“สื่อเบาะกระสือ” วาทกรรมสื่อรบสื่อ

ประเด็นร้อนในหมู่สื่อมวลชนคนทำข่าวในบ้านเรา เมื่อมีสื่อต่างถิ่นฉบับหนึ่งซึ่งที่สำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ นำเสนอความเคลื่อนไหวในจังหวัดมีลักษณะ “ตีหัวเข้าบ้าน” มีการโจมตีข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และนักข่าวว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสื่อมวลชนในจังหวัดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้อำนวนการสื่อฉบับดังกล่าว เป็นที่โจษจันถึงการนำเสนอข่าวเพื่อปลุกกระแส และมีการเรียกรับผลประโยชน์ในภายหลัง

สาครออนไลน์สัปดาห์วิจารณ์ฉบับนี้ จับตาถึงวาทะกรรมของคนข่าวในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งนับว่ามีนัยยะที่น่าสนใจ ถึงปฏิกิริยาของคนทำข่าวต่อการออกมาโจมตีอย่างไม่ลืมหูลืมตาของสื่อต่างถิ่นดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะการให้ฉายาของคนข่าวที่นี่ว่าเป็น “สื่อเบาะกระสือ” ที่จงใจยวนล้อชื่อของสื่อสำนักดังกล่าวอย่างน่าขบขัน นอกเหนือไปจากพฤติกรรมที่ผ่านมา ว่ากันว่าแวดวงสื่อมวลชนในจังหวัดกำลังจะ “สั่งสอน” สื่อต่างถิ่นฉบับดังกล่าวในเร็วๆ นี้

• เสียงสาครเปิดประเด็น คล้ายใบปลิวโฆษณาตัวเอง

หนังสือพิมพ์เสียงสาคร ที่มีนายณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส ผู้สื่อข่าวโมเดิร์นไนน์ทีวีและ นสพ.เดลินิวส์เป็นเจ้าของ ในฉบับประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2553 คอลัมน์ “เสียงนกเสียงกา” ของนามปากกาที่ชื่อ “นกสีบานเย็น” เปิดประเด็นสื่อสิ่งพิมพ์เล่มหนึ่ง ยกขบวนออกอาละวาดฟาดฟันโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสีย และโรงงานถ่านหินในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมีการเขียนโจมตีข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น และนักข่าวว่ามีการเรียกเก็บผลประโยชน์กันอย่างสนุก

นกสีบานเย็นตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่ายกย่องในความกล้าที่จะกระชากหน้ากากเหล่าข้าราชการที่ทุจริต นักการเมืองมือสกปรก หรือนักข่าวกาฝาก ของสิ่งพิมพ์เล่มนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่เห็นกล้าที่จะชี้ชัดว่าเป็นใครสักคน เพราะกลัวถูกฟ้อง และเมื่อลองอ่านสิ่งพิมพ์เล่มนี้ดูแล้ว คล้ายกับใบปลิวโฆษณาตัวเองของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ผอ. (ผู้อำนวยการ) และพวกพ้องของสิ่งพิมพ์เล่มนี้

มีการอ้างสรรพคุณของตัวเองในอดีตว่าทำอะไรมาบ้าง โค่นกลุ่มอิทธิพลจนถูกลงขันฆ่า มีค่าหัวสูงนับสิบล้านบาท  มีการตั้งทีมงานไปทั่วประเทศ ประกาศล้างอิทธิพล ส่วย คอรัปชั่น ฮั้วประมูล นักข่าวรีดไถ มาเฟีย ที่สำคัญยังรับจับตามหมายจับ คุ้มกันบุคคลสำคัญ โดยทีมงานมืออาชีพ ที่น่าแปลกใจก็คือ เขาบอกว่าพวกเขาไม่ใช่นักข่าว ไม่ใช่สื่อมวลชน แต่เห็นทำตัวเหมือนนักข่าว

นกสีบานเย็นกล่าวต่อว่า ทุกวงการย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่อย่าเหมาเข่งว่านักข่าวเมืองนี้ชั่วรับส่วยไปซะหมด นักข่าวหลายคนมีอาชีพหลักและมีอุดมการณ์พอที่จะรู้ว่าการเป็นสื่อมวลชนที่ดีต้องยึดถือจรรยาบรรณและจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีต้นสังกัดคอยอบรมสั่งสอนตลอดมา ที่สำคัญนักข่าวเก่าๆ ของเมืองนี้รู้จัก ผอ.ดีว่าเป็นเช่นไร บางคนเคยถูกหลอกใช้งานมาแล้วถีบหัวส่งเมื่อไม่ตอบสนองตามความต้องการ

• ตั้งฉายา “สื่อเบาะกระสือ” ชี้ 4 ประเด็น เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น

สิ่งพิมพ์อีกฉบับหนึ่งที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ หนังสือพิมพ์ชี้ชัดเจาะลึก ที่มีนายมานพ เทียนมณี ผู้สื่อข่าว นสพ.พิมพ์ไทยเป็นเจ้าของ ในฉบับประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2553 มีบทความของนายเมธา จันทร์สอาด ผู้สื่อข่าว นสพ.สยามรัฐ ในหัวข้อ “สื่อเบาะกระสือ” สื่อที่ชอบเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น โดยเห็นว่าตนรู้สึกกล้ำกลืนกับวิธีการหลายอย่างของสื่อสิ่งพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่ชอบอ้างตัวเองว่า กล้าชนกับส่วย ฮั้ว คอรัปชั่น และนักข่าวรีดไถ

นายเมธากล่าวว่า ตนทราบดีว่าสื่อฉบับดังกล่าวมีเจตนาที่ดีต่อสังคม โดยเฉพาะตัวผู้อำนวยการฯ ที่ชอบอ้างสรรพคุณของตัวเองในอดีตว่าเคยทำอะไรมาบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจตรงกัน ตนขอเรียกสื่อฉบับดังกล่าวนี้ว่า “เบาะกระสือ” ซึ่งน่าจะได้ทบทวนตัวเองสักนิด ก่อนที่จะถลำลึกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งล่าสุดได้ยกโขยงกันไปอาละวาดในโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยน้ำเสีย พร้อมโรงงานถ่านหินในพื้นที่เมืองสมุทรสาคร จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งได้อธิบายเอาไว้ 4 ประเด็น

ประเด็นแรก มีข่าวอะไรไม่นำเสนออย่างตรงไปตรงมาและครบถ้วนตามความเป็นจริง แต่มักใช้วิธีบิดเบือน เติมแต่ง รวมถึงใช้ชั้นเชิงในการพาดหัว การใช้ภาษาและถ้อยคำที่ว่าตัวเองทำดีทำถูก รวมถึงการเรียบเรียงเนื้อข่าวที่เจตนาสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้อ่านตลอดเวลา เพียงเพื่อจะหาทางทำลายฝ่ายที่ตนไม่ชอบหรือฝ่ายตรงข้าม หรือรอเรียกรับผลประโยชน์จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ หรือตามโจทย์ที่ตนตั้งไว้ โดยหลายครั้งถึงกับใช้วิธีใส่ร้ายคนอื่น ด้วยวิธีจับแพะชนแกะให้คนเข้าใจผิด

(ภาพข่าวจากเทศบาลนครสมุทรสาคร) สื่อมวลชนในจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากภารกิจในการทำข่าวที่ยากลำบากแล้ว ยังต้องพบกับแรงเสียดทานจากการโจมตีอย่างเหมารวมโดยไม่เลือกหน้าของสื่อมวลชนต่างถิ่นบางฉบับ

ประเด็นที่สอง ใครที่คิดต่างหรือเห็นไม่ตรงกับพวกตนก็จะถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม โดยลืมคิดไปว่าหลายอย่างนั้นมองได้จากหลายมุม ไม่สามารถผูกขาดความถูกต้องไว้ที่ตัวเองอยู่คนเดียว และคนที่คิดต่างหลายคนก็มีเจตนาดีไม่น้อยไปกว่ากัน เพียงแต่เขามีมุมมอง รวมถึงมีแนวทางการแก้ปัญหาต่างไปจากกลุ่มของตนเท่านั้น ซึ่งเขาไม่สมควรโดนทำลาย ใส่ร้าย ป้ายความผิด และรู้สึกว่ามักจะทำตัวเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ และขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์อย่างรุนแรง

ประเด็นที่สาม ชอบสร้างความเกลียดชังและปลุกเร้าอารมณ์รุนแรงของผู้อ่านแบบเกินเลยและไม่จำเป็น จนทำให้ผู้อ่านขาดวิจารณญาณในการทำความเข้าใจและมองปัญหาแบบสุดโต่ง สุดท้ายก็ทำให้คนคลั่งอุดมการณ์ของสื่อเหล่านั้นจนขาดสติ และคับแคบจนไม่เห็นความจริงในมุมอื่น เห็นได้ชัดมาจากแนวทางการนำเสนอข่าว การใช้ภาษา ลักษณะการเขียนแบบใช้อารมณ์พร้อมทัศนคติที่เน้นการยกหางตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งจงใจเลือกพูดความจริงครึ่งเดียว โดยไม่ยอมพูดถึงความชั่วของฝั่งตนเอง

ประเด็นที่สี่ กรณีผู้สื่อข่าวของสำนักที่ตกเป็นข่าวถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมพร้อมยาบ้า 4,000 เม็ด ในรถยนต์ที่ติดสติ๊กเกอร์สำนักดังกล่าวอย่างชัดเจน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่สื่อฉบับดังกล่าวกลับลงข้อความว่าเป็นรถที่แอบอ้างติดสติ๊กเกอร์ ทั้งที่มีบัตรผู้สื่อข่าวสำนักดังกล่าวแขวนอยู่ในรถ

• “บูรพาสาคร” เตือนอย่าเอาสื่อปราบไปกินไปแบบ “โยนหินเพื่อหาหยก”

ล่าสุด กับหนังสือพิมพ์สื่อประชา ที่มีนายธานี รอดเจริญ หรือ ไอซ์ บูรพาสาคร ผู้สื่อข่าวทีวีไทยเป็นเจ้าของ ในสกู๊ฟข่าวภาค 7 ได้ตีพิมพ์รายงานในหัวข้อ “หั่นเรือ ปิดข่าว ใครรับ? นักข่าวท้องถิ่นโวย” ระบุถึงเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด่านศุลกากรแม่กลองเข้าจับกุมและยึดเรือน้ำมันขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำท่าจีนหน้าวัดป่าท่าทราย ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร หลังจากได้รับแจ้งจากสื่อต่างถิ่นฉบับหนึ่ง

รายงานดังกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า หลังมีข่าวการจับกุมมีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า มีการวิ่งเต้นเพื่อจะปิดข่าวดังกล่าว โดยมีการเสนอเงินก้อนหนึ่งเพื่อที่จะปิดข่าวนี้เป็นจำนวนเงิน 6 หลัก และก็มีการโจมตีจากสื่อต่างถิ่นว่า มีข้าราชการบางคนบางหน่วยงาน นักข่าวท้องถิ่นสังกัดสื่อทีวีหลายช่อง รวมถึงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรสาครบางกลุ่มมีส่วนได้เสียรับเงินจำนวนดังกล่าวด้วย โดยมีการนัดเคลียร์และจ่ายเงินจำนวนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มาที่ไปของข่าวนี้เป็นอย่างไร มีการสมรู้ร่วมคิดกับผู้กระทำผิดหรือไม่ มีการรับเงินกันตามคำกล่าวอ้างหรือไม่อย่างไร เชื่อว่ากลุ่มของสื่อมวลชนในท้องถิ่นคงไม่นิ่งดูดาย เพราะสื่อท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรสาครเองมีการรวมตัวกันเป็นชมรม เป็นสมาคมต่างๆ เรื่องมีการโจมตีลักษณะดังกล่าวสร้างความเสื่อมเสียให้กับนักข่าวในจังหวัด เชื่อว่าประธานของกลุ่มสื่อต่างๆ คงต้องเร่งพิสูจน์เพื่อหาความชัดเจนอย่างแน่นอน

เมื่อพลิกไปยังคอลัมน์ ทำดี..ทำดี..ทำดี.. ของนามปากกา “มดคันไฟ” กล่าวโดยสรุปว่า สื่อท้องถิ่นสมุทรสาครออกมาชูธงสู้กับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งทำสิ่งพิมพ์แนวใบปลิวจากต่างถิ่น มาแนวแบบเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ไม่ต้องสาธยายให้เห็นภาพว่าการทำอย่างนี้ เข้าทำนองที่ว่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้เพื่อน คนจริงเขาไม่ทำกัน ไหนยังจะกร้าวกล้า ประกาศศักดาว่าพื้นที่นี้จะร้อนลุกเมื่อกลุ่มพวกตนลงพื้นที่ ปราบคอรัปชั่น ปราบโกงกิน ถ้าทำได้จริงมีแต่คนชื่นชม แต่อย่ามาปราบไปกินไป เอาใบปลิวมาปลุกให้เกิดกระแสเข้าตำราโยนหินเพื่อหาหยก

มดคันไฟกล่าวต่อว่า พฤติกรรมของเจ้าของสื่อฉบับดังกล่าว อ้างว่าตนนั้นบารมีสูงส่ง ชาวบ้านต้องมาขอพึ่ง ซึ่งคำว่าบารมีถือว่าทะลึ่ง และสูงเกินไปกับ ผอ.สื่อสิ่งพิมพ์ฉบับดังกล่าว และอยากให้คิด ถ้ามาอย่างมิตรไม่มีใครว่า แต่มาอวดศักดา กล่าวหาว่าคนอื่นเลว คนนั้นโกง สื่อนี้รับส่วย ถือว่ามั่วมาก และดูพื้นๆ ก็รู้ว่าออกแนวมากอบโกย ต้องร้องบอกให้รู้กันทั่ว ว่าคนชั่วในคราบคนดีมันมาแล้ว คนที่ร้องว่าไม่ใช่สื่อ แต่มือดันถือกล้องต้องระวังจะถูกหลอก



8 ความคิดเห็น เรื่อง ““สื่อเบาะกระสือ” วาทกรรมสื่อรบสื่อ”

  1. คนคำนวนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต กล่าวว่า:

    ม.ค. 05, 11 at 7:06 am

    เพชรก็คือเพชร ตรมก็คือตรม เพชรตกลงไปในตรมหยิบขึ้นมายังไงก็ยังเป็นเพชร ขี้ตรมขึ้นมาอยู่ในพานทองยังไงก็ยังเป็นขี้ตรมวันยังค่ำ ใครทำผิด ทำชั่ว ทำดี ปิดบังได้คนอื่นไม่รู้ แต่ฟ้ารู้ ดินรู้ และตนเองย่อมรู้ จงจำไว้….กรรมลิขิตติดจรวด……คำนี้มีจริงไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้แหละมันตามทัน…

  2. คนคำนวนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต กล่าวว่า:

    ม.ค. 05, 11 at 7:06 am

    เพชรก็คือเพชร ตรมก็คือตรม เพชรตกลงไปในตรมหยิบขึ้นมายังไงก็ยังเป็นเพชร ขี้ตรมขึ้นมาอยู่ในพานทองยังไงก็ยังเป็นขี้ตรมวันยังค่ำ ใครทำผิด ทำชั่ว ทำดี ปิดบังได้คนอื่นไม่รู้ แต่ฟ้ารู้ ดินรู้ และตนเองย่อมรู้ จงจำไว้….กรรมลิขิตติดจรวด……คำนี้มีจริงไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้แหละมันตามทัน…

  3. คนติดดิน กล่าวว่า:

    ก.พ. 19, 11 at 5:10 am

    การทำงานข่าว อย่าทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง คิดว่าที่ทำทุกอย่างนั้นเพื่อประชาชน (ขำ) ของจริง กับของปลอมนั้นมันต่างกันครับท่าน ทำไมต้องสร้างศัตูรกับสื่อด้วยกัน สร้างมิตรภาพที่ดี บวก กับความรัก ความสมัคคี กันเถอะ เหนื่อยจังเลย อ่าน สื่อต่างๆ มีทั้งกระสือ,พวกผีปอบหรือผีเปรต เด็กมันกลัวครับ ถ้าอยากดังๆในที่ควรอยากดังเถอะครับท่านเจ้านาย

  4. 74329 กล่าวว่า:

    ก.ย. 03, 11 at 1:36 am

    555555 พื่นที่ใก้ล เมืองหลวง ยิงแกนนำถ่านหิน เสียชวิต ไม่มีใครช่วย เงียบ เงียบ เสียงสาครทำได้ไหม

  5. ผอ.เบาะแส กล่าวว่า:

    ม.ค. 23, 12 at 5:59 pm

    คนเรานิสัยเหมือนกัน คบกันได้ กินเหมือนกัน ก็เชียร์พวกเดียวกัน เรื่องธรรมดาของสื่อ…. ยุคนี้สังคม ติดต่อกันเร็วขึ้น คนมีการศึกษาเขารู้ได้ด้วยตนเอง ไม่มีใครบงการหรือครอบงำเขาได้ สังคมเปลี่ยนยุคไปแล้ว แต่สื่อหรือคนบางกลุ่มยังตามไม่ทัน ติดตามผลงานได้ใน http://sekson-borsae.blogspot.com

  6. มันสับปะหลังเขมรใครกล้า ลงเบาะแสช่วยทีครับ กล่าวว่า:

    ม.ค. 24, 12 at 7:40 am

    ขณะนี้ จังหวัดสระแก้ว เดือดร้อนเรื่องมันสับปะหลังของเขมรมาก สามารถเอาเข้ามาในไทยได้สบายๆผู้ว่าก็ว่าเป็นไป ตามกฏหมายของ อาเซียนสามารถเอาเข้ามาได้เลย ด่านด้าน อ.คลองหาด ก็เปิดให้รถขนมันสับปะหลัง วิ่งได้แบบสบายๆ ตลอด24ชม. มันสับปะหลังขุดขายก้อไม่ได้ ลานมันสับปะหลังก็กดราคาให้ถูกๆ รอแต่รัฐบาลเปิดรับจำนำมันสับปะหลัง แล้วก็สวมสิทธิ์แทนคนในสระแก้ว ท่าน ผอ.เสกสรร จัดการให้ได้ไหมล่ะครับ เห็นแต่หน่วยงานไหนๆในสระแก้ว ก็ฮ่วยๆทั้งนั้น ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ก็มีแต่จ้องจะเอาผิดชาวบ้าน ปิดถนนประท้วงอะไรก็แล้ว ท่านส.สตรีนุช เทียนทองรับเรื่อง ว่าจะเสนอกระทรวง จะเสนอทำไมไม่ทราบ ในเมื่อมีแต่มันสับปะหลังของเขมรทั้งนั้นที่มีสิทธิ์ขายได้ตอนนี้

  7. มันสับปะหลังเขมรใครกล้า ลงเบาะแสช่วยทีครับ กล่าวว่า:

    ม.ค. 24, 12 at 7:48 am

    ในเขต จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี เขตอำเภอต่างๆที่ติดชายแดนเขมร มีแต่รถขนมันสับปะหลังจากเขมร วิ่งขนเข้ามาขายได้ทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านไม่สามารถนำ มันสับปะหลังมาขายได้เลย รอโควต้ารัดทะบาน คงมีแต่มันเขมรถึงได้สิทธิ์ขาย พ่อค้าแม่ค้าลานมันต่างๆโรงงานแป้ง ต่างก็ว่ายอดมันสับปะหลังเกินแล้ว ทั้งๆที่ชาวบ้านยังได้ขุดมันสับปะหลังเลย แล้วมันมาจากไหนไม่ทราบ เต็มเร็วจัง ทหาร ตำรวจ ต่างๆที่อยู่ชายแดน ก็ได้ แต่อำนวยความสะดวกให้รถที่ขนมันสับปะหลังมาจากเขมร ให้วิ่งผ่านมาได้แบบสบายๆมาก ถ้าท่าน ผอ.เสกสรร ศักดิ์สิทธิ์จริงมีตัวตนจริงช่วยพิจารณาเรื่องนี้ทีครับ ท่านผู้ว่าสระแก้ว นายอำเภอ ฆ่าราดชะกาน ต่างๆในจังหวัดหวังร้องเรียนอะไรไม่ได้ ส่งเรื่องไป เราก็กลายเป็นคนที่ผิดตลอดครับ

  8. otto กล่าวว่า:

    มี.ค. 21, 12 at 4:32 pm

    ถามจริงเถอะครับสื่อในพื้นที่ตัวเอง ยังไม่ทราบปัญหาภายในจังหวัดตัวเองจนต้องให้สื่อต่างถิ่นมาเหยียบจมูกถึงที่ จะทำสื่อไปเผื่ออะไร หรือมีกล้องให้รู้ว่าข้าเป็นสื่อแต่ไม่ทำหน้าที่รักษาบ้านเมืองตัวเองจะมาเป็นสื่อทำไมถ้ากลัวตายหรือเงินปิดตาไว้อย่ามาทำดีกว่า ผมคนในพื้นที่ประชาชนธรรมดายังรู้ สื่อมีข้อมูลมากกว่าผมทำไมไม่ตีพิมพ์เช่นตู้ม้า เฮียเหลียง สื่อพื้นที่ไม่รู้เหรอมีในภาค7เป็นกี่พันตู้ ธุระกิจที่โสมมทั้งนั้น คุณเป็นสื่อในพื้นที่ถ้าไม่รู้ใครจะรู้ สื่อเนี่ยตาเป็นสัปรดอยากได้ข่าวมีเหรอจะอยู่เฉยแต่ที่เฉยมันมีอะไรตอบหน่อยเข้ามาอ่านแล้วหงุดหงิดจริง พื้นที่ตัวเองยังไม่ดูแลจนให้สื่อต่างถิ่นเหยียบจมูกพอเขามาก็ด่าเขา ตัวเองทำอะไรในพื้นที่อยู่ถือกล้องถ่ายวิวเหรออย่ามาเป็นเลย กล้าคิดกล้าทำสังคมจะดีขึ้น ผู้มีอิทธิพลเจ้าหน้าที่ของรัฐกลัวสื่อทั้งนั้น เพราะกลัวความจริงถูกตีแผ่ แต่ที่สื่อไม่ทำหน้าที่ตีแผ่พวกเลวๆพวกนี้ มันจะกลัวมั๊ยถามหน่อย ผมยกตัวอย่างตู้ม้าเนี่ยแหละเห็นๆช่วยทำให้ดูหน่อยซิแน่จริงกล้าตีแผ่ป่าว หรือกลัวตายก็เสียชาติเกิดที่อยากเป็นสื่อ คุณว่าคนอื่นเขามีนอกมีในคุณก็ไม่ต่างจากคนอื่นหลอก สิ่งผมกล่าวมาในพื้นที่ถ้าคุณไม่รู้ก็ไปตายเถิด


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง