ว่าด้วยเรื่องกลยุทธ์เซเล็บ : เขาเป็นใคร? บนไวนิลโฆษณาค่ายมือถือ

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาในสมุทรสาคร เราจะพบกับป้ายไวนิลโฆษณาของค่ายมือถือรายหนึ่ง ติดตั้งตามห้างร้าน และป้ายรถประจำทาง ในย่านที่มีแรงงานชาวเมียนมาอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น

ด้วยรูปแบบข้อความภาษาพม่า พร้อมนายแบบในเสื้อสูทสีฟ้า ทำท่า I Love You ก็พอเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นการโฆษณาโปรโมชั่นค่าโทรราคาพิเศษ

ไซไซ คำเล้ง (Sai Sai Kham Leng) คือชื่อของพรีเซนเตอร์ชายรายนี้

เป็นศิลปินแร็ปเปอร์ นายแบบ และนักแสดงระดับแถวหน้าของเมียนมา ที่อยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 16 ปี

ทั้งยังเป็นหนึ่งในนักแสดง จากภาพยนตร์ร่วมทุนสร้าง ไทย-เมียนมา อย่าง ถึงคน…ไม่คิดถึง (From Bangkok To Mandalay) ที่เข้าฉายเมื่อ พ.ย. ปีกลาย

แม้จะไม่ทำเงินในบ้านเรา แต่กลับมีเสียงตอบรับที่ดีมากจากทางฝั่งบ้านเกิด

หนึ่งในผู้สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่าง ดีแทค ก็ได้โอกาสต่อยอดด้านการตลาดเพิ่มเติม โดยนำ ไซไซ มาร่วมโปรโมต “ดีแทค เมียนมา” ผ่านป้ายโฆษณา และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คช่องทางต่างๆ พร้อมเปิดมินิคอนเสิร์ตที่ห้างเซ็นทรัลพระราม 2 เมื่อปลายปีที่แล้ว

เสริมภาพลักษณ์การตลาดกลุ่มเป้าหมายชาวเมียนมา ที่อาศัยและทำงานอยู่ในประเทศไทยประมาณ 2.3 ล้านคน

ภาพจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ “dtac Myanmar”

โดยเรื่องจุดแข็งการตลาดชาวเมียนมา จากงานวิจัยของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เมื่อปี 2559 เผยว่า ดีแทค เป็นแบรนด์มือถือที่ชาวเมียนมาในประเทศไทยใช้มากที่สุด จากโปรโมชั่นสำหรับชาวเมียนมาโดยเฉพาะ

เช่น โทรฟรีในเครือข่ายในอัตราเหมาจ่าย โทรไปเบอร์ เทเลนอร์ ที่เมียนมาราคาประหยัด ฯลฯ จนเกิดการใช้งานเป็นเน็ตเวิร์คจากการแนะนำปากต่อปาก

อีกทั้งทางฝั่งเมียนมา มีโอเปอเรเตอร์อย่าง “เทเลนอร์ เมียนมา” จากยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสัญชาตินอร์เวย์อย่าง เทเลนอร์ กรุ๊ป ซึ่งดีแทคก็เป็นหนึ่งในนั้น ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเมียนมาเข้ามาลงทุนและให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตั้งแต่ปี 2557

ล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2559 มีจำนวนผู้ใช้งานถึง 18.2 ล้านราย และใช้บริการอินเตอร์เน็ต 64%

นอกจากนี้ยังมีบริการ “Wave Money” โดยร่วมมือกับ โยมาแบงก์ สร้างเครือข่ายร้านค้าราว 4,000 แห่งทั่วเมียนมา บริการฝากและถอนเงินผ่านสมาร์ทโฟนของร้านค้าตัวแทน ซึ่งคนเมียนมาเรียกว่า “เอทีเอ็มมนุษย์” เข้าถึงระบบการเงินได้ง่ายและทั่วถึงกว่าในรูปแบบของธนาคาร

แม้ในปัจจุบัน ชาวเมียนมาในประเทศไทยเป็นลูกค้าของดีแทคอยู่ที่หลักแสนราย แต่ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจโทรคมนาคมในเมียนมาหลังจากเปิดประเทศ

รวมทั้งการแข่งขันระหว่างโอเปอเรเตอร์ทั้งสามค่ายหลักอย่าง เอ็มพีที, ออเรดู และเทเลนอร์ฯ รวมทั้งค่ายน้องใหม่อย่าง มายเทล ที่จะเปิดให้บริการในปีหน้า

จึงมีความเป็นไปได้ว่า กลุ่มเทเลนอร์จะยังคงเข็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพิ่มเติม เพื่อที่จะสามารถรักษาฐานลูกค้าระหว่างสองประเทศไว้

000

ภาพจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ “dtac”

ย้อนกลับมาที่บ้านเรา ดีแทคก็ได้นำเจ้าแม่โฆษณาอย่าง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ขึ้นมาเป็นพรีเซนเตอร์ของค่ายเป็นครั้งแรกกับแคมเปญโฆษณา “ลื่น…จ้ะ”

พร้อมเปิดตัวที่สยามพารากอน เมื่อกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ในคอนเซ็ปต์ “ดีแทค Super 4G ลื่นสุด กว้างสุด” ก็เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร

ลาร์ส นอร์ลิ่ง ซีอีโอของดีแทค กล่าวว่า ดีแทคได้สร้างสีสันที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของดีแทค Super 4G ด้วยการนำซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่าง อั้ม พัชราภา มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดประสบการณ์ Super 4G ที่ลื่นไหล ไม่สะดุด เป็นครั้งแรกบนภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี และตามสื่อดิจิทัลต่างๆ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเปิดเกมรุกสีสันการทำตลาดในปีนี้

เป็นที่น่าสนใจว่า ดีแทคได้นำ Celebrity Marketing หรือ “กลยุทธ์เซเล็บ” ในการสื่อสารการตลาด เพื่อดันแบรนด์ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการใช้พรีเซนเตอร์ชื่อดังเหมือนค่ายอื่นมาก่อน

พร้อมประกาศแผนลงทุน ปี 2560 ในวงเงิน 17,000-20,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาความต่อเนื่องของโครงข่าย และเสริมสร้างประสบการณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของลูกค้า

และในปีที่ผ่านมาได้เร่งลงทุนขยายเครือข่าย และเพิ่มจำนวนสถานีฐาน 4G กว่า 15,000 สถานีฐาน เพิ่มขึ้น 240% เทียบกับปีก่อนหน้านั้น

รวมถึงเพิ่มช่องสัญญาณในอาคารอีก 200 แห่ง จนกล้าประกาศว่าเป็นผู้ให้บริการ 4G ที่ลื่นไหลที่สุดบนคลื่น 1800 MHz ที่กว้างที่สุด (20 MHz)

เพื่อเป้าหมายการเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศไทยภายในปี 2563

แต่เมื่อได้ทราบตัวเลขกำไรสุทธิทั้งปี 2559 อยู่ที่ 2,086 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 65% ต่ำสุดในรอบ 14 ปี

เรื่องส่วนแบ่งทางการตลาด “เอไอเอส” ยังคงเป็นเจ้าตลาด ด้วยมีฐานลูกค้ามากเกินครึ่งของประชากรในประเทศ หรือ 40 ล้านเลขหมาย

ตามมาด้วยดีแทค แม้จะยังคงเป็นเบอร์สอง แต่ตัวเลขผู้ใช้บริการลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 25.3 ล้านเลขหมายในปี 2558 อยู่ที่ 24.5 ล้านเลขหมายในไตรมาสสุดท้าย ปี 2559

เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ทุกค่ายมีการจัดแคมเปญแจกเครื่องเพื่อย้ายลูกค้า และลดราคามือถือกันอย่างดุเดือด อีกทั้งยังต้องปรับปรุงและแก้ไขเรื่องสัญญาณโทรศัพท์

ในขณะที่อันดับสาม “ทรูมูฟ เอช” ฐานลูกค้าเริ่มไล่จ่อขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยข้อได้เปรียบทางการตลาดผ่านร้านสะดวกซื้อ และ ตัวเลขอยู่ที่ 22.6 ล้านเลขหมาย

พร้อมแย่งอันดับสองขึ้นมาแทนค่ายใบพัดสีฟ้าได้ทุกเมื่อ

ภาพจากเฟซบุ๊คแฟนเพจ “dtac”

เมื่อเป็นเช่นนี้ ดีแทคก็ต้องเข็นกลยุทธ์ทางการตลาดออกมาให้มากที่สุด รวมถึงเรื่อง “กลยุทธ์เซเล็บ” ที่เราได้เห็นการใช้พรีเซนเตอร์อย่าง อั้ม พัชราภา และไซไซ สำหรับตลาดแรงงานชาวเมียนมา

เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมือถือในประเทศไทย ที่มีกว่า 87 ล้านเลขหมาย

สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง 



1 ความคิดเห็น เรื่อง “ว่าด้วยเรื่องกลยุทธ์เซเล็บ : เขาเป็นใคร? บนไวนิลโฆษณาค่ายมือถือ”

  1. Report | Sakhon Online » ศึก “พรีเซ็นเตอร์เมียนมา” ในไทย ดารา-ซุปตาร์ไม่พอ แม้แต่ “หมอดู” ก็มี กล่าวว่า:

    ก.พ. 18, 17 at 5:22 pm

    […] […]


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง