อึ้งต่างด้าวปล้นฆ่า-สร้างปัญหาคนไทย

566-1

ปัญหาแรงงานต่างด้าวในสมุทรสาคร ยังคงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งปัญหาอาชญากรรม ชิงทรัพย์ โจรกรรม แม้กระทั่งการแย่งอาชีพของคนไทย อีกด้านหนึ่งปัญหาการค้ามนุษย์ยังแก้ไม่ตก เนื่องจากสหรัฐฯ เฝ้าจับตามองการจัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงจังหวัด อาจเข่าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ควบคุมตัวนายต้น อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า หลังก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นายสวัสดิ์ สุขสวัสดิ์ เจ้าของร้านขายของชำวัย 57 ปี ใต้สะพานลอยถนนเศรษฐกิจ 1 หน้าบริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

โดยสามารถจับกุมได้ที่หอพักซึ่งอยู่ใกล้เคียง ก่อนแผนประกอบคำรับสารภาพ จากการสอบปากคำทราบว่า นายต้นได้เข้ารื้อค้นในร้านเพื่อหาสิ่งของมีค่ากลางดึกกับพวก ได้สิ่งของจำนวนหนึ่งพร้อมด้วยโทรศัพท์ของผู้ตาย บุหรี่กรองทิพย์จำนวน 4 ซอง ซึ่งมีร่องรอยเปื้อนเลือด โดยมีนายน้อง อายุ 29 ปี สัญชาติพม่า เพื่อร่วมห้องพักช่วยรุมทำร้ายร่างกายนายสวัสดิ์จนถึงแก่ความตาย

สาเหตุเริ่มต้นแค่ต้องการขโมยสูบบุหรี่มาสูบ เพราะเงินน้อยมีไม่พอ แต่เจ้าของร้านตื่นมาเห็นพอดี เหตุที่ช่วยกันลงมือตีเพื่อฆ่าปิดปาก เนื่องจากผู้ตายมีเสียงโวยวาย ก่อนจะฉกเอาทรัพย์สินแล้วกลับไปนอนยังบ้านพัก แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด

ในเวลาไล่เลี่ยกัน พล.ต.ต.จีรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบก.สมุทรสาคร ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องสัญชาติพม่า ตั้งแก๊งลักรถจักรยายนต์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 4 คัน หลังรวมพรรคพวกรวม 4 คน ใช้รถยนต์สามล้อล้อพ่วงออกตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์

ประกอบด้วย นายโจ อายุ 29 ปี, นายเมาเมา อายุ 24 ปี, นายลูเร อายุ 24 ปี และนายตู อายุ 26 ปี สัญชาติพม่า ขโมยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ หมายเลขทะเบียน 1146 สมุทรสาคร, จักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน กรข 780 สมุทรสาคร, จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน 1 กข.8159 สมุทรสาคร และจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิ๊ก หมายเลขทะเบียน 8-2956 สมุทรสาคร ซึ่งดัดแปลงเป็นสามล้อใช้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.จีรพัฒน์ เปิดเผยว่า ทั้ง 4 คน มีพฤติกรรมออกขโมยรถในพื้นที่ ต.ท่าทราย และใกล้เคียง ซึ่งคันล่าสุดได้โจรกรรมจากท้องที่ สภ.บางโทรัด อ.เมืองฯ ต่างตำบล โดยมีเจ้าทุกข์จำรถของตนเองได้ จึงชี้แจ้งจับดำเนินคดี

สอดคล้องกับ นายสุวรรณ์ ดวงตา จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร ออกกวดขันตรวจจับแรงงานพม่า หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านและจากผู้ประกอบการค้าขาย ว่า มีแรงงานต่างด้าวในปัจจุบันมาแย่งอาชีพคนไทยและในแหล่งจำหน่ายอาหาร บริเวณตลาดทะเลไทย และตลาดกุ้ง ริมถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นแหล่งที่มีแรงงานข้ามชาติชาวพม่า เข้าพักอาศัยอยู่หลายพันคน

“จากการตรวจสอบถึงพฤติกรรมการทำงานของแรงงานต่างด้าว ตามที่เรื่องร้องเรียน ปรากฏว่า มีแรงงานสัญชาติพม่า ได้ออกมาวางแผงประกอบอาชีพค้าขายของสด จำนวนมากจึงส่งจับกุมดำเนินคดีและให้มาเปลี่ยนแปลงแจ้งสถานะให้ตรงกับบัตรที่ขอไว้ ในฐานะแรงงานกรรมกรในตำแหน่งแปรรูปอาหาร แต่แอบลักลอบทำงานอย่างอื่น ซึ่งเบื้องต้นพบ 52 คน แต่ใบขออนุญาตทำไม่ตรงกัน จึงเรียกทั้งนายจ้างและแรงงานมาจัดการแก้ไขใหม่ให้ตรงวัตถุประสงค์ มิฉะนั้นจะถูกส่งกลับประเทศอย่างเคร่งครัด”

ในส่วนการตรวจสอบดำเนินการผู้กระทำผิดแย่งอาชีพค้าขายแย่งผู้ประกอบการคนไทยนั้น หากประชาชนพบเห็นต่างด้าวแย่งอาชีคนไทยสามารถแจ้งเข้ามาได้ เพราะนอกจากแรงงาน 3 สัญชาติ สามารถทำงานได้แค่ตำแหน่งกรรมกรโรงงานและแม่บ้านเท่านั้น ซึ่งอุปสรรคในการตรวจสอบคือช่วงเวลากลางคืนทำงานได้อย่างลำบาก โดยฐานความผิดยึดตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ซึ่งระบุกฎบังคับว่า คนต่างด้าวไม่สามารถประกอบอาชีพค้าขายได้ เป็นอาชีพต้องห้ามตามเงื่อนไขระเบียบการทำงานคนต่างด้าว ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาด้านความมั่นคง

จึงฝากแจ้งเตือนว่า หากพบเห็นแรงงานต่างด้าวกระทำผิดและแย่งอาชีพคนไทย แจ้งเบาะแสมาได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร โทร. 0-3442-2524, 0-3481-0759 ถึง 61

ส่วนสถานการณ์ปัญหาแรงงานต่างด้าว สหรัฐอเมริกายังปิดกั้นเมืองไทยไม่เลิก หลังอ้างว่าไม่ไว้ใจสมาคมประมงสมุทรสาคร ที่ร่วมดูแลแรงงาน ทำให้กรมการจัดหางาน ได้กำหนดให้มีศูนย์ประสานแรงงานประมงจังหวัด โดยมีสมาคมประมงสมุทรสาคร ร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของประสานแรงงานด้านทำการประมง 7 จังหวัดที่เกี่ยวข้อง ในนามศูนย์ประสานงานด้านแรงงานประมง ที่อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนแรงงาน 3 สัญชาติ (พม่า ลาว กัมพูชา) เข้าระบบถูกต้อง ประกอบกับเป็นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในด้านของแรงงานประมงโดยทำการจัดตั้งศูนย์ที่สมาคมประมง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานจากสมาคมประมงสมุทรสาคร ว่า ทางเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้แสดงท่าทีอ้างข้อกังวลกรณีที่ตั้งศูนย์ประสานแรงงานจังหวัด นั้น หากจัดตั้งที่สถานที่ของสมาคมประมงสมุทรสาคร อาจมีผลกระทบทำให้ประเทศไทยไม่สามารถหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาการค้ามนุษย์จากทางประเทศสหรัฐอเมริกา หรือไม่สามารถแก้ปัญหา Tier 2 Watch List ได้

เนื่องจากมีข้อกังวลในประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้มีมติให้บทบาทแยกระหว่างภาครัฐ กับเอกชนให้ชัดเจน โดยกำหนดให้ศูนย์ประสานแรงงานประมงของทั้ง 7 จังหวัด ให้พิจารณาสถานที่จัดตั้งใหม่ ซึ่งในส่วนของสมุทรสาคร ต้องโยกกลับมาอยู่ที่จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร

นายจ้างหากต้องการมาขึ้นทะเบียนแรงงานสำหรับภาคประมง กำหนดให้มาติดต่อที่สำนักงานจัดหางาน พร้อมกันนี้ยังมีนโยบายจะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการให้บริการจดทะเบียนแรงงานถึงที่ประกอบการ อย่างไรก็ตามหากมีผู้รายใดแจ้งความต้องการเข้ามาแจ้งกับทางจัดหางานจังหวัดได้ต่อไป

• มานพ พฤฒิวโรดม •



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง