เมื่อพูดถึงผลไม้จากแดนอาหรับอย่าง “อินทผลัม” หลายคนจะนึกถึงอินทผลัมอบแห้ง หรือน้ำอินทผลัมที่มีรสชาติหวานจับใจ ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ที่จริงแล้วก็มีอินทผลัมแบบพันธุ์กินผลสด ที่สามารถปลูกได้ในเมืองไทย และกำลังได้รับความนิยมจากเกษตรกรในหลายภูมิภาค เนื่องจากผลผลิตได้ราคาดี แม้จะออกผลผลิตเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายนก็ตาม
ในอินทผลัม มีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม ซัลเฟอร์ เหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมงกานีส แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไตล์ รวมถึงอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร และให้พลังงานสูง เมื่อกินแล้วช่วยให้ร่างกายสดชื่นและฟื้นฟูกำลัง
อีกทั้งอินทผลัมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด ช่วยปกป้องตับ ไต และหัวใจ ด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้จึงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมสำหรับคนรักสุขภาพ
วันก่อน “สาครออนไลน์” มีโอกาสร่วมงานเปิดสวนอินทผลัม ของนายสุชาติ หรือลุงโป้ย อาภาวุฒิภาคย์ วัย 68 ปี เกษตรกรดีเด่นระดับจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี 2556 สาขาอาชีพทำสวน
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชิมอินทผลัมสดจากสวน และเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก
ลุงโป้ย เล่าว่า เดิมสวนแห่งนี้ตนได้ปลูกพุทรา ฝรั่ง มะขามเทศ และมะพร้าวน้ำหอม มาทราบจากเพื่อนบ้านว่า ผลไม้อย่างอินทผลัม ขายได้กิโลกรัมละ 800 – 1,000 บาท ด้วยความสนใจตนจึงได้ศึกษาเรียนรู้การเพาะปลูกอินทผลัม
หลังจากนั้นประมาณปีกว่า จึงตัดสินใจซื้อพันธุ์เนื้อเยื่อบาฮี (Barhi or Bahee) ซึ่งในขณะนั้นขายต้นละ 2,000 บาท และสายพันธุ์อื่น ๆ นำมาปลูกทดลองจำนวนกว่า 300 ต้น บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ดูแลประคบประหงมเหมือนลูก โดยใช้ปุ๋ยชีวภาพเป็นหลัก
เวลาผ่านไป 3 ปี เมื่อถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว จึงได้ผลผลิตออกมาเป็นพวงสีเหลืองทองสวยงาม รสชาติหวานกรอบ เพราะปลูกในดิน 3 น้ำ ซึ่งมีความเค็มของดินที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก
โดยในปีนี้สวนลุงโป้ย มีผลผลิตอินทผลัมออกมาได้ประมาณ 50 ต้น แต่ตนทราบว่าช่วงนี้มีผลผลิตออกกันทุกสวน ราคาจึงตกอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 500 บาท ก็ยังถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับเกษตรกร
เพราะหนึ่งต้นสามารถให้ผลผลิตได้ถึง 100 กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรชาวสวนอินทผลัมพออยู่ได้ โดยมีพ่อค้าและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อกันถึงสวนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ลุงโป้ยยังได้แนะนำวิธีการเลือกดูอินทผลัมที่มีรสชาติหวาน โดยให้สังเกตจากผิวของผลอินทผลัมที่มีลักษณะเป็นลายงา และวิธีกินโดยให้กัดแบบทางขวาง เพราะผลของอินทผลัมส่วนหัวมีรสหวาน ส่วนท้ายมีรสฝาด เมื่อกินทั้งสองส่วนรวมกันจะทำให้มีรสชาติที่อร่อย
สำหรับผู้ที่สนใจในผลไม้ชนิดนี้ ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมที่สวนลุงโป้ยได้ทุกวัน โดยใช้เส้นทางจากถนนพระราม 2 เข้าสู่ถนนสายสวนส้มประมาณ 2.8 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าซอยหมู่ 1 ตำบลท่าทราย บริเวณร้านยกยอริมคลอง ตรงเข้าไปอีก 2.5 กิโลเมตร สวนลุงโป้ยจะอยู่ตรงสุดทาง
ทั้งนี้ ทางตัวลุงโป้ยเองจะพาไปชิมถึงสวน พร้อมให้คำแนะนำถึงวิธีการปลูกอินทผลัมอย่างไรให้ได้ผลอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-2874256 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สวนลุงโป้ย อินทผาลัม สมุทรสาคร”
– กิตติกร นาคทอง –