สืบเนื่องมาจากในรอบปี 2554 ที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรสาครมีคดีอาชญากรรมที่สำคัญเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะกับบุคคลสำคัญระดับนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวภาคประชาชน อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง ที่นำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา นำมาซึ่งความสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต รวมทั้งก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสวัสดิภาพของประชาชน

คดีอาชญากรรมสำคัญที่สะท้อนถึงภาพความรุนแรงในจังหวัดสมุทรสาคร และหลายคดีกลายเป็นข่าวที่เผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชนไปทั่วประเทศ ตัวอย่างเช่น การเสียชีวิตของนายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านถ่านหิน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตจังหวัดสมุทรสาคร จากการถูกลอบสังหารบริเวณหน้าบ้านพักในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ท่าทราย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา

การเสียชีวิตของนายผิน ตราชู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย จากการถูกบุคคลใกล้ชิดยิงด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ ในร้านอาหารครัวลุงดำ หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุดกับการสังหารนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เสียชีวิตหน้าห้องน้ำ ปั้มน้ำมัน ปตท. หมู่ที่ 7 ต.ท่าทราย เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดสูงเป็นอันดับต้นของประเทศ ที่ผ่านมามีความสงบทางการเมืองมาโดยตลอด โดยเฉพาะวิกฤตการเมืองระดับชาติในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนแต่ละฝ่ายต่างแสดงออกทางการเมืองโดยเสรี ไม่เคยมีภาพของการใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวจังหวัดสมุทรสาครสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีคดีสังหารนักการเมืองท้องถิ่น และคดีฆาตกรรม แต่ก็เกิดขึ้นด้วยปัจจัยขัดแย้งในเชิงผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น หากนับตั้งแต่การลอบสังหารนายทองนาค เสวกจินดา แกนนำต่อต้านถ่านหิน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตจังหวัดสมุทรสาครเป็นต้นมา กระทั่งเป็นข่าวผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ถือเป็นจุดเริ่มต้นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อต่อต้านอำนาจรัฐ และอำนาจทุนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน อันเนื่องมาจากมลพิษในการนำเข้าและใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงแทนน้ำมันเตา

การเสียชีวิตของนายผิน ตราชู สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบอันเนื่องมาจากการใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพว่าเกิดขึ้นด้วยอารมณ์บันดาลโทสะ แต่สะท้อนให้เห็นว่าความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิง โดยปล่อยให้มีการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย นำไปสู่การใช้อาวุธทำลายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต

การเสียชีวิตของนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าการใช้ความรุนแรงด้วยอาวุธอาจกลายเป็นค่านิยมทางการเมือง โดยเฉพาะในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นถึงสองสนามใหญ่ในปี 2555 ได้แก่ การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ หากเป็นเช่นนั้น ต้องถือว่าเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ นำพาให้จังหวัดสมุทรสาครถอยหลังลงคลอง กลายสภาพไม่ต่างจากบ้านป่าเมืองเถื่อน จากการใช้ความรุนแรงเพื่อเอาชนะกันและกัน

แม้การทำหน้าที่ของตำรวจในการคลี่คลายคดีสำคัญ จะสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ แต่อีกด้านหนึ่งกลับพบว่าคดีอาชญากรรมในลักษณะการสังหารฝ่ายตรงข้าม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตัดสินปัญหาโดยใช้ความรุนแรง นับวันจะมีเพิ่มมากขึ้น กองบรรณาธิการสาครออนไลน์ได้ติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและเรื่องส่วนตัวของแต่ละกรณีมาโดยตลอด มีข้อห่วงใย ความคิดเห็น และข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1. ขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองซึ่งทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ดูแลความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน ออกมาให้ความสำคัญต่อการยุติความรุนแรงในช่วงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะการสอดส่องดูแลการพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด สิ่งผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล และกดดันซุ้มมือปืนในช่วงเวลานี้ อันเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและป้องกันเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคดีอาชญากรรมรูปแบบอื่นๆ ที่กำลังคุกคามความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และสวัสดิภาพของประชาชน ควรที่จะออกมาดูแลและกวาดล้างอย่างจริงจังโดยเร็ว

2. จากเหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น การแข่งขันทางการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ จะมีแนวโน้มเป็นไปอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น ขอให้นักการเมืองได้ใช้อุทาหรณ์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ต่อสู้ทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ปราศจากการใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา โดยคำนึงถึงชื่อเสียงของจังหวัดมากกว่าประโยชน์ส่วนตน รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อถูกร้องขอโดยไม่เลือกปฏิบัติ

3. คดีลอบสังหารบุคคลสำคัญที่กล่าวมาข้างต้น รวมทั้งคดีอาชญากรรมอื่นๆ ขอให้ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดี ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม โดยไม่เข้าข้างผู้กระทำความผิด ปราศจากอำนาจเงินและอิทธิพลครอบงำ ในรายที่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว ส่วนคดีที่กำลังดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ขอให้คลี่คลายคดีและได้ตัวผู้กระทำความผิด เพื่อพิสูจน์ให้ชาวจังหวัดสมุทรสาครมีความเชื่อมั่นต่อสวีสดิภาพและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

4. สาครออนไลน์ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน และเยาวชนร่วมกันรณรงค์และแสดงออกโดยวิธีต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการยุติการใช้ความรุนแรง และหยุดวิกฤตนองเลือดในจังหวัดสมุทรสาคร แม้จะไม่สามารถหยุดยั้งความรุนแรงที่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด แต่อย่างน้อยความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า จะเป็นภูมิคุ้มกันไม่ให้จังหวัดสมุทรสาครถูกทำร้ายด้วยความรุนแรง ซึ่งอาจนำความสูญเสียมายังประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็เป็นได้

เราเชื่อว่า ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหา มีแต่จะสร้างบาดแผลและความร้าวรานให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ นำไปสู่ค่านิยมในการใช้ความรุนแรงเพื่อล้างแค้นหรือเพื่อตัดสินปัญหาโดยไม่รู้จักจบสิ้น เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกภาคส่วนของสังคม เห็นด้วยที่จะร่วมกันยุติการใช้ความรุนแรง และหยุดวิกฤตนองเลือดในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านวัตถุ และจิตใจที่เต็มไปด้วยความดีงาม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกลับคืนมาอีกครั้ง

กองบรรณาธิการสาครออนไลน์
26 ธันวาคม 2554