ.นครปฐม ต่อด้วย เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต บางใหญ่ จ.นนทบุรี รวมเป็น 2 สาขา

รูปแบบของท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ แตกต่างไปจาก “ท็อปส์ มาร์เก็ต” และ “ท็อปส์ ซูเปอร์คุ้ม” ตรงที่สินค้าจะมีมากกว่า 85,000 รายการ ที่นอกจากจะมีของกินของใช้และอาหารสดแล้ว ยังเพิ่มสินค้าหมวดหมู่เสื้อผ้า เครื่องกีฬา เครื่องใช้สำนักงาน และเครื่องใช้ภายในบ้านอีกด้วย

หลังเปิดให้บริการ ท็อปส์จะสามารถขยายบริการ “ท็อปส์ ช้อปออนไลน์” ไปยังพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร และ อ.กระทุ่มแบนมากขึ้น จากปัจจุบันพื้นที่จัดส่งมีเพียงแค่ 10 ตำบลใน อ.กระทุ่มแบน ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการของสาขาเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา

เป็นที่น่าสังเกตว่า การเข้ามาของโมเดล ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ อาจจะเน้นคนละกลุ่มเป้าหมายกับ “ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต” ในศูนย์การค้าพอร์โต้ ชิโน่ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน หรือ “แมกซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต” ในโครงการแลนด์มาร์ค มหาชัย ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

หากแต่เป็น “ห้างค้าปลีก” ที่ยึดหัวหาดและกุมลูกค้าไว้ในมือมาอย่างยาวนาน เฉกเช่น “เทสโก้ โลตัส” นอกจากสาขามหาชัยจะให้บริการมานานกว่า 20 ปีแล้ว ยังได้ก่อสร้างอีกสาขาหนึ่งบนถนนพระราม 2 ก่อนเข้าเมืองมหาชัย รวมทั้ง “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ที่ให้บริการมายาวนานกว่า 7 ปี

การเข้ามาของเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ในปลายปี 2560 นอกจากจะทำให้คนสมุทรสาครต่างตื่นเต้นและรอคอยที่จะก้าวเข้าสู่ความทันสมัยในการช้อปปิ้งแล้ว สงครามค้าปลีกในจังหวัดที่มีกำลังซื้อหลากหลายเช่นนี้ อาจจะแข่งขันกันอย่างคึกคักและรุนแรงอย่างแน่นอน

ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะออกอาวุธเพื่อเข้าสู้ให้นักช้อปได้ลุ้นกันเท่านั้น