“เอเชียกรีน” ร่วมทุนจัดหา-บริการพลังงาน ลุยโลจิสติกส์ หลังเศรษฐกิจโลกกระทบถ่านหิน

พนม ควรสถาพร

“เอเชีย กรีน เอนเนอจี” ขยายลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ ต่อเรือลำเลียงเพิ่มจาก 24 เป็น 40 ลำ และขยายท่าเรือเพิ่มอีกท่าที่อยุธยา รองรับขนส่งสินค้าเกษตร พร้อมตั้งบริษัทร่วมทุน จัดหาและให้บริการด้านพลังงานครบวงจร หลังธุรกิจถ่านหินกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว และนโยบายนำเข้าของจีน

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า นอกเหนือจากธุรกิจการจัดหาและจัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส และให้บริการโลจิสติกส์ที่มีอยู่เดิม บริษัทฯ ยังคงวางกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่า เพิ่มเพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแผนขยายการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ ด้านขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้ามากขึ้น เนื่องจากมองว่า กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังคงมีมาร์จิ้นดี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมบริษัทฯ ในระยะยาว

โดยหลังจากได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จำนวน 342.40 ล้านบาท บริษัทฯ ได้นำไปขยายการลงทุนในการต่อเรือลำเลียงเพิ่มอีก 16 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสั่งต่อเรือ คาดว่าจะทยอยส่งมอบได้ทั้งหมดในปี 2563 ส่งผลให้บริษัทฯ มีจำนวนกองเรือลำเลียง เพิ่มขึ้นเป็น 40 ลำ จากปี 2562 ที่มีเรือลำเลียง 24 ลำ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายท่าเรือเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 3 ท่า จากปัจจุบันให้บริการอยู่ 2 ท่า โดยท่าเรือที่ 3 อยู่ระหว่างพัฒนาพื้นที่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 4/2562 เพื่อรองรับเรือลากจูง ที่เพิ่มขึ้นตามแผนการส่งมอบเรือในช่วงปี 2563 ถือเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจบนพื้นที่ 300 กว่าไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีทั้งลานเก็บกองถ่านหินและท่าเรือ รองรับขยายการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง

“ปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการใช้เรือลำเลียงเพื่อขนส่งสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ปุ๋ย นอกเหนือจากถ่านหิน ดังนั้นการที่บริษัทฯ ขยายช่องทางในธุรกิจดังกล่าวเพิ่ม ยิ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งในศักยภาพความครบวงจรทางธุรกิจของ AGE ได้อย่างชัดเจน” นายพนม กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า “แอท เอนเนอจี โซลูชั่น” โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 45% บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น ถือหุ้น 45% และบริษัท แอพไพลแอ๊นซ์ เทคโนโลยี่ ซัพพลายส์ จำกัด ถือหุ้น 10% ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจจัดหาและให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป อาทิ การผลิต และจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้ถ่านหินหรือเชื้อเพลิงอื่นๆ ในการผลิต

“จากแผนการต่อยอดธุรกิจ จากธุรกิจถ่านหิน สู่ธุรกิจโลจิสติกส์ รวมถึงการแตกไลน์ไปยังธุรกิจการจัดหาและให้บริการด้านพลังงาน เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพธุรกิจ ที่มีการครอบคลุมการให้บริการที่มีความหลากหลาย และมีความครบวงจรทางธุรกิจมากขึ้น” นายพนม กล่าว

นายลิขิต เลาบวรเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้ลงเหลือ 8,000 ล้านบาท จากเดิม 9,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีปริมาณขาย 3.5 ล้านตัน ลดลงจากที่เคยคาดไว้ที่ 4 ล้านตัน ขณะที่ราคาถ่านหินโลกในปีนี้ปรับลดลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง จากการปรับเปลี่ยนนโยบายการนำเข้าถ่านหินของประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการใช้ถ่านหินน่าจะเพิ่มขึ้น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยเฉพาะเวียดนาม และอินเดีย แม้ว่าจะไม่มากเท่ากับการนำเข้าของจีนก็ตาม ช่วงครึ่งปีแรก บริษัทฯ มียอดขายถ่านหินแล้ว 1.4 ล้านตัน ครึ่งปีหลังมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้วราว 1 ล้านตัน รวมถึงพยายามขยายตลาดและเข้าหาลูกค้ามากขึ้นในเวียดนามเพิ่มเติมด้วย โดยปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อรักษาการทำกำไรในระดับที่ดีต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจบริการ หลังจัดตั้งบริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น คาดว่าในปี 2563 จะเติบโตขึ้น 10% จากที่คาดการณ์สัดส่วนรายได้ธุรกิจบริการในปีนี้ราว 6-7%

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *