ภาพที่พบเห็นไม่ใช่ปาร์ตี้โฟมที่เป็นกิจกรรมคลายร้อนยอดฮิต แต่นั่นคือสภาพน้ำในคลองภาษีเจริญ บริเวณสถานีสูบน้ำประตูน้ำกระทุ่มแบน ที่เกิดจากน้ำที่มีสภาพเน่าเสีย และมีสารเคมีจำนวนมากถูกสูบขึ้นจนกลายเป็นฟองจำนวนมากลอยอยู่บนผิวน้ำ

จากภาพที่ถูกส่งต่อทางอินเตอร์เน็ต “สาครออนไลน์” ได้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ที่สถานีสูบน้ำประตูน้ำกระทุ่มแบน คลองภาษีเจริญ ตั้งอยู่ด้านหลังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาภาษีเจริญ ถนนสุคนธวิท ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

เมื่อมาถึงที่นั่น เราก็ได้พบกับกลิ่นน้ำเน่าโชยแตะจมูกเข้ามา และเมื่อเดินมาที่ริมคลองภาษีเจริญ ภาพที่ตาเห็นไม่ต่างจากภาพที่ถูกแชร์ในอินเตอร์เน็ต คือ น้ำในคลองภาษีเจริญ ที่จะไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนนั้น เกิดฟองลอยน้ำคล้ายฟองสบู่จำนวนมาก

ที่สำคัญยังมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง ถึงขนาดที่ว่าออกมาจากพื้นที่แล้วยังมีอาการวิงเวียนศรีษะแบบข้ามวันข้ามคืน

เมื่อเข้าไปดูบริเวณเหนือสถานีสูบน้ำพบว่า คลองภาษีเจริญในวันนี้มีสภาพเน่าสนิท น้ำมีสีดำ มีกลิ่นเน่าเหม็น และมีคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ เปรียบเหมือนเวลาที่เรานำผงซักฟอกไปผสมกับน้ำแล้วตีให้เกิดฟอง เพียงแต่น้ำในคลองนี้มีกลิ่นเหม็นรุนแรง ไม่ได้มีกลิ่นหอมเท่านั้น

ชาวบ้านซึ่งอยู่อาศัยทางด้านทิศตะวันตกของประตูระบายน้ำ เปิดเผยกับ “สาครออนไลน์” ว่า สภาพที่เกิดขึ้นเป็นมานานหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาร้องเรียนไปทางจังหวัด ก็แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นเพียงแค่สัปดาห์เดียว จากนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

เขากล่าวว่า สภาพน้ำเสียในคลองภาษีเจริญ เกิดขึ้นตรงจุดนี้ ไปถึงพื้นที่ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน เท่านั้น ส่วนช่วงเขตกรุงเทพมหานครนั้นได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เก็บตัวอย่างน้ำบริเวณปากคลองสาขาของคลองภาษีเจริญ ในเขต อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ระยะทาง 26 กิโลเมตร จำนวน 10 จุด

พบว่า น้ำในคลองภาษีเจริญมีสีดำ มีคราบน้ำมัน และกลิ่นเหม็นมาก โดยค่าออกซิเจนละลายน้ำต่ำ มีค่าอยู่ในช่วง 0.09 – 2.25 มิลลิกรัมต่อลิตร ต่ำสุดอยู่บริเวณปากคลองแครายใหม่ และค่าสูงสุดอยู่บริเวณปากคลองสี่วาตากล่อม

ขณะที่ค่าพีเอช แสดงความเป็นกรดหรือเบสของน้ำ พบว่ามีค่าพีเอชตั้งแต่ 6.70 – 7.50 ส่วนค่าบีโอดี หรือสารจุลินทรีย์ มีค่าอยู่ในช่วง 2.8 ถึง 14.5 ต่ำสุดอยู่บริเวณปากคลองสี่วาตากล่อม และค่าสูงสุดอยู่บริเวณปากคลองกระทุ่มแบน

นอกจากนี้ ยังพบค่าทองแดงเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด คือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.10 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งพบว่าปากคลองแนวลิขิตมีค่าทองแดงมากที่สุด คือ 0.516 มิลลิกรัมต่อลิตร รองลงมาคือประตูระบายน้ำคลองภาษีเจริญ และปากคลองแครายใหม่

ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรสาคร และ อ.กระทุ่มแบน พบคลองที่มีสภาพเน่าเสียจำนวนมาก ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานพยายามที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้ ทั้งการรณรงค์ไม่ทำน้ำเสีย รวมทั้งโครงการเมกะโปรเจ็กต์อย่างโรงบำบัดน้ำเสียซึ่งจะเกิดขึ้นที่อ้อมน้อยในอนาคตอันใกล้

แต่ถึงกระนั้น ยังคงต้องอาศัยความร่วมมือ และจิตสำนึกของประชาชน โดยเฉพาะสถานประกอบการ เพราะทุกวันนี้เรายังไม่เห็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่จะแสดงความรับผิดชอบในการปล่อยน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีและโลหะหนัก ซึ่งมากเกินกว่าที่แต่ละครัวเรือนจะปล่อยออกมา

จึงยังไม่รู้ว่า อนาคตของคลองภาษีเจริญ ในยามที่ถูกปนเปื้อนจะไปทางไหน?