พอพล พูลละออ “ผมภูมิใจที่ตาผมได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว”

2931-1

แม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะสวรรคต แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้น ยังความปลื้มปีติแก่ปวงชนชาวไทย เฉกเช่น นายพอพล พูลละออ นักธุรกิจในจังหวัดสมุทรสาคร บอกเล่าเมื่อครั้งที่ตาได้เผ้ารับเสด็จเมื่อปี พ.ศ. 2508

นายพอพล เล่าว่า บิดาของตนชื่อนายอ้วน มารดาชื่อนางสำรวย พูลละออ ปัจจุบันอายุ 89 ปี บุตรสาวคนโตของนายพงษ์ และนางบุญช่วย แก้วแก้มสี ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาและยายของนายพอพล โดยนายพงษ์เป็นชาว จ.นนทบุรี ถูกเกณฑ์ทหารเป็นทหารบก ก่อนจะแต่งงานกับนางบุญช่วย

กระทั่งบุตรสาวของนายพงษ์ และนางบุญช่วย สมรสกับนายอ้วน พูลละออ มีบุตรด้วยกัน 11 คน

นายพอพล หรือ “หมู” เป็นบุตรคนที่ 8 อดีตเคยรับราชการในตำแหน่งนิติกร ที่เทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว และเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ชื่อร้าน “ลุงหมูเมืองทอง”

ส่วนน้องชายชื่อเล่น “หมี” หรือ นาวาตรี อนุพันธ์ พูลละออ อยู่สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

2931-2

“สมัยนั้นคนมีเงินจะต่อเรือตังเก แต่ตาผมกลับเอาเงินเอาที่ดินมาสร้างโรงเรียน ทำให้พวกผมอ่านออกเขียนได้ แม่เล่าให้ฟังว่า คุณตาแกไม่ได้เรียนหนังสือ ตอนไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่กับหม่อมเจ้าตระกูลกฤษดากร แกบอกว่าแกเคยโดนว่า คนเราถ้าไม่รู้หนังสือก็เหมือนควายแก่ คือเจ็บและจำ”

เมื่อนายพงษ์ กับนางบุญช่วย เก็บหอมรอมริบเงินมาได้ ก็เลยตัดสินใจสร้างโรงเรียนที่ชื่อว่า “โรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม” ปัจจุบันตั้งอยูที่หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยยังมอบเงินสมทบกับทางราชการในขณะนั้น 25,000 บาท ปลูกสร้างอาคารเรียนแบบ 4 ห้องเรียน

ต่อมาปี 2514 ทางราชการได้จัดสรรงบประมาณสร้างอาคารเรียน 2 ชั้น รวม 6 ห้องเรียน ค่าก่อสร้าง 240,000 บาท นายหงษ์ และนางบุญช่วย ได้บริจาคที่ดินเพิ่มขึ้นอีก รวมเป็นเนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 45 ตารางวา ก่อนที่ทางราชการจะต่อเติมอาคารเรียนรวมเป็น 12 ห้องเรียน

“ตาผมสร้างโรงเรียนและเปิดเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2502 ผมตอนนั้นอายุแค่ 3 เดือน” เขากล่าวพร้อมหยิบเอกสารสารบัญจดทะเบียนยกที่ดินพร้อมสร้างโรงเรียนในปีดังกล่าว

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ ไปถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดช่องลม จังหวัดสมุทรสาคร

2931-5

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดสุทธิวาตวรารามวรวิหาร (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ สมุทรสาคร เมื่อปี พ.ศ. 2508 นายหงษ์ยังได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเงินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำความปลื้มปีติแก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก

2931-3

อย่างไรก็ตาม แม้นายหงษ์จะเสียชีวิตไปเมื่อปี พ.ศ. 2526 ด้วยอายุ 84 ปี แต่โรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม ยังคงเปิดทำการเรียนการสอน ขยายมาถึงตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) จนถึงปัจจุบันมีนักเรียน 404 คน 17 ห้องเรียน เป็นสิ่งที่ฝากไว้ให้คนรุ่นหลังได้สานต่อ

“ผมภูมิใจที่ตาผมได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว และปลูกฝังให้ผมสำนึกรักพระองค์ท่านและประเทศไทย ตาผมสร้างให้ลูกชาวบ้านโกรกกรากในได้เรียนหนังสือ ผมจบ ป.4 โรงเรียนที่ตาผมสร้าง” นายพอพล กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

2931-4

พอพล กับ อำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

เรื่อง : สุรางค์ นาคทอง
เรียบเรียง : กิตตินันท์ นาคทอง



2 ความคิดเห็น เรื่อง “พอพล พูลละออ “ผมภูมิใจที่ตาผมได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว””

  1. สุวดี กล่าวว่า:

    ต.ค. 24, 16 at 11:30 pm

    พวกเราลูกหลานจะขอเจริญรอยตามความดีของบรรพบุรุษ และพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่9 ตลอดไปค่ะ

  2. natipot thanisornthanasit กล่าวว่า:

    ต.ค. 25, 16 at 1:11 am

    ความปรารถนาของคุณตา พี่หมู จะเป็นแรงผลักดันให้คนรุ่นหลังรู้จักการให้ เสียสละ


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง