แม้ข่าวคราวโครงการโรงแรมฟอร์จูน สมุทรสาคร จะหายไปกว่า 2 ปี จากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในปี 2565 อาจจะได้เห็นโรงแรมฟอร์จูน ดี สมุทรสาคร ของกลุ่ม ซี.พี.แลนด์ เปิดให้บริการในรูปแบบ “บัดเจ็ท โฮเทล” แห่งแรกในสมุทรสาคร
บัดเจ็ท โฮเทล (Budget Hotel) เป็นเครือข่ายโรงแรมราคาประหยัด ที่เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น เตียงนอน เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็นขนาดเล็ก เครื่องทำน้ำอุ่น โดยคิดราคาห้องพักสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
ข้อมูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า จังหวัดสมุทรสาครมีโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตจำนวนทั้งสิ้น 37 แห่ง แบ่งออกเป็นอำเภอเมืองสมุทรสาคร 24 แห่ง อำเภอกระทุ่มแบน 11 แห่ง อำเภอบ้านแพ้ว 3 แห่ง
โรงแรมส่วนใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาคร จะเป็นประเภทมีห้องพักอย่างเดียว และเมื่อตรวจสอบรายชื่อโรงแรม มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นโรงแรมม่านรูด
ส่วนโรงแรมที่มีห้องอาหารและห้องประชุมสัมมนา มี 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทรัลเพลส จำนวน 55 ห้อง, โรงแรมพรีเมี่ยมเพลส จำนวน 44 ห้อง ซึ่งอยู่ติดกัน และ โรงแรมแกรนด์ อินเตอร์ โฮเทล จำนวน 79 ห้อง
โรงแรมที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุดในจังหวัดสมุทรสาคร คือ โรงแรมท็อปอินน์ จำนวน 80 ห้อง ส่วนโรงแรมที่มีจำนวนห้องพักน้อยที่สุด คือ โรงแรมกระทุ่มแบน จำนวน 10 ห้อง ตามที่ระบุในใบอนุญาตโรงแรม
ไม่นับรวม “สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม” ซึ่งรับแจ้งจากกรมการปกครอง มี 3 แห่งในอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้แก่ ความสุขโฮมสเตย์ จำนวน 1 ห้อง โคกขามฟิชชิ่งโบ๊ท โฮมสเตย์ จำนวน 4 ห้อง และบ้านสวนริมน้ำโฮมสเตย์ จำนวน 3 ห้อง
อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 สมุทรสาครกำลังจะมีโรงแรมบัดเจ็ทโฮเทลแบรนด์ใหญ่ เข้ามาเปิดให้บริการแห่งแรก ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน ดี สมุทรสาคร ขนาด 78 ห้องพัก ของ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงแรมในเครือฟอร์จูน
ตามเป้าหมาย ซี.พี.แลนด์จะเริ่มพัฒนาบัดเจ็ทโฮเทล 4 แห่ง นอกจากโรงแรมฟอร์จูน ดี สมุทรสาครแล้ว ยังจะมี โรงแรมฟอร์จูน ดี ปราจีนบุรี ขนาด 78 ห้องพัก ใกล้ทางเข้านิคมอุตสาหกรรม 304, โรงแรมฟอร์จูน ดี บุรีรัมย์ ตั้งอยู่ข้างโรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์
โรงแรมฟอร์จูน ดี ขอนแก่น ติดกับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ถนนมิตรภาพ แบ่งเป็น 2 เฟส รวม 156 ห้องพัก ได้แก่ เฟสแรก 78 ห้องพัก จะเริ่มพัฒนาในไตรมาส 1-2/2565 และเฟสสอง 78 ห้องพัก จะเริ่มพัฒนาปลายปี 2565 เพื่อรองรับลูกค้าตลาดประชุมสัมมนา
นายเชิดชัย กมลเนตร รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจโรงแรม ซี.พี.แลนด์ ระบุว่า ตามแผนลงทุนโรงแรมของบริษัทในช่วง 5 ปีนับจากนี้ ตั้งแต่ปี 2565-2569 ตั้งเป้าพัฒนาโรงแรมใหม่อีก 39 แห่ง ใช้เงินลงทุน 2,200 ล้านบาท
โดยมากกว่า 30 แห่ง อยู่ในกลุ่ม “บัดเจ็ท โฮเทล” ขนาดห้องพักไม่เกิน 79 ห้อง กระจายในต่างจังหวัด ใช้เงินลงทุนรวมค่าที่ดินประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อแห่ง แบ่งออกเป็นสองแบรนด์ ได้แก่ “โรงแรมฟอร์จูน ดี” จะไม่มีบริการอาหารเช้า
ส่วน “โรงแรมฟอร์จูน ดี พลัส” จะเพิ่มบริการอาหารเช้า กลุ่มเป้าหมายจะเจาะฐานลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ เช่น เมืองท่องเที่ยว เมืองชายแดน แหล่งนิคมอุตสาหกรรม รองรับการเข้าพักระยะสั้นและตลาดการจัดประชุมสัมมนา
ชูจุดขายราคาเข้าถึงง่าย 700-1,200 บาทต่อห้องต่อคืน มีตู้เซฟภายในห้องพัก ที่บัดเจ็ทโฮเทลแบรนด์อื่นๆ ยังไม่มี และจะนำตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (เวนดิ้ง แมชชีน) ของซีพีออลล์มาให้บริการในโรงแรมดังกล่าว
พร้อมกันนี้ ในเดือนมกราคม 2565 เตรียมที่จะเปิดตัวโปรแกรมสิทธิประโยชน์ (ลอยัลตี้ โปรแกรม) ร่วมกับทรูดิจิทัลเพื่อขยายฐานลูกค้า นอกจากจะได้รับส่วนลดราคาห้องพักแล้ว ยังสามารถแลกคะแนนสะสมเป็นพอยต์โอนเข้าทรูมันนี่วอลเลตได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ซี.พี.แลนด์ ได้จัดซื้อที่ดิน เนื้อที่ 12 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา ถนนเศรษฐกิจ 1 ติดกับปั๊มน้ำมันบางจาก ใกล้ห้างบิ๊กซี มหาชัย เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม โครงการเอส คอนโด สมุทรสาคร เปิดตัวโครงการไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558
ต่อมาในปี 2562 ซี.พี.แลนด์ ได้ออกแบบและขออนุญาตก่อสร้าง โครงการโรงแรมฟอร์จูน สมุทรสาคร เพื่อพัฒนาที่พักรองรับกลุ่มคนที่เดินทางมาทำงานในโรงงานย่านมหาชัย ที่ต้องการโรงแรมคุณภาพดี
รูปแบบจะเป็นโรงแรมขนาด 100 ห้อง พร้อมห้องจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนา มูลค่าการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยได้เริ่มลงเสาเข็มในไซต์ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว แต่ภายหลังได้ชะลอโครงการเล็กน้อยเพื่อดูภาวะเศรษฐกิจภาพรวม
ปี 2563 สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการปิดประเทศ โดยเฉพาะคลัสเตอร์ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 ทำให้ข่าวคราวโครงการโรงแรมฟอร์จูน สมุทรสาคร หายไป
กระทั่งเมื่อเดือน พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ซี.พี.แลนด์ เปิดเผยว่า ในปี 2565 จะขยายธุรกิจโรงแรม เน้นเมืองท่องเที่ยว ด่านการค้าชายแดน แหล่งนิคมอุตสาหกรรม
โดยหันมาโฟกัสโรงแรมที่เจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อรองรับดีมานด์ของกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ หลังพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป นิยมหาประสบการณ์และสัมผัสกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ แต่ยังคงชอบที่พักเน้นความสะดวกสบายและสะอาดเป็นสำคัญ
นายสุนทรมั่นใจว่า “ปี 2565 เศรษฐกิจไทยและภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564”
กลายเป็นว่าโครงการโรงแรมฟอร์จูน สมุทรสาคร เปลี่ยนรูปแบบจากโรงแรมที่มีห้องประชุมสัมมนา มาเป็นโรงแรมแบบบัดเจ็ท โฮเทล ประเภทมีห้องพักอย่างเดียว แต่การให้บริการจะเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา
ปัจจุบัน เครือข่ายบัดเจ็ท โฮเทลในประเทศไทย มีสองเจ้าใหญ่ๆ ได้แก่ โรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ของดิเอราวัณกรุ๊ป เปิดสาขาแรกที่ จ.หนองคาย เมื่อปี 2557 ปัจจุบันมีอยู่ 43 สาขาในไทย และ 6 สาขาในประเทศฟิลิปปินส์
แม้สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบไม่แพ้ผู้ประกอบการโรงแรมรายอื่น แต่อัตราการเข้าพักของกลุ่มโรงแรมฮ็อปอินน์ ใช้เวลาฟื้นตัวสั้นที่สุด เมื่อเทียบกับโรงแรมในกลุ่มอื่น หลังผ่อนปรนมาตรการของภาครัฐ
โดยเมื่อเดือน พ.ค. 2564 อัตราการเข้าพักต่ำสุดเพียง 23% แต่เดือน มิ.ย. 2564 ฟื้นตัวเป็น 35% และมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะนี้ฮ็อปอินน์กำลังขยายโรงแรมในไทยเพิ่มอีก 7 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ 3 สาขา (อ่อนนุช, บางนา, กรุงธนบุรี) นครราชสีมา (สาขา 2), น่าน, มหาสารคาม และชัยภูมิ แต่ยังมีความล่าช้าจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ในไซต์งานก่อสร้าง
อีกแบรนด์หนึ่ง คือ โรงแรมบีทู (B2) ของกลุ่มจาวลา เชียงใหม่ กรุ๊ป มีสาขาในจังหวัดเชียงใหม่มากที่สุดถึง 16 แห่ง ก่อนขยายสาขาทั่วประเทศไปกว่า 50 สาขา ล่าสุด เตรียมเปิดตัวแฟรนไชส์ โรงแรมบีทูประตูช้างเผือก พรีเมียร์ จ.เชียงใหม่
แม้สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ลดจำนวนลง แต่เครือโรงแรมบีทูทุกสาขา ยังคงมีอัตราการจองห้องพักเข้ามาเป็นแนวโน้มที่ดีอยู่เสมอ เนื่องจากได้รับความนิยมจากตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักถึง 80% และมีฐานลูกค้าที่เป็นแบรนด์ลอยัลตี้ซึ่งมีความคุ้นเคยกับแบรนด์อยู่เป็นจำนวนมาก
นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ซี.พี.แลนด์ หันมาโฟกัสการลงทุนกลุ่มบัดเจ็ท โฮเทลเป็นหลัก แม้สมุทรสาครจะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่หากผลตอบรับดีอาจจะมีกลุ่มบัดเจ็ท โฮเทลรายอื่นๆ เข้ามาลงทุนเปิดสาขาก็เป็นได้
-กิตตินันท์ นาคทอง-