ปั้นแบรนด์ “พอร์โต้ โก” ชิงไลฟ์สไตล์มอลล์ ประเดิม “บางปะอิน – พระราม 2 กม.41”

“ดี-แลนด์ กรุ๊ป” เผยปั้นแบรนด์ลูก ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ “พอร์โต้ โก” เน้นรวมร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์ดัง ประเดิมที่ถนนสายเอเซีย บางปะอิน ปลายปีนี้ ต่อด้วย ถนนพระราม 2 กม. 41 ปีหน้า เล็ง 5 ปีเปิดให้ได้ 20 แห่ง ส่วนลงทุนอสังหาฯ ขอเน้นโซนศรีราชา, ระยอง และบางบัวทอง-นนทบุรีไปก่อน

นายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า มีนโยบายที่จะขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์มอลล์ ภายใต้แบรนด์ใหม่ คือ “พอร์โต้ โก” (Porto Go) ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของพอร์โต้ ชิโน่ (Porto Chino) โดยแผนการลงทุนของบริษัทในระยะ 5 ปี จะเปิดให้ได้ 20 แห่ง วางเป้าหมายพื้นที่ชานเมืองรอบกรุงเทพฯ ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตร และหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น ชลบุรี และระยอง คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 8,000 ล้านบาท หรือสาขาละประมาณ 400 ล้านบาท โดยรูปแบบของการพัฒนาจะมีทั้งการจัดซื้อที่ดิน และเช่าที่ดินระยะยาว เพื่อเปิดสาขา

ทั้งนี้ พอร์โต้ โก จะเปิดแห่งแรกบนถนนสายเอเซีย ขาออกกรุงเทพฯ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแห่งแรก เป็นการเช่าระยะยาว 30 ปี บนพื้นที่ 30 ไร่ ขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการได้ในปลายเดือนธันวาคม 2560 ก่อนที่จะเปิดพอร์โต้ โก แห่งที่ 2 ที่สาขาถนนพระราม 2 กม. 41 ต.บางโทรัด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20 ไร่ ภายในไตรมาส 2-3 ปี 2561

“เหตุที่ขยายมอลล์เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน แทนที่จะมีแค่สถานีน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งคอนเซ็ปต์ของพอร์โต้ โก จะเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ดี และปลอดภัย เป็นการรวมร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์ดัง มากมายมาไว้ในโครงการ ส่วนแบรนด์พอร์โต้ ชิโน่ คงมีแห่งเดียวที่ จ.สมุทรสาคร โดยเปิดให้บริการมาแล้ว 5 ปี ใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายในระยะเวลา 8 ปี” นายเพิ่มเกียรติ กล่าว

สำหรับแผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเน้นกระจายไปยังพื้นที่โซนศรีราชา, ระยอง และบางบัวทอง-นนทบุรี โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2560 จะเปิดโครงการที่ 3 ในโซนศรีราชา ต่อจากโครงการดีคอมเพล็กซ์ ศรีราชา-นิคมปิ่นทอง 1 ในรูปแบบอาคารพาณิชย์ และโครงการดีทาวน์-สวนเสือศรีราชา โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ส่วนโซนบางบัวทอง-นนทบุรี มีแผนที่จะนำแลนด์แบงก์ย่านบางกรวย-ไทรน้อย และบางบัวทอง 2 แปลงพื้นที่กว่า 70 ไร่ มาปรับรูปแบบการพัฒนาใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 2/2561

นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะแตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างรายได้ประจำ และสร้างความยั่งยืนให้กับบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล อาจจะเป็นธุรกิจประเภทโรงแรม อีกทั้งในปี 2563 ยังมีแผนที่จะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ขณะนี้อยู่ในระหว่างการคัดเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน เนื่องจากมีความมั่นใจว่าในช่วงปี 2563 ภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ส่วนยอดขายในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ 1,200 ล้านบาท และเป้ารายได้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 900 ล้านบาท คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้รายได้จะลดลงประมาณ 10% เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *