“เอเชีย กรีนฯ” ชี้ความต้องการถ่านหินเริ่มฟื้นตัว เดินหน้าธุรกิจโลจิสติกส์

บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี เผยผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2563 รายได้กว่า 5.4 พันล้าน ชี้ความต้องการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว กลับมาดำเนินธุรกิจปกติหลังสถานการณ์โควิด-19 พร้อมทำตลาดทั้งใน-ต่างประเทศ ขยายธุรกิจโลจิสติกส์ วางแผนขยายท่าเรือที่ 4 เพิ่มในปีหน้า

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2563 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 5,487.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 5,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 143.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.6%

ส่วนไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 2,019.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 91.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.5% เป็นผลมาจากปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จำนวน 1.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 71.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวมทั้งสิ้นที่ระดับ 2.98 ล้านตัน

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 นั้น ความต้องการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรมในประเทศ เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เนื่องจากการกลับมาดำเนินธุรกิจอย่างปกติ หลังผ่านพ้นช่วงล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯ มีบริการโลจิสติกส์ครบวงจร อีกทั้งถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินมากที่สุดคือ กลุ่มผู้ประกอบการผลิตปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้า กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

ดังนั้นบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจถ่านหิน โดยการมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้วางกลยุทธ์บุกตลาดกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อถ่านหินในมือ (Back log) จำนวน 1 ล้านตัน ซึ่งจะทยอยส่งมอบจนถึง ปี 2564 ส่งผลให้ทั้งปี 2563 บริษัทฯคาดว่าปริมาณยอดขายถ่านหิน จะสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านตัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจโลจิสติกส์ต่อเนื่อง โดยมีแผนการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายท่าเรือที่ 4 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปี 2564

ส่วนการลงทุนธุรกิจพลังงานผ่านบริษัทร่วมทุน ภายใต้บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัดนั้น บริษัทฯ จะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าว ตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ และในปี 2564 จากโครงการการขายไอน้ำ ให้กับลูกค้าขนาดเตาบอยเลอร์ (Boiler) 16 ตัน อีกทั้งยังคงอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการขายไอน้ำ และโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมหลายโครงการ คาดว่าจะลงทุนในปี 2564 และมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่งมีกำไรสะสมสูงถึง 700 ล้านบาท

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *