“เซ็นทรัลพัฒนา” แย้มผุดคอนโดมิเนียม ลุ้นสมุทรสาครเป็นตัวเลือก

กก.ผจก. ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ บริษัทลูกของเซ็นทรัลพัฒนา เผยยังมีที่ดินในศูนย์การค้าอยู่หลายแห่ง ทั้งที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แย้มหากพร้อมเมื่อไหร่สร้างได้ทันที ยกตัวอย่างสมุทรสาครหนึ่งในนั้น รวมทั้ง หาดใหญ่ และ พิษณุโลก

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ร.อ.กรี เดชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีเอ็น เรสซิเดนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีเอ็น ดำเนินโครงการสร้างคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยภายในพื้นที่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศไทย อาทิ โครงการเอสเซ็นท์ ระยอง ก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว 80-90% คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงสิ้นปีและโอนให้ลูกค้าได้ประมาณเดือน ก.พ. 2561 ตามมาด้วย เอสเซ็นท์ ขอนแก่น และ เอสเซ็นท์ เชียงใหม่ มูลค่ารวมกัน 3 โครงการประมาณ 3,000 ล้านบาท

ล่าสุด ยังได้เปิดตัวโครงการเอสเซ็นท์ วิลล์ เชียงราย สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ประมาณ 320 ยูนิต ซึ่งจะมีการเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พ.ย. หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดขายโครงการเอสเซ็นท์ นครราชสีมา สูง 22 ชั้นและ 17 ชั้น จำนวน 380 ยูนิตมาแล้วเมื่อวันที่ 3 พ.ย. พบว่ายอดจองเต็ม 100% ภายใน 4 วัน นอกจากนี้ ในวันที่ 2 ธ.ค. จะเปิดขายโครงการเอสเซ็นท์ วิลล์ เชียงใหม่ สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 450 ยูนิต ถือเป็นโครงการที่ 2 แล้วเพราะได้รับการตอบรับดีมาก

ทั้งนี้ ในปี 2561 จะขยายเพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ เมื่อรวมกับ 3 โครงการหลังสุดก็จะมีมูลค่าประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือต้องหาเพิ่มอีก 1,500 ล้านบาท โดยกำลังดูพื้นที่อยู่เพราะเซ็นทรัลยังมีที่ดินในศูนย์การค้าอยู่หลายแห่ง ทั้งที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่สามารถสร้างได้อีก 5-6 โครงการ หากที่ใดพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการต่อไป เช่น มหาชัย จ.สมุทรสาคร, อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา, อ.เมือง จ.พิษณุโลก ฯลฯ จากนั้นภายใน 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไปตั้งเป้าจะให้ถึงระดับ 10,000 ล้านบาท

ร.อ.กรี เปิดเผยว่า เซ็นทรัลพัฒนา จะเลือกกลุ่มลูกค้าที่ใช้วิถีชีวิตไลฟ์สไตล์กับศูนย์การค้ามากกว่า เนื่องจาก ปัจจุบันการสร้างคอนโดมิเนียมใหญ่ๆ ตามต่างจังหวัดไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสามารถหาที่ดินและสร้างบ้านแนวราบได้ เมื่อสำรวจพบว่ามีอยู่ 4-5 แบรนด์จากกรุงเทพฯ ไปตั้งเปิดคอนโดมิเนียม อยู่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เมื่อไปสอบถามพบว่าต่างถูกจับจองจนเต็มกันหมดแล้ว

ทั้งนี้ จากประสบการณ์โครงการที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเขต อ.เมือง ราว 25% และอีกกว่า 50% เป็นผู้มาจากต่างอำเภอรอบนอก ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของซีพีเอ็น และอีกเล็กน้อยมาจากจังหวัดใกล้เคียงกัน จากการสำรวจพบเป็นผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว ค้าขายและอื่นๆ โดยใช้ชีวิตเกี่ยวข้องกับศูนย์การค้าทั้งทำงาน รับประทานอาหาร พักผ่อน รับแขก ฯลฯ

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *