การแข่งขันในธุรกิจส่งพัสดุยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของธุรกิจอี-คอมเมิร์ช ที่มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แทนการเดินเลือกซื้อที่หน้าร้าน ตามยุคสมัยแห่งการช้อปปิ้งที่เปลี่ยนไป
โดยมีผู้ให้บริการ 2 เจ้าหลักที่กำลังขับเคี่ยวอยู่ในตลาด ได้แก่ “ไปรษณีย์ไทย” กับ “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส”
เริ่มจาก ไปรษณีย์ไทย ก่อนหน้านี้ได้ปรับตัวมาตั้งแต่ปี 2560 โดยขยายเวลาเปิดทำการที่ทำการไปรษณีย์สมุทรสาคร (ถนนพระราม 2) จันทร์-ศุกร์ถึง 2 ทุ่ม และที่ทำการไปรษณีย์กระทุ่มแบน จันทร์-ศุกร์ ถึง 6 โมงเย็น
กระทั่งปี 2561 ขยายเวลาเปิดทำการที่ทำการไปรษณีย์มหาชัย จันทร์-ศุกร์ถึง 1 ทุ่ม และยังพบว่า ที่ทำการไปรษณีย์อ้อมน้อย ขยายเวลาเปิดทำการจันทร์-ศุกร์ ถึง 6 โมงเย็นอีกด้วย
ล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ไปรษณีย์ไทย เปิดให้บริการเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ตั้งอยู่ที่ชั้น G ลงบันไดเลื่อนหน้าท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย
โดยเคาน์เตอร์แห่งนี้อยู่ในความควบคุม/กำกับดูแลของ ปจ.สมุทรสาคร นับเป็นจุดบริการเพียงแห่งเดียวในจังหวัด ที่เปิดให้บริการทุกวัน รวมทั้งวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น.
ปัจจุบัน ไปรษณีย์ไทยมีจุดให้บริการในจังหวัดสมุทรสาคร รวม 15 แห่ง แบ่งออกเป็น ที่ทำการไปรษณีย์ 7 แห่ง เคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ 3 แห่ง ร้านไปรษณีย์ไทย 4 แห่ง และไปรษณีย์รถยนต์ 1 แห่ง
ขณะที่ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ก่อนหน้านี้ประกาศว่า ได้ขยายจุดให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนเป็น 10,000 แห่งทั่วประเทศ และทุบสถิติผู้ใช้บริการส่งพัสดุด่วนแตะ 2 ล้านกล่องต่อวัน เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา
ในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่าได้ขยายจุดให้บริการมากถึง 218 จุด ประกอบด้วย ร้านพาร์เซลช็อบ (Parcel Shop) 22 แห่ง พบในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. มากถึง 8 แห่ง
จุดบริการร้านค้าพาร์ทเนอร์ 40 แห่ง อยู่ในร้านควิก เซอร์วิส และร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ แฟมิลี่มาร์ท, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส และจุดบริการร้านค้ารายย่อย 156 แห่ง ตามร้านค้าในแหล่งชุมชนต่างๆ
แม้จะมีผู้ให้บริการหน้าใหม่เข้ามาในตลาด แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองเจ้ายังคงขับเคี่ยวการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งในอนาคต จุดบริการเหล่านี้จะเข้ามารองรับธุรกิจในรูปแบบอื่นอีกด้วย
-กิตตินันท์ นาคทอง-