ขณะที่การบำบัดร่างกายด้วยวิธีการทำสปากำลังได้รับความนิยมจากวัยทำงาน แต่สำหรับการค้าบริการทางเพศโดยใช้สปาบังหน้า ด้านหนึ่งสร้างความเสียหายให้กับภาพพจน์ของธุรกิจสปา แต่อีกด้านหนึ่งถือเป็นการขายบริการทางเพศรูปแบบใหม่ ซึ่งยากที่จะมีหน่วยงานไหนเข้ามาจัดการ

อันที่จริงการค้าบริการทางเพศในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นที่ทราบกันดีว่ามีหลายรูปแบบ ทั้งการยืนขายบริการทางเพศ ที่สวนสาธารณะหลังศาลหลักเมือง ตั้งแต่หลังสี่ทุ่มถึงเช้าตรู่ หรือจะเป็น “ซอยกิโลหนึ่ง” ข้างโรงพยาบาลมหาชัย ซึ่งมีซ่องโสเภณีติดไฟสีชมพูให้บริการอยู่

สำหรับการให้บริการทางเพศแนวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมในกรุงเทพฯ และกำลังเข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่สมุทรสาคร คือรูปแบบของ “สปาพริตตี้” โดยใช้รูปแบบโฆษณาในลักษณะหญิงสาวหน้าตาดี ที่คัดสรรเพื่อให้บริการสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะ

สาครออนไลน์ได้สำรวจร้านสปารูปแบบดังกล่าวในย่านถนนพระราม 2 พบว่ามีให้บริการหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นย่านท่าข้าม ย่านการเคหะธนบุรี เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ แต่ที่น่าตกใจก็คือ เมื่อเข้าเขตจังหวัดสมุทรสาคร พบว่ามีอยู่หนึ่งร้านที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่นานมานี้

ร้านดังกล่าวเปิดอยู่ภายในอาคารพาณิชย์ ซึ่งย่านดังกล่าวเต็มไปด้วยร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร และร้านอาหาร ลักษณะทั่วไปคล้ายกับร้านสปาหรือร้านเสริมความงามทั่วไป แต่จากคำบอกเล่าของผู้ใช้บริการ เมื่อเข้ามาภายในร้าน จะมีพนักงาน พี.อาร์.พามาแนะนำหญิงสาวให้เลือก

เมื่อได้คนที่ต้องการก็จะพาขึ้นห้องที่ถูกแบ่งออกเป็นห้องย่อย แรกๆ จะนวดตัวธรรมดา โดยคิด 1 ชั่วโมง 700 บาท 1 ชั่วโมงครึ่ง 1,000 บาท แต่สักพักหญิงสาวจะสอบถามถึง “ออพชั่นพิเศษ” ซึ่งความหมายก็คือคอร์สการนวดแบบ “บอดี้ทูบอดี้” หรือ บีทูบี ซึ่งจะคิดชั่วโมงละ 1,500 บาท

ขณะเดียวกัน เรายังได้พบกับเว็บไซต์แนะนำร้าน ซึ่งเป็นช่องทางในการโปรโมตร้านทางหนึ่ง โดยจะลงทั้งภาพบรรยากาศภายในร้าน แนะนำโปรโมชั่น เว็บบอร์ดพูดคุยทั่วไป และ “ห้องส่งการบ้าน” ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกเล่าถึงประสบการณ์ในการใช้บริการอีกด้วย

นอกจากนี้ หากสมัครสมาชิกเว็บบอร์ดดังกล่าว ก็จะสามารถเข้ามาใน “ห้องนางฟ้า” ซึ่งเป็นรูปของหญิงสาวหน้าตาดีที่ให้บริการในร้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจของลูกค้า และผู้สนใจที่จะเข้ามาใช้บริการอีกด้วย โดยมีหญิงสาวที่แนะนำประมาณ 10 กว่าคน

อย่างไรก็ตาม การประกอบธุรกิจแนวนี้โดยส่วนมากยากที่จะเอาผิด เนื่องจากเจ้าของร้านอาจจะปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นแหล่งขายบริการทางเพศ โดยอ้างว่าเป็นความสมัครใจระหว่างลูกค้ากับหญิงสาว ขณะที่เจ้าของร้านไม่มีส่วนรู้เห็น เนื่องจากการให้บริการจะอยู่ในห้องแบบลับ

ขณะเดียวกันเมื่อมีการจำกัดผู้ใช้บริการที่ห้ามอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ก็ไม่สามารถใช้กฎหมายสถานบริการเอาผิดได้เช่นเดียวกัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานหรือผู้ประกอบการ ต่างจากซ่องโสเภณีที่มีเงินเพียงหลักร้อยก็สามารถเข้ามาหาความสุขทางเพศได้แล้ว

กรณีศึกษาจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ออกมาให้นิยามคำว่า “อาบอบนวด” ในช่วงหนึ่งอย่างน่าสนใจ โดยระบุว่า การเปิดสถานบริการอาบอบนวดในประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในส่วนของสถานบริการทั่วไป ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย

แต่ในปัจจุบันธุรกิจอาบอบนวดยังคงเป็นธุรกิจที่เรียกว่า ธุรกิจสีเทา เพราะมักจะมีการค้าประเวณีแอบแฝงอยู่เสมอๆ โดยการขายบริการทางเพศของผู้ให้บริการถือเป็นการตกลงกันเองระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ และถือเป็นความเข้าใจกันว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางสถานบริการ

ปัจจุบันสถานบริการอาบอบนวดเกินกว่า 90% เปิดกิจการอาบอบนวดบังหน้า แต่จริง ๆ แล้ว เป็นสถานบริการที่มีการค้าประเวณีอย่างถูกกฎหมาย สังคมไทยบางส่วนให้การยอมรับ ไม่มีใครคนใดยกเรื่องนี้ขึ้นมาและแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่โสเภณีที่มีอยู่เต็มสวนสาธารณะหลังศาลหลักเมือง หรือซอยกิโลหนึ่งที่เปิดไฟสีชมพูแบบโจ๋งครึ่ม ไม่รวมร้านคาราโอเกะและโรงแรมม่านรูดที่เปิดราวกับร้านสะดวกซื้อ สปาพริตตี้อาจกลายเป็นบริการทางเพศแนวใหม่ที่จะเข้ามาเติมบรรยากาศแห่งคาวโลกีย์ในพื้นที่สมุทรสาคร

เราคงทำได้เพียงแค่สะท้อนปัญหาเพื่อให้ผู้อ่านรู้เท่าทัน ขึ้นอยู่กับว่า คนที่เป็นพ่อเป็นแม่จะสอนลูกสอนหลาน หรือคนที่เป็นภรรยาหรือคู่ครองจะรับมือกับสามีอย่างไรไม่ให้เข้าไปอยู่ในวังวนของอบายเหล่านี้ ในเมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถทำอะไรได้กับธุรกิจสีเทาเหล่านี้.